“ความศรัทธาในพระองค์คือพลังแห่งความศรัทธาของปวงชน” และแม้ว่าพระองค์ท่านจะจากไป ก็จากไปเพียงพระวรกาย แต่ ‘มรดก’ ที่พระองค์ท่านทรงสร้างไว้จะสถิตอยู่ในใจคนไทยตราบนิรันดร์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพระราชดำริกว่า 4,447 โครงการ พระราชดำรัสนับหมื่นนับแสนอันทรงคุณค่า และพระราชจริยวัตรอันน่าเอาเยี่ยงอย่าง ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนแล้วแต่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ต่อชาวไทยและชาวโลกเอนกอนันต์อันหาใดเปรียบมิได้ มีคำกล่าวที่ว่า ‘คนไทยโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมีในพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้’ … ในดวงใจพสกนิกรทุกคน คำกล่าวนี้มิได้เกินเลยจากความเป็นจริงแต่อย่างใด ราวตะวัน จันทรา มาพลันดับ ดาราวับ วูบไป ร้างไกลถิ่น เสียงโหยไห้ โศกา ก้องแดนดิน ดังยลยิน ยันแผ่นฟ้า ด้วยอาดูร ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และน้อมอาลัยในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชาวโคราชทุกหมู่เหล่าจึงพร้อมใจกันถวายอาลัยแด่พระองค์ท่าน ‘พระเจ้าอยู่หัวในดวงใจ’ และนี่คือส่วนหนึ่งความในใจซึ่งถือเป็นตัวแทนของพสกนิกรเมืองย่าโม ในนามตัวแทนข้าราชการไทย พลโทวิชัย แชจอหอ | แม่ทัพภาคที่ 2 “พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนา ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก กล่าวคือ ตลอดระยะเวลายาวนานหลายทศวรรษ นับตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงงานอย่างหนัก และตรากตรำพระวรกายมายาวนาน เพื่อต่อสู้กับความยากจน และสร้างความอยู่ดีมีสุขแก่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี กินดี มีสุขภาพอนามัยแข็งแรง มีการศึกษา มีอาชีพมั่นคง และดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี นับเป็นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนให้ปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง” “… จะปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่รับผิดชอบ และที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล กองทัพบก อย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งด้านเตรียมความพร้อมของกองทัพ สำหรับการรับมือต่อภัยคุกคามทุกรูปแบบ การป้องกันอธิปไตย การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทย ตลอดจนการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ และขอเจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธาน และน้อมนำแนวพระบรมราโชวาท พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาประพฤติปฏิบัติ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเอง ประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติสืบไป” นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา “การเป็นข้าฯในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถือว่าต้องน้อมนำแนวความคิด พระราชดำริ และพระราชจริยวัตรมาถือปฏิบัติเป็นการส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นหลักสุจริตต่างๆ เรื่องของการทำงานด้วยความเสียสละ ทุ่มเทดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ฯลฯ เพื่อเป็นการแบ่งเบาพระราชภาระในอนาคตต่อไป และในขณะเดียวกันผมถือว่าข้าราชการทุกคนจำเป็นที่จะต้องถ่ายทอดแนวความคิดแนวพระราชดำริไปสู่พี่น้องประชาชน และชักชวนให้พี่น้องถือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้ประเทศไทยมีความรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า ตามพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน ผมคิดว่าพระองค์ท่านคงจะอยากเห็นคนไทยดูแลกันและกัน” พล.ต.ต.วณัฐ อรรถกวิน รักษาราชการแทน ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 “ในฐานะที่ผมเป็นข้าราชการตำรวจ ปฏิบัติการอยู่ในส่วนของการบำบัดทุกข์บำรุงสุขโดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนต่างพระเนตรพระกันต์ของพระองค์เราก็ต้องยึดกรอบการทำงานที่พระองค์ท่านได้สั่งสอนไว้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้บริการประชาชนให้ได้รับความพึงพอใจในการทำงาน นี่คือสิ่งที่เราต้องยึดเป็นกรอบโดยยึดจากระเบียบข้อบังคับ และวินัยอุดมคติของตำรวจเป็นสำคัญ มีพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชตอนหนึ่งที่พระราชทานเนื่องในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2537 ซึ่งผมประทับใจและน้อมนำมาปฏิบัติและอบรมนักเรียนตำรวจในความดูแลของผมเสมอ ความว่า ‘ …ผู้ที่เข้ามาเป็นตำรวจ ย่อมทราบกันดีทุกคนว่า งานในหน้าที่ของตำรวจนั้นเต็มไปด้วยปัญหาสารพัด ทั้งยังมีภัยอันตรายที่ต้องพาตัวเข้าเสี่ยงอีกเป็นอันมาก ในภารกิจและสถานการณ์ที่ล่อแหลมทั้งปวง ตำรวจทุกคนจึงต้องตั้งตัวตั้งใจให้มั่นด้วยความเพียรพยายาม ความกล้าหาญ อดทน เสียสละ และด้วยสติปัญญา ความรู้เท่าให้ถึงการณ์ นอกจากนั้น ยังต้องฝึกฝนความรู้ความคิดวินิจฉัยของตนให้กระจ่างแจ่มชัด … ต้องระลึกเสมอว่า ตำรวจนั้นเป็นฝ่ายที่ตั้งอยู่ในความถูกต้องและเป็นธรรม ย่อมอยู่ในสถานะที่เหนือกว่าผู้กระทำผิด และสามารถปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่มีทุจริตชนคนใดจะเอาชนะความดีและความสามารถของตำรวจได้ …” ในนามตัวแทนศาสนิกชน พระราชสีมาภรณ์ (วันชัย กนฺตจารี) | รักษาการเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา, เจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) “ประเทศไทยอยู่ได้ด้วยสันติสุขเพราะกษัตริย์ของเราอยู่ภายใต้ทศพิศราชธรรม ในความคิดของอาตมา พระองค์เปรียบเสมือนพระพุทธเจ้า จึงขอขนานพระนามให้พระองค์ว่าพระพุทธเจ้าหลวง ธรรมะของพระองค์ท่านนี่มากมายเลยทีเดียว อย่างเศรษฐกิจพอเพียงอันนี้ถือว่าเป็นธรรมมะที่ดีที่สุด ถ้าใครทำได้ตามพระราชดำริของพระองค์แล้วบุคคลนั้นอยู่เย็นเป็นสุข อาตมาไปพูดที่ไหนอาตมาก็จะพูดแค่เพียง ‘หมั่นทำบุญเป็นนิจ คิดดีต่อผู้อื่น ยืนอยู่บนความพอเพียง’ เพราะเราไม่ใฝ่สูงทะเยอทะยาน ใช้แต่พอมีพอกิน เราก็อยู่ได้ในสังคมโลกโดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น ถ้าเรารักในหลวง