หลายวันนี้ ได้อ่านสรุปชีวิตในช่วงปีที่ผ่านมาของหลายๆ คน ผมว่าดีทั้งกับตัวเราที่ได้มีโอกาสย้อนกลับไปสรุปบทเรียน พร้อมมองแนวทางของปีต่อไป นอกจากนั้น คนอื่นที่อ่านก็มีโอกาสได้เรียนรู้ไปด้วย สิ่งที่ดีที่สุดในมุมมองของผมคือ ส่วนใหญ่แล้ว คนจะสรุปหลายๆ ด้านของชีวิต ถ้าเป็นไปได้…เราคงอยากใช้เวลาที่มีพัฒนาทุกด้านให้สุดยอด แต่ปัญหาคือ เวลาคือทรัพยากรที่เรามีจำกัด เวลาที่เราใช้กับเรื่องหนึ่งคือเวลาที่เราไม่ได้ใช้กับอีกเรื่องหนึ่ง เราคงไม่สามารถขยันทำงานเต็มที่ ดูแลพ่อแม่ดีสุดๆ ใช้เวลากับแฟนมากสุดๆ ประหยัดอดออมสุดๆ ออกกำลังกายมากๆ ไปเที่ยวบ่อยๆ ได้ในเวลาเดียวกัน เวลาที่จำกัดทำให้เราอาจไม่สามารถตั้งเป้าหมายชีวิตให้ออกมาดีที่สุดในทุกๆ ด้านได้ มันต้องมีการ Trade off คือเราต้องเลือก นั่นอาจเป็นเหตุผลว่า ทำไมการตั้งเป้าหมายจึงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะคนแต่ละคนให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ ไม่เท่ากัน เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับคนหนึ่งอาจเป็นเรื่องสำคัญลำดับท้ายๆ ของอีกคนก็เป็นได้ ขนาดเวลาเรากินบะหมี่สำเร็จรูป บางทีเรายังปรุงเพิ่ม เป้าหมายสำเร็จรูปที่เหมาะสำหรับทุกคนโดยไม่ต้องปรับแต่งเลยคงไม่มีในโลก Credit : internal-acceptance-movement.tumblr.com ผมเคยเห็นรูปใน Facebook ที่มีตัวอักษรเยอะๆ แล้วบอกว่า คำที่เราเห็น 3 คำแรกคือสิ่งที่เราจะได้เจอในปีหน้า ผมคิดว่า เราควรหาเวลามานั่งคิดเหมือนกันว่า เรื่องสำคัญ 3 เรื่องแรกของเราคือเรื่องอะไร คิดได้แล้วค่อยมาตั้งเป้าหมาย เพราะการตั้งเป้าหมายแบบไม่มีทิศทาง อาจทำให้เราใช้เวลาผิดเรื่อง อย่าตั้งเป้าหมายที่ไม่ใช่ของเราจริงๆ อย่าเสียเวลาไล่ล่าฝันของคนอื่น Credit : rockland.lohudblogs.com . ประเด็นที่สอง หลายคนชอบตั้งเป้าหมายใหญ่ เป้าหมายของทั้งปี โดยไม่ได้แตกออกมาเป็นเป้าหมายย่อย การตั้งเป้าหมายใหญ่เกินไป ไกลเกินไป มีข้อเสียสองเรื่อง เรื่องแรก ด้วยความที่มันเป็นเป้าหมายในช่วงเวลาที่ยาวนาน เราจะไม่ค่อยได้วัดผล รอไปวัดผลตอนสิ้นปีเลย ซึ่งมันอาจจะทำให้ 1. เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เราลืมเป้าหมายของเราไปแบบหมดสิ้น 2. เราขาดแรงกระตุ้น เพราะขาดการวัดผล การติดตามความก้าวหน้า และการให้รางวัลตัวเองเป็นระยะๆ 3. ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรตามที่ตั้งใจไว้เลยมาสักพัก เราจะล้มเลิกได้ง่าย ในทางกลับกัน ถ้าเราซอยเป็นเป้าหมายย่อยๆ การพลาดเป้าหมายแรกๆ จะไม่ทำให้เราล้มเลิก เพราะมันเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของเป้าหมายรวม Credit : triathlonchn.com เรื่องที่สอง การตั้งเป้าหมายในช่วงเวลาที่ยาวนานเกินไป อาจทำให้เราประเมินคุณค่าและผลกระทบของการกระทำในแต่ละวันของเราต่ำเกินไป เรามีโอกาสลืมไปว่า การเดิน 10,000 ก้าว เกิดจากการเดินทีละก้าว 10,000 ครั้ง ช่วงหนึ่ง บ้านผมอยู่ใกล้ห้างแบบเดินถึง ผมเลยเดินไปกินข้าวกลางวันแทบทุกวัน และในแต่ละวัน ผมก็จะซื้อของกินของใช้ต่างๆ กลับมาตามที่พอหิ้วไหว พอถึงสิ้นปี ผมได้รับจดหมายจากห้างว่าให้ไปรับสติกเกอร์ Valet parking สำหรับปีหน้าตลอดปี เพราะผมซื้อของมากเป็นลำดับต้นๆ ของห้าง ผมอ่านจดหมายจบ เกิดอาการเอ๋อเล็กน้อยว่ามันเป็นไปได้ไง แต่มันก็ได้แสดงให้ผมเห็นอย่างเด่นชัดถึงผลของการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำในแต่ละวัน Credit : entrepreneur.com อย่างที่มีคนเคยพูดไว้ทำนองว่า ชีวิตคนเราไม่ได้เป็นผลของสิ่งที่เราทำหนักๆ แต่ทำนานๆ ครั้ง แต่เป็นผลจากสิ่งที่เราทำทุกวันต่างหาก คนเรามักประเมินผลของการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำทุกวันต่ำเกินไป แล้วกว่าเราจะรู้ซึ้งถึงผลที่ว่า หลายครั้ง มันก็สายไปแล้ว มันก็เป็นอย่างที่ Warren Buffett เคยบอกไว้ “ผู้หญิงท้องเก้าคนไม่สามารถให้กำเนิดเด็กในเวลาหนึ่งเดือนได้” แทบทุกเรื่องในโลกต้องอาศัยเวลา มันขึ้นอยู่กับเราว่า เรายินยอมที่จะใช้เวลาที่ว่าหรือเปล่า และจะใช้มันกับเรื่องอะไร ขอขอบคุณบทความจาก : พรชัย รัตนนนทชัยสุข ภาพประกอบ : danpontefract.com
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market