หากจะถามหานักธุรกิจหญิงแถวหน้าแห่งวงการค้าปลีกเมืองไทย ลำดับต้นๆ ที่ทุกคนจะนึกถึงคือ คุณศุภลักษณ์ อัมพุช ผู้หญิงร่างเล็กไว้ผมทรงบ๊อบที่เห็นจนเจนตาแต่แกร่งเกินตัว เจ้าของสมญานาม ‘WONDER WOMAN OF RETAIL IN THAILAND – หญิงแกร่งแห่งวงการธุรกิจค้าปลีก’ รองประธานกรรมการ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และประธานกรรมการ ดิ เอ็มโพเรี่ยม … ว่ากันว่าทุกครั้งที่เดินหน้าออกรบต่อกรกับคู่แข่งในแวดวงธุรกิจค้าปลีก เธอผู้นี้ไม่ได้ดูด้อยกว่าใครเลย นี่จึงนับเป็นโอกาสอันดียิ่ง ที่เราจะได้ทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น แล้วคุณจะรู้ว่า กว่าที่เธอจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 

15086316_10153966312392050_1804643149_nKS : ก้าวเข้ามาเริ่มต้นงานบริหารศูนย์การค้าได้อย่างไรครับ

“เป็นเด็กขี้อาย เรียนโรงเรียนมาแตร์ ที่บ้านก็ไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านนี้ ก็ทำเกี่ยวกับงานบันเทิง เป็นคนชอบเรียนหนังสือ ก็เรียนหนังสืออย่างเดียว พอดีเป็นลูกสาวคนโตคุณพ่อก็จะหวงมาก จบจากมาแตร์ก็สอบติดหมอที่มหิดล แต่ไม่ชอบเป็นหมอ เรียนอยู่ได้สองปี ก็ย้ายไปเรียนเภสัชแทน พอจบปริญญาตรีที่มหิดลก็ย้ายไปเรียนต่อโท Purdue University ที่อเมริกา สาขาวิชาเภสัชอุตสาหกรรม ยังไม่ทันเรียนจบดี คุณพ่อก็จดหมายบอกให้กลับมาบริหารศูนย์การค้า เราก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็กลับมาตามคำสั่งคุณพ่อ มาถึงยังไม่ทันได้พักก็ต้องออกตระเวนเดินดูห้างต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ”

“ย้อนภาพไปตอนนั้นอายุยังน้อยมาก 20 กว่าๆ ตอนที่เริ่มมาทำงานก็นึกว่าพ่อให้เข้ามาทำในส่วนดีเทล แต่จริงๆ คือเป็นผู้จัดการเลย มีความรู้สึกว่าเราจะทำได้ยังไง จบเภสัชมา เริ่มต้นจากติดลบนะไม่ใช่แค่ศูนย์ เรียกว่าเริ่มต้นจากไม่รู้เรื่อง เป็นความท้าทายที่ไม่รู้ว่าเราจะเจออะไร มันต้องใช้ความพยายามมาก คือคนอื่นเขามีประสบการณ์มาก่อนแต่เราไม่มีเลย เพราะฉะนั้นเราต้องวิ่งหาประสบการณ์ ต้องพยายามสร้างตัวเราให้คนยอมรับ แล้วตอนนั้นคู่แข่งศูนย์การค้ามีไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง ช่วงนั้นมีเยอะมาก ส่วนใหญ่ผู้บริหารก็จะเป็นผู้ชาย เราเป็นเด็กจบใหม่แล้วก็เป็นผู้หญิง คนก็เข้ามาหาจะขอพบผู้จัดการ เขามาเห็นเรายังบอกว่าไม่ใช่ผู้จัดการ เขาคิดว่าเป็นเลขาฯหน้าห้อง”

15050264_10153966312397050_513886208_n
KS : ความยาก – ง่ายในการบริหารเดอะมอลล์ กรุ๊ป