ถ้าอยากให้ในหลวงอยู่กับเรา ให้เราระลึกถึงคำสอนของพระองค์ท่าน ที่ท่านเคยให้คติธรรม และนำคำสอนของพระองค์ท่านไปปฏิบัติตาม แต่ถ้าเราคนไทยพอสิ้นในหลวงไปแล้ว หันมาชิงดีกันแก่งแย่งกัน เมื่อนั้นแสดงว่าในหลวงได้หายสาบสูญจากใจของคนไทยไปแล้ว” บาทหลวงสมชัย พงศ์ศิริพัฒน์ | อุปสังฆราช สังฆมณฑลนครราชสีมา “ผมเชื่อว่าในโลกนี้ไม่น่าจะมีกษัตริย์พระองค์ใดที่มีความมุมานะอย่างพระองค์ท่าน ทรงงานตลอดเวลา พระองค์ทรงงานมาเกือบ 70 ปี ถือว่าไม่น้อยเลยนะ พระองค์จากไปเพียงพระวรกาย แต่ในส่วนของคุณงามความดีและสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ท่านได้สร้างไว้ให้แก่ประชาชนชาวไทยและประเทศไทยจะจารึกไปอีกตราบเท่านานแสนนาน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่เรานำมาประยุกต์ใช้ ความรู้คู่คุณธรรมคือสิ่งที่เรายึดถือและพยายามปลูกฝังเยาวชนอยู่เสมอ คนเราต้องมีศีลธรรมประจำใจก่อน ต้องมีศีลธรรมไม่ใช่มีแค่ความรู้เพียงอย่างเดียว … ไม่รู้ว่าเราจะพบพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดแบบนี้อีกไหม ถือว่าเรามีบุญที่เกิดมาภายใต้พระบรมโพธิสมภารของท่าน” นายแพทย์วิทยา มีสมรรถ | แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวประจำโรงพยาบาลป.แพทย์ | ผู้บรรยายธรรม (คอเต็บ) รองประธานกรรมการอิสลาม ประจำมัสยิดอัร-ริฎวาน (นานา) นครราชสีมา “พระราชกรณียกิจขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ต่อพสกนิกรมุสลิมนั้นมีมากมายสุดที่จะนับได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่ได้มีพระราชปรารภให้จุฬาราชมนตรี ต่วน สุวรรณศาสตร์ แปลอัลกุรฺอานเป็นภาษาไทยและพระราชทานทุนทรัพย์ในการจัดพิมพ์เพื่อแจกจ่ายเป็นวิทยาทาน “อิสลามิกชนมีพระคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นแม่บทศักดิ์สิทธิ์สำหรับการประพฤติปฏิบัติและการดำเนินชีวิต ส่วนใหญ่จึงมีชีวิตที่เจริญมั่นคง มีความฉลาด รู้ผิดชอบชั่วดี มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และนับเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ถ้าแต่ละคนจะพยายามศึกษาพระคัมภีร์ให้เข้าใจถ่องแท้ยิ่งขึ้น พร้อมกับเอาใจใส่วิทยาการด้านอื่นๆ ให้กว้างขวางและก้าวหน้าอยู่เสมอ ก็จะส่งเสริมให้เป็นผู้มีความดี มีความรู้ความสามารถครบถ้วนสมควรยิ่งที่จะเป็นหลักและเป็นกำลังในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม” … ช่วยกันตั้งจิตเปลี่ยนความเศร้าโศกโทมนัสให้กลับกลายเป็นพลังมาพัฒนาชีวิต ครอบครัว สังคม อันจะส่งผลแก่ประเทศชาติของเราโดยรวม” รัตน์ สุริยาอมฤทธิ์ | ประธานสมาคมศรีคุรุสิงห์สภา ศาสนาซิกข์ “ถือเป็นบุญของพวกเราชาวซิกข์ที่ได้มาอยู่ใต้ร่มพระบารมีพระบรมโพธิสมภารของท่าน ท่านไม่นึกรังเกียจว่าเรามาจากที่อื่น เชื้อสายเรามาจากอินเดีย นี่เป็นสิ่งที่เราคิดว่าไม่ควรจะลืมบุญคุณหรือว่าไปอกตัญญูต่อท่านแม้แต่น้อยนิด คือเรามีโอกาสได้ยืนที่นี่ก็เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงท่านสิ้นแต่คำสอนของท่านก็ยังอยู่เหมือนคำสอนของศาสดาเรา บางคนอาจจะคิดว่าคำสอนของท่านเชย แต่สำหรับผม