สวัสดีค่า~ กลับมาพบกับคุมะจังแอดมินกันอีกครั้ง หลังจากพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่อลังการของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ได้เสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมาพร้อมกับทัพสินค้าและร้านอาหารอีกมากมายมาให้เราได้ ช้อป ชิม ชิลล์ กันตลอดทั้งวัน ถ้าเพื่อนๆ คนไหนหมดแรงแล้ว คุมะจังขอรับหน้าที่อาสาพาทุกคนมาเติมพลังแบบเน้นๆ ด้วยเมนูจานร้อนชื่อดังจาก “Pepper Lunch (เปปเปอร์ ลันช์)” เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา สาขาแรกแห่งภาคอีสานกันค่ะ หากกล่าวถึง “Pepper Lunch (เปปเปอร์ ลันช์)” จากแดนอาทิตย์อุทัยแล้วล่ะก็…เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีถึงความรวดเร็ว อิ่มอร่อย และคุ้มค่า โดยการนำสเต็กเกรดพรีเมี่ยมมาเสิร์ฟบนกระทะร้อนจากญี่ปุ่นซึ่งผ่านกระบวนการทำให้มีอุณหภูมิ 260 องศา ภายใน 70 วินาที ซึ่งจะช่วยคงความสดและคุณภาพอาหารได้เป็นอย่างดี ก่อนจะลดลงมาที่ 80 องศา เป็นเวลานานถึง 20 นาที! ทำให้ทุกคนสามารถสนุกสนานกับการปรุงสุกสไตล์ของตนเอง และอิ่มอร่อยกับอาหารจานร้อนได้ตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้ายอีกด้วย ตอนนี้เรามาอยู่กันที่หน้าร้าน “Pepper Lunch (เปปเปอร์ ลันช์)” สาขาที่ 76 ของประเทศไทยกันแล้วนะคะ ดูจากคนที่แน่นทะลักออกมานอกร้านแล้ว คงการันตีความอร่อยของที่นี่ได้เป็นอย่างดี หลายครอบครัวถึงกับต้องมาศึกษาเมนูใหม่ๆ ของทางร้านด้วยความสนอกสนใจเพื่อเตรียมสั่งระหว่างรอที่นั่งด้านในว่างเลยทีเดียว เมนูแรกที่เราจะพาไปลิ้มลองกันก็คือ “เดอะ ไจแอนท์ (The Giant)” ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านซึ่งเป็นสเต็กเนื้อส่วนระดับพรีเมี่ยมนำเข้าจากออสเตรเลียนำมากริลล์บนกระทะร้อนๆ เมื่อได้มาแล้วให้เราเริ่มจากการเกลี่ยเนยให้ทั่วชิ้นเนื้อจึงค่อยพลิกกลับด้านชิ้นเนื้อจนได้ความสุกