ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอาชีพ “เกษตรกร” ถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติที่ยึดโยงประเทศไทยให้เหยียดตรงอย่างสง่างามและภาคภูมิใจเรื่อยมาเป็นเวลาช้านาน แต่เบื้องหลังหน้าฉากอันสวยงามกลับเป็นเพียงเสี้ยวธุลีที่เกษตรกรได้รับเป็นค่าตอบแทนความเหนื่อยยากแสนสาหัสบนวัฏจักรที่ไม่มีวันจบสิ้น กำเนิด “คำนึงกรุ๊ป อินเตอร์เทรด” ฟางแต่ละเส้นที่นำมามัดรวมกันจนกลายเป็นเชือกที่แข็งแกร่ง ก่อนที่จะมีการลงทุนในรูปแบบนิติบุคคลที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ “กลุ่มคำนึง” เป็นเพียงเกษตรกรที่ผลิตข้าวออแกนิกโภชนาการสูงภายใต้โครงการของกระทรวงพานิชย์เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเมื่อหลายปีก่อน จนกระทั่งภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการด้านการลงทุนและการตลาด ได้เล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดแนวคิดนี้ จึงได้เข้ามาลงทุนร่วมกันในนาม “บริษัท คำนึงกรุ๊ป อินเตอร์เทรด จำกัด” พร้อมผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนที่มีศักยภาพในแต่ละด้านมาผสานเข้ากับองค์ความรู้ เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อแก้ปัญหาวิถีผลิตข้าวของชาวนาจากเดิมที่เคยส่งข้าวเปลือกให้คนอื่นแปรรูปขาย ให้หันมาตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ปัญหาและเข้าถึง “การควบคุมการผลิตข้าวอินทรีย์แบบครบวงจร” โดยเน้นให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตัวเองได้ในรูปแบบกิจการเพื่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกของเมืองไทย พร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตในระบบอินทรีย์ของไทยให้กลับมาสยายปีกบนเวทีโลกอีกครั้ง การจะเป็นเกษตรกร “คำนึงกรุ๊ป” ต้อง “คำนึง” ถึงอะไรบ้าง เนื่องจากกุญแจของการมีสุขภาพที่ดีเริ่มต้นด้วย “อาหาร” ที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย เพราะฉะนั้นการจะเป็นเกษตรกรคำนึงกรุ๊ปได้ จึงต้องมีทัศนคติที่ดีต่อการทำเกษตรอินทรีย์ก่อนเป็นอันดับแรก และพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับวิถีการทำนาจากการใช้สารเคมีมาเป็นการเข้าใจระบบนิเวศอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังต้องมีความอดทนและมุ่งมั่นตั้งใจในการฟื้นฟูธรรมชาติ พร้อมผลิตอาหารปลอดภัยแก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง ที่สำคัญคือต้องมีพื้นที่ทางการเกษตรภูมิประเทศและสภาพอากาศเหมาะสม ครอบคลุมพื้นที่ภาคอีสานตอนบนและตอนล่างก่อนเป็นการนำร่อง โดยมีพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นศูนย์กลาง ไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทางธรรมชาติ ห่างไกลจากแปลงข้าวที่มีสารเคมีปนเปื้อน และอยู่บนพื้นที่ปลูกข้าวนาปีและปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อรักษาสมดุลของแร่ธาตุในดินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าข้าวที่ได้มาจะเป็น “ธัญโอสถ” ที่อุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุที่สำคัญเพื่อเสริมสร้างให้ผู้บริโภคมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ภายใต้การดำเนินงานอย่างพิถีพิถันตามมาตรฐานสากลในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวไปจนถึงการส่งมอบคุณค่าถึงมือผู้บริโภค ผลผลิตจาก “ความบากบั่น” สู่ “ผลิตภัณฑ์ออแกนิก” มาตรฐานสากล จากความตั้งใจอันแน่วแน่ของ “คำนึงกรุ๊ป อินเตอร์เทรด” ที่หลอมรวมผู้คนที่มีศักยภาพในหลายๆ ด้านเพื่อขับเคลื่อนกิจการเพื่อสังคมอย่างเป็นระบบ จนสามารถพัฒนาต่อยอดการผลิตและส่งออกข้าวอินทรีย์โภชนาการสูงหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่, ข้าวปิ่นเกษตร 1, ข้าวปิ่นเกษตร 4, ข้าวสินเหล็ก และข้าว 3 พันธุ์น้ำตาลต่ำออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปิ่นเกษตร ข้าวปิ่นเกษตร 4 ข้าวสินเหล็ก ข้าว 3 พันธุ์น้ำตาลต่ำ ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดสินค้าอินทรีย์ในระดับโลกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน และในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการลดอัตราเสี่ยงการป่วยเป็นโรคเบาหวานอันนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ ตามมาในอนาคต จนก่อเกิดเป็นแบรนด์ “ญาโม (Yahmo)” ซึ่งตอนนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามในต่างแดน แต่ถึงกระนั้นทางบริษัทก็ยังไม่หยุดพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูปอื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคอีกมากมาย อาทิ ข้าวพองดัชนีน้ำตาลต่ำจากข้าวขาวปิ่นเกษตร 4, น้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่, เครื่องดื่มไรซ์เบอร์รี่, เครื่องดื่มเลม่อนไรซ์เบอร์รี่แท้ 100%, ครีมบำรุงผิวกาย ครีมอาบน้ำ ยาสระผม และครีมนวด จากข้าวไรซ์เบอร์รี่และข้าวหอมมะลิ พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดเอเชีย ยุโรป และอเมริกา อย่างต่อเนื่อง ระเบิดคุณค่าจากภายในสร้างแรงกระเพื่อมเพื่อปฏิวัติวงการเกษตรไทยในอนาคต แน่นอนว่าการผนึกกำลังกันในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เกื้อหนุนให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่โมเดลธุรกิจนี้ยังสามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกแผ่กระจายไปยังสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง ด้วยการใช้แรงงานที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและความเป็นปึกแผ่นในสังคมการเกษตร เมื่อเกษตรกรมีภูมิคุ้มกันก็จะสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องอาศัยการอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นหลักก็จะช่วยสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในกลไกตลาดบ้านเรา ให้สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยคุณภาพที่อัดแน่นอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ถือกำเนิดขึ้นจากการยืนหยัดเพื่อปกป้องและรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติให้ดำรงอยู่สืบไป แล้วผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจะเป็นใคร…หากไม่ใช่ “ผู้บริโภค” ที่สามารถมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตั้งแต่วันนี้ “บริษัท คำนึงกรุ๊ป อินเตอร์เทรด จำกัด” จึงถือเป็นหนึ่งโมเดลธุรกิจของไทยที่หน้าจับตาที่สุดอีกโมเดลหนึ่ง ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากคนกลุ่มเล็กๆ ที่สามารถขยับขยายจนกลายเป็นเครือข่ายเกษตรกรขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งได้ในอนาคต และพร้อมก้าวเข้ามาช่วยกันสร้างมาตรฐานการผลิตในระบบอินทรีย์ของไทยยอมรับในระดับโลก เราจึงได้แต่หวังให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันกิจการเพื่อสังคมดีๆ แบบนี้กันเยอะๆ เพราะไม่แน่ว่านี่อาจจะโมเดลธุรกิจที่สามารถปฏิวัติวงการเกษตรไทยไปตลอดกาลเลยก็เป็นได้
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market