ผมว่ามันดูทันสมัยตลอดเวลา เรื่องพอเพียง เรื่องการใช้ชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อไปนี้แม้ไม่มีท่านแต่เราก็ต้องประพฤติตัวเองแล้วก็สอนลูกหลานให้เป็นคนดี แล้วก็ต้องอยู่ใต้กฎหมาย เราต้องมีคุณธรรมประจำใจ ต้องยึดหลักคำสอนของพระเจ้าอยู่หัว เราต้องรู้ว่าเราจะเดินไปทางไหน” ในนามตัวแทนคณาจารย์และผู้ปฎิบัติงานการศึกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดอกเตอร์วิโรจน์ ลิ้มไขแสง | อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน “ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ เมื่อท่านเสด็จฯมาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา (ชื่อเดิมในสมัยนั้น) เราชาว มทร. ก็รู้สึกว่าพระองค์ทรงเป็นส่วนสำคัญของมหาวิทยาลัย … ในฐานะที่ผมเป็นครู ผมมองว่าพระองค์ท่านคือครูผู้ยิ่งใหญ่ ทรงสอนพวกเราทั้งทางตรงและโดยอ้อม ด้วยทรงทำตนเป็นแบบอย่าง เช่น ความพอเพียง ท่านตั้งใจจะสอนให้คนไทยทุกคนอยู่ได้อย่างยั่งยืน มีความสุข ไม่ต้องไปมีชีวิตที่ทุกข์ยากเพราะการไม่รู้จักมัธยัสถ์ ถ้าสังเกตทุกโครงการของท่านจะต้องผ่านการทดลองมาก่อนแล้วจึงเอาไปแนะนำชาวบ้าน เรื่องความพอเพียงก็เช่นกัน พระองค์ทรงทดลองทำมาตลอด ๗๐ ปี จนมั่นใจแล้วจึงประทานแก่พสกนิกร” ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุกิจ พันธุ์พิมานมาศ | คณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี “การทำงานของแพทย์บางครั้งเหน็ดเหนื่อย อาจมีความตึงเครียดหรือแรงกดดันค่อนข้างเยอะทั้งจากตัวโรคเอง จากผู้ป่วยเอง สภาพของผู้ป่วย จากความคาดหวังของญาติผู้ป่วยสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่กดดันการทำงานของแพทย์ก็จะใช้คำสอนของพระองค์ท่านในเรื่องของความอดทนอดกลั้น ความมานะพยายาม ความเพียรต่างๆ ดังที่เราได้เห็นหรือศึกษามาจากนิทานชาดกเรื่องพระมหาชนก อีกเรื่องหนึ่งที่แพทย์จะต้องมีก็คือเมตตาธรรม โอบอ้อมอารีย์ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีใจที่จะต้องการให้ผู้ป่วยพ้นทุกข์ เหมือนกับที่พระองค์ท่านต้องการให้พสกนิกรของท่านพ้นจากทุกข์” อาจารย์วีระยุทธ เพชรประไพ | โรงเรียนเสิงสาง “คำที่พ่อสอนลูกจำขึ้นใจ ทำให้ได้ลูกจะสานต่อ เป็นคนดีแทนความรักพ่อ สิ่งเดียวลูกขอ ขอเป็นลูกพ่อองค์ภูมิพล” … พระองค์ถือเป็นต้นแบบของความวิริยะอุตสาหะ ทรงเสียสละเพื่อพสกนิกร ตรงนี้ถือได้ว่าจะเอามาเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนตัวเองว่า ต่อไปนี้จะพูดคำว่าเหนื่อยหรือท้อคงไม่ได้แล้ว อีกประการหนึ่งก็คือหลักคิดทฤษฎีหรือพระราชดำรัสต่างๆ ของพระองค์ท่านสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ในฐานะที่ผมทำงานศิลปะและเป็นครูสอนศิลปะ ผมก็นำเอาหลักการคิดของท่านมาปรับใช้ในการสอน มีอยู่ 4 หลักการ อันดับแรกก็คือทำสิ่งที่ยากให้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อที่เด็กๆ จะสามารถจำได้ อันที่สองก็คือ สามารถปฏิบัติจริงได้ ประการที่สามคือ ทุกอย่างต้องทำด้วยความเพียรถึงจะประสบความสำเร็จ และประการที่สี่คือ เวลาทำงานจะต้องเข้าถึงความสุข ถึงจะเหนื่อยถึงจะยากลำบากแค่ไหนก็ต้องรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมันมีค่า” นายอนันต์ เพียรเกาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวัฒนา นายศิลปสิทธิ์ ทับทิมธงไชย ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบุญวัฒนา “พระราชดำรัสดังกล่าวถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราชาวบุญวัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะผู้บริหารน้อมสำนึกมาโดยตลอด และแม้ความเป็นครูจะยากลำบากเพียงใดในฐานะเรือจ้าง แต่พวกเราก็จะเพียรพยายามสั่งสอนเยาวชนของชาติทุกๆ คนทุกๆ รุ่นให้เป็นคนดีมีคุณภาพสมกับที่พระองค์ท่านทรงชี้แนะนำทางตลอดไป” ในนามตัวแทนผู้ประกอบการเอกชน นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ | ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา “ในฐานะนักธุรกิจ ผมน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านมาใช้ ถ้าเราจำกันได้ในปี 2540 เกิดพิษเศรษฐกิจ ปีนั้นพระองค์ท่านได้มีพระราชดำรัสหลายเรื่องทำให้ประเทศไทยเรามีภูมิคุ้มกัน ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติจึงนำไปบรรจุในแผนพัฒนาฯฉบับที่ 9 เป็นการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านมาประยุกต์เข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจ พระองค์ท่านทรงสอนเอาไว้มี 3 เรื่องคือ เรื่องความพอเพียง อย่าประมาท และความมีเหตุผล ในกรณีของการพอเพียงเราก็จะต้องรู้ว่าความพอเพียงของเรามีเท่าไร อย่างเราเป็นร้านค้าเราก็ต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภค นั่นหมายความว่าเราจะต้องทำกำไรอย่างมีเหตุผล การทำกำไรอย่างมีเหตุผลก็จะทำให้การค้าหรือธุรกิจของเรายั่งยืน ในขณะเดียวกันพระองค์ท่านก็สอนเรื่องของการเผื่อเหลือเผื่อขาด ต้องมีการรองรับในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น พระองค์ท่านไม่ได้บอกให้เราประหยัดจนถึงที่สุด พระองค์ท่านทรงสอนว่า ถ้าไม่พอให้เติม ถ้ามีพอแล้วให้หยุด ถ้ามีมากไปให้แบ่งปัน” นายปรีชา ลิ้มอั่ว | ผู้จัดการห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์โคราช “ในฐานะที่ผมเองก็เป็นลูกของพ่อคนหนึ่ง ผมย่อมเข้าใจความรู้สึกของลูกคนอื่นๆ ถึงความรู้สึกเสียใจอาดูรกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ และในฐานะที่ผมเป็นผู้จัดการห้างฯ ผมเข้าใจว่าประชาชนทุกคนต้องการพื้นที่แสดงออกซึ่งความรักความกตัญญูต่อพระองค์ท่าน ผมและเดอะมอลล์ กรุ๊ปจึงจัดอีเว้นท์เพื่อถวายอาลัยแด่พระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมแปะเหรียญสตางค์เป็นภาพศิลปะที่สื่อถึงพระองค์ท่าน เพราะผมมองว่า ‘ของที่เราเห็นจนชินตามักไม่ค่อยเห็นค่าเท่าไรนัก’อย่างเหรียญสลึงที่อาจดูไม่มีราคามากนัก แต่คุณค่ากลับมากมายเพราะในหลวง นี่คือเหรียญในหลวง นอกจากกุศโลบายตามเนื้อเพลงที่ว่า ‘รวมเม็ดดินทุกเม็ดให้เป็นหนึ่งเดียว’ แล้ว ผมยังอยากให้เราได้ระลึกถึงพระองค์ท่านเพราะเวลาที่คุณหยิบเหรียญขึ้นมา คุณหันด้านที่มีพระพักตร์พระองค์ท่านมาที่ตาของคุณเพื่อเพ่งก่อนติดประมาณ 