“ช่วงแรกๆ ถือว่ายากพอสมควร เพราะว่าผู้บริหารในช่วงนั้นเข้ามาจากหลายสายเหลือเกิน แล้วเราเองก็ยังเด็ก เรื่องของการเมเนจเมนต์ก็เลยลำบาก ถูกซื้อตัวผู้บริหารไปหายหมดเลย สมัยนั้นมีนอนร้องไห้นะว่าตายแล้วจะทำงานยังไง คือโดนคนมาแย่งไปหมดเลย แต่ตอนหลังเราก็ได้คิดว่าต้องเป็นไฟว์เตอร์นะ ประสบการณ์มันเทรนให้เราเข้มแข็งขึ้น บางทีก็โดนห้างต่างชาติบีบบ้างไม่ให้ลงสินค้าตัวนั้นบ้าง เราก็ต้องไฟว์ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไฟว์ของเราในที่นี้ไม่ใช่ปะทะกันนะ คือเราคิดว่าเราจะชนะเขาได้อย่างไร คำตอบคือเราก็ต้องคิดบียอนเขา ผูกพันธมิตรให้ได้มากที่สุด ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราจะต้องมีออเน็สตี้ มีซินเซียลิตี้ เราต้องไม่คิดเอาเปรียบเขา คือเสียเปรียบนิดหน่อยไม่เป็นไร เราต้องการขายในระยะยาว ตรงนี้ล่ะที่ทำให้เราได้ใจจากลูกค้าของเรา”

15135624_10153966312382050_1324465957_nKS : เทคนิคการบริหารงาน – บริหารคนของคุณศุภลักษณ์คืออะไรครับ

“ตอนนี้เรามีผู้บริหารและพนักงานที่ต้องดูแลหมื่นกว่าคน การคุมคนเยอะๆ เป็นเรื่องที่ต้องใช้พลังมาก พลังการเป็นผู้นำ ซึ่งตรงนี้จะต้องส่งความรู้สึกออกไปถึงเขา เป็นโรลโมเดลให้เขารู้ว่าเราเป็นผู้นำที่ดีอย่างไร อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องใช้พลังงานแล้วก็จิตวิทยาสูงมาก เพราะมนุษย์เราทุกคนก็มีอารมณ์ มีความต้องการ มีอะไรหลายๆ อย่าง ทำยังไงถึงจะทำให้เขามีความรู้สึกว่าเราให้ความรักกับเขา ซึ่งการทำตรงนี้มันก็ต้องใช้เวลาใช้ความพยายาม การบริหารงานมันต้องทำแบบมีขั้นตอน รัดกุม ทำด้วยความมุ่งมั่น การบริหารคนเป็นเรื่องของใจเลย ใจแล้วก็ค่าตอบแทนหรือน้ำใจที่มีให้เขา บางทีค่าตอบแทนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นเรื่องของความสุขด้วย นี่เป็นหัวใจหลักที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ”

“เราพยายามจะทำให้เขามีความรู้สึกว่าเขาร่วมเป็นเจ้าของ ซึ่งตัวนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากที่ทำให้เขาอยู่ได้นาน เพราะจริงๆ ในองค์กรของเดอะมอลล์เป็นบริษัทครอบครัว มีโปรเฟสชั่นนอลทำงานเยอะมาก เพราะครอบครัวมีนิดเดียวเองมีไม่กี่คน ทำยังไงจะให้โปรเฟสชั่นนอลมีความรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของร่วมกัน ร่วมมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาสร้างนานมาก ซึ่งเราก็ประสบความสำเร็จ เพราะผู้บริหารเราส่วนใหญ่ก็ยังอยู่กับเรา 20 ปี 25 ปี 30 ปี ที่ตลกมากเลยคือตอนเราเริ่มทำเดอะมอลล์ครั้งแรก เรามีพนักงานประมาณ 400 คน มีประมาณ 200 คนที่อยู่กับเราตั้งแต่วันแรก ก็ตกใจมากเลย อุ้ย ! เธออยู่กับฉันมาได้ยังไงตั้ง 30 ปี นี่คือความรักความผูกพัน และนี่เป็นส่วนที่สร้างความสำเร็จให้กับเรา”

KS : เมื่อต้องเจออุปสรรค คุณศุภลักษณ์มีวิธีการจัดการอย่างไรครับ

“เรื่องถอดใจนี่มีแน่นอน เพราะว่าบางทีเราก็เป็นผู้หญิงคนเดียว ทำทั้ง Retail ทำ Shopping Center ทั้ง Department Store พอเจอปัญหาหลายๆ เรื่องเข้ามาพร้อมกัน บางทีเราก็ ลุกขึ้นมาแล้ว เฮ้อ … อยากหายตัวไปอยู่บนเกาะเล็กๆ ไม่มีใครเลย มันเป็นเรื่องของปัญหาทั้งนั้น พอดีเป็นคนใส่ใจรายละเอียด แต่บางครั้งมาคิดดูก็มากเกินไป เราคงต้องปล่อยวางบ้าง มีคนบอกให้ไปนั่งสมาธิ ฉันนั่งไม่เป็น สงสัยชาติหน้าก็ยังนั่งไม่ได้ แต่ว่าเล่นโยคะได้ ให้เวลากับตัวเองวันละชั่วโมง ทำจิตใจให้โล่ง ก็รู้สึกว่าดีขึ้น อีกอย่างการได้ไปท่องเที่ยว ไปดูนู่นดูนี่ ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเราก็ชอบ แถมกลับมาแล้วเราจะมีอินสไปเรชั่นกลับมาด้วย”

KS : คุณศุภลักษณ์คิดว่า ณ วันนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ปประสบความสำเร็จแล้วหรือยังครับ

“ก็ภาคภูมิใจพอสมควรนะคะ นับจากวันแรกที่เปิดเจอยอดขายปีหนึ่งไม่เท่าไหร่ ไม่กี่ 10 ล้าน ตอนนี้ยอดขายเราก็ 4 – 5 หมื่นล้าน เราก็คิดว่า เออ.. มาถึงจุดนี้เวลาผ่านไป 30 ปี ก็ถือว่าขึ้นมาในระดับที่เป็นองค์กรที่คนยอมรับในประเทศ แล้วก็มีส่วนที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนะคะ อันนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียวแน่นอน เราต้องขอบคุณผู้บริหาร เพื่อนร่วมงาน พนักงานของเรา รวมทั้งคู่ค้าของเรา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมาจนทุกวันนี้”

KS : เป้าหมายต่อไปของคุณศุภลักษณ์และเดอะมอลล์ กรุ๊ปคืออะไรครับ

ด้วยความที่แต่เดิมเราไม่รู้อะไรเลยมันทำให้เราก้าวทีละสเต็ป ซึ่งตรงนั้นเป็นจุดดีนะ เพราะฐานเราก็จะแน่น ทีนี้สิ่งที่สำคัญ ณ ปัจจุบันคือเราจะถ่ายทอดวิทยายุทธ์เหล่านี้ให้กับคนรุ่นต่อไปยังไง ในส่วนของการขยายตัวก็เป็นเรื่องสำคัญ การขยายตัวนี่เราก็ต้องดูว่าองค์กรเราสามารถทำได้ในระดับไหน เราต้องมาดูตัวเราว่าเราจะเน้นอะไร เน้นปริมาณหรือเน้นคุณภาพ ซึ่งในองค์กรของเราจะเน้นเรื่องของคุณภาพ ก้าวหน้าและมั่นคงแต่กำลังดี”

15086401_10153966312407050_2066997211_n
KS : สุดท้ายนี้ อยากให้คุณศุภลักษณ์ฝากข้อคิดในการทำงานครับ

“อย่างแรกเลยต้องมีวิชั่น ทำยังไงให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามากจะดีหรือน้อยจะดี คือกำลังดีนั้นคือเรื่องที่หนึ่ง ต่อมาก็เรื่องของกลยุทธ์ในการทำงาน โครงสร้างองค์กรเป็นอย่างไร และผู้บริหารจะทำอย่างไรให้เขาทำงานได้ดี หรือมีโครงสร้างที่จะสามารถผลักดันตรงนี้ไปได้ อีกเรื่องก็คือการบริหารองค์กรให้คนทำงานมีความมุ่งมั่นและทีมเวิร์คที่ดี มันก็จะทำให้งานขับเคลื่อนไปอย่างสำเร็จ อีกเรื่องคือการเป็นผู้นำที่ดีต้องทำอย่างไร และเรื่องสุดท้ายก็คือจะทำยังไงให้ฐานลูกค้าหรือลูกค้าที่เรามีอยู่กับเราตลอดไป”


ขอบคุณภาพประกอบ (บางส่วน)
– Themall.co.th
– Prachachat.net
– Positioningmag.com


Comments are closed.

Check Also

THE GROWTH MUST GO ON | เจาะประเด็นพิเศษ เมกะโปรเจ็กต์ ‘โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ – สายไฟลงดิน’ กับ นายมงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา

พาดหัวแบบนี้เชื่อแน่ว่าหลายคนคงต้องห่อปากกู่ร้องส่งเสีย … …