3 วินาทีนั้น ถ้าคุณระลึกถึงพระองค์ท่าน นั่นจะเป็นวินาทีที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคุณ” คุณปพิชญา ณ นครพนม | ผู้อำนวยการ TERMINAL21 KORAT “เราสามารถแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่านได้ง่ายมากค่ะ เมื่อทุกคนมีหน้าที่ประจำของแต่ละคน เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราคิดดี พูดดี ทำดีต่อผู้อื่น ครอบครัว สังคม ทำดีต่อองค์กรของเรา และมีความซื่อสัตย์สุจริต ก็ถือได้ว่าเราทำดีถวายในหลวงแล้วค่ะ เพราะส่วนตัวเชื่อว่า พระองค์ท่านหวังจะให้เราทุกคนรู้หน้าที่ของตน และทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ไม่เบียดเบียนใคร อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขยั่งยืน เหนือสิ่งอื่นใด คำว่าพอเพียงที่พระองค์ท่านทรงพระราชทานให้ไว้ก็เป็นคำสอนที่ครอบคลุมทุกเรื่อง เราสามารถใช้คำสอนนี้ในการทำงานและการใช้ในชีวิตประจำวันทุกๆ เรื่องได้ค่ะ” อรุณ อัครปรีดี | อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลบัวใหญ่ “มาบัดนี้พระองค์ได้เสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว หลุดพ้นจากความเจ็บป่วยของกายเนื้อ ด้วยวัตรปฏิบัติอันสูงส่งที่พระองค์ได้ทรงทำเพื่อปวงชนชาวไทยทุกคนมายาวนานต่อเนื่องถึง 70 ปี เยี่ยงเทพมาโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ บุญกุศลย่อมส่งให้พระองค์ท่านไปสถิต ณ แดนสรวงชั้นสูงสุด และผมเชื่อโดยสนิทใจว่าพระองค์ยังทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่าน และทรงเหลียวมาทรงช่วยปัดเป่าความทุกข์ของพวกเราและบันดาลให้แผ่นดินของพระองค์ร่มเย็นเป็นสุขไปนานเท่านาน … แม้พวกเราจะเกิดความทุกข์โศกเศร้าหมอง จิตใจหดหู่ อาลัยในการเสด็จจากไปของพระองค์จนปริ่มจะขาดใจก็ตาม อยากเห็นพวกเราแปลงความเศร้าโศกให้เป็นพลังใจและพลังแห่งความรัก ร่วมกันทำความดีตามรอยพระบาทของพระองค์ ละความชั่วทั้งลดเลิกความเห็นแก่ตัวมุ่งเอาเปรียบสังคมประเทศชาติ เพื่อแทนคุณของพระองค์ที่มีต่อพวกเราตลอดไปเทอญ” ในนามตัวแทนนักกีฬา พันตรีหญิงอุดมพร พลศักดิ์ | อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย “จำได้เมื่อครั้งเข้าเฝ้าฯในหลวงเพื่อถวายเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พระองค์ทรงรับไว้แล้วมีพระราชดำรัสว่า ‘เหรียญนี้จะมีคุณค่ามากกว่าเมื่อได้อยู่กับคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ให้เขาเก็บรักษาเอาไว้เป็นกำลังใจของตัวเองและครอบครัว’ แล้วก็พระราชทานคืนโดยการคล้องคอให้ พร้อมเหรียญที่ระลึกเป็นเหรียญพระมหาชนกและหนังสือพระมหาชนก ‘ในส่วนของการเป็นนักกีฬากว่าจะประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ จักต้องมีสติ มีความมุ่งมั่น อดทน มีความพยายาม มีความพากเพียร มีการฝึกซ้อมและต้องมีวินัยในตัวเอง ซึ่งคล้ายพระมหาชนก’ ตอนนี้เมื่อมาเป็นทหารก็ใช้หลักการคล้ายกันคือ จะทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เราต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดตามที่เราได้ปฏิญาณตนไว้” ในนามตัวแทนศิลปิน กำปั่น บ้านแท่น | ศิลปินพื้นบ้านอีสานแห่งชาติ | กาเหว่า โชคชัย “ 3 นี้คือความทุกข์ ว่าของคนไทย ต่างก็พากันเสียใจ … ทุกคนแท้ ท่านไปสวรรคาลัย มาทำให้ ปวงข้าแล น้อมส่งองค์กษัตริย์ อย่ามีคนทัดคนเทียม ไม่งามโอ้งามอวด พระบวช งามองค์ ขอกุศลผลส่ง ถึงขั้นอินทร์งามเอี่ยม ได้ยินเสียงเอื้อนโอษฐ์ จิตใจก็งามอบ … งามอุ่น เหมือนว่าวส่ง ที่สาย คนไทยทั่วทิศา สวดมนต์ ภาวนา น้อมส่ง พระโพธิสัตว์ ถ้าชาติใหม่ มีมา จะขอเป็นข้า รองบาท ลุกจะเก็บดอกบัว เอาไว้รอง … บุญ” ราฟาเอลโล โซมาซซิ | ศิลปินชาวสวิตเซอร์แลนด์ “พระองค์ทรงเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ผืนผ้าใบของพระองค์มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพราะนั่นคือแผ่นดินไทยทั้งหมด ซึ่งพระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยลงไป สีที่ทรงใช้คือหยาดพระเสโทของพระองค์เอง พู่กันที่พระองค์ทรงใช้คือความรู้ความสามารถทั้งปวงที่พระองค์ทรงแจ้งอย่างแตกฉาน ทรงใช้เวลาบรรจงทรงวาดลงไปนานกว่า ๗๐ ปีจนเป็นรูปเป็นร่าง ภาพวาดของพระองค์ไม่ได้ดูงามเพราะสีสันหรือลวดลายที่วิจิตรตระการตา แต่เป็นความเรียบง่ายอันทรงคุณค่าเหนือกว่างานศิลป์ใดๆ ในโลก ไม่ใช่เพียงดูงามแต่ยังมีประโยชน์อเนกอนันต์ ภาพวาดของพระองค์ไม่ได้มีไว้ขาย แต่ให้พสกนิกรชาวไทยและชาวโลกด้วยความรัก บัดนี้คือช่วงเวลาพิสูจน์ว่า ชาวไทยและชาวโลกที่พระองค์รักจะรักษาภาพวาดของพระองค์นี้อย่างไร” ปรัชญา ปิ่นแก้ว | ผู้อำนวยการสร้าง | ผู้เขียนบท | ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย “พระองค์ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีในการที่จะต่อสู้ โดยที่ไม่อ่อนแอกับเรื่องอะไรง่ายๆ ในการที่ท่านเสด็จสวรรคตส่วนตัวของผมรู้สึกว่าท่านไม่ได้สวรรคต เพราะว่าพระองค์ท่านสั่งสอนเราดีมาก พระองค์ท่านเตรียมพร้อมให้เราอยู่ได้ด้วยตัวเอง ผมว่าพระองค์ท่านก็คงเป็นห่วง ว่าวันหนึ่งที่พระองค์ท่านไม่อยู่ ประชาชนคนไทยต้องอยู่ได้ด้วยพลังหรือด้วยศรัทธาที่พระองค์ท่านทำเอาไว้ เพราะฉะนั้น สำหรับผมรู้สึกเหมือนว่าพระองค์ท่านยังอยู่ พระองค์ท่านนอนหลับไป” ในนามตัวแทนชาวไทยเชื้อสายจีนในโคราช นายธนกฤต ศรีสันติสุข | ประธานชมรมคนไทยเชื้อสายจีน “ชาวไทยเชื้อสายจีนทุกองค์กร ทุกตระกูลแซ่ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ จะขอยึดเอาพระราชดำรัสและหลักปรัชญาของพระองค์ท่านเป็นแสงทองนำทางดำรงชีพ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความจงรักภักดีในหน้าที่ และเป็นข้าบาทที่ดีของพระองค์ตลอดไป” นายประวิทย์ อัศวินชัย ประธานมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 “ผมเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ชาวไทยทุกคนรัก เคารพ ศรัทธาในพระองค์ท่านก็คือการเสียสละพระวรกาย เวลา ความสุขส่วนพระองค์ และกำลังพระราชหฤทัยเพื่อให้ประชาชนทุกๆ คนอยู่ดีมีสุข ซึ่งจะหากษัตริย์พระองค์ใดเสมอเหมือนไม่มี ดังนั้น ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนของคณะกรรมการและสมาชิกมูลนิธิพุทธธรรมฯ ขอสัญญาว่าจะน้อมนำพระราชดำรัสที่พระองค์ทรงพระราชทานไว้มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเรื่องของความเสียสละและความมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์” ในนามตัวแทนพสกนิกรชาวโคราช อาจารย์ทอง ธรรมดา (วีรยุทธ ศรีเลอจันทร์) | ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง วิสาหกิจชุมชนเพชรพิมาย “ผมคิดต่างจากคนอื่นนะ ผมเชื่อว่าทุกคนรักในหลวง แล้วทุกคนก็อาลัยท่านมาก ผมเคยถามหลายคนว่า รักในหลวงที่ตรงไหน เขาก็บอกว่า ในหลวงทำเพื่อประชาชน เขาก็เลยรักในหลวง ผมบอกผมรักในหลวงต่างจากพวกคุณนะ ผมไม่ได้มองเรื่องท่านทำเพื่อประชาชนหรือเปล่า แต่ผมมองว่าท่านเป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย อย่างเราเคยเห็นหลอดยาสีฟันที่ท่านบีบจนแบน รองเท้าท่านก็เอาไปปะ กางเกงท่านก็เอาไปชุน ซึ่งระดับพระมหากษัตริย์ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น แต่ท่านทำให้ดู ทำไมไม่รักในหลวงตรงนี้ ทำไมเราไม่ใช้ชีวิตเยี่ยงอย่างที่ท่านทรงทำไว้ให้เราดู เรื่องคุณความดีที่ท่านทำให้ประเทศไทยก็ส่วนหนึ่ง แต่ผมรักในหลวงที่ท่านเป็นตัวอย่างที่ดี ขนาดพระองค์ท่านเป็นถึงพระมหากษัตริย์ท่านยังใช้ชีวิตแบบนี้ แล้วเราเป็นใคร เป็นแค่ธุลีพระบาท ทำไมเราใช้ชีวิตเกินตัว” นางบัวผัน ราชวงศ์ อดีตข้าราชการครู โรงเรียนบ้านพลกรัง | นายอดุลย์ ราชวงศ์ อดีตนักวิชาการสาธารณสุข ช่วงที่ทราบข่าวในหลวงท่านสวรรคต เราก็บอกแม่ แรกๆ แกก็ยังไม่เข้าใจจนผ่านไปสองคืนถึงเรียกถาม ‘เจ้าตายแล้วนิ ให้ท่านไปที่สูงๆ แล้วก็ลงมาเกิดช่วยเราอีก’ … โดยส่วนตัวของผม สมัยเด็กๆ ตอนที่แม่พาไปรับเสด็จฯ เราก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไร รู้แค่คนนี้คือเจ้า เราต้องกราบไหว้ แต่พอโตขึ้น ก็ได้ทราบว่าพระองค์ท่านทรงงานหนักมาก ในฐานะที่ผมทำงานด้านสาธารณสุข เกี่ยวกับน้ำและสิ่งแวดล้อมนี่เห็นชัดเลย ไม่น่าเชื่อว่าจากภูเขาโล้นๆ พระองค์สามารถสร้างป่าขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาไม่ถึงสิบปี ที่สำคัญคือสร้างจิตสำนึกให้เรารักป่าและเห็นความสำคัญของป่า นายพิชญ์ชาญ นกสี, นายบุญนาค ดีล้วน, นายธวัช ตันสุวรรณ, นายสมพร นางแล และนายเบญจรงค์ เฉื่อยมณี | วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างราชสีมาทัวร์ (แดง) “รักในหลวงมาก ท่านดีที่สุดแล้ว เพราะถ้าไม่มีในหลวงพวกเราก็ไม่รู้จะเป็นยังไง เราอยากทำเพื่อพ่อ เรารักในหลวง อะไรที่เราพอทำได้ เราก็จะทำ สิ่งแรกเลยก็คือต้องเป็นคนดีของสังคม ไม่เดือดร้อนชาวบ้าน มีความพอเพียง ได้เงินมาก็เก็บเล็กผสมน้อย ที่ให้บริการรับส่งฟรีทั่วโคราชก็ไม่ได้หวังดัง พวกผมไม่ได้ร่ำรวย บอกตรงๆ ก็หาเช้ากินค่ำ แต่ว่าอยากทำ อีกวันหนึ่งที่พวกเราตกลงกันว่าจะทำก็คือวันที่ 5 ธันวาคม รับส่งฟรีตั้งแต่ตี 5 ถึง 6 โมงเย็นเลยครับ” ถ่ายภาพ : NaBruce 9Thanwa Photography ผู้เรียบเรียง : พลเชษฐ์ พันธ์พิทักษ์ เนื้อหาบางส่วนจากคอลัมน์ FEATURE | พิมพ์ในนิตยสาร Moremove ฉบับที่ 108 เดือนพฤศจิกายน 2559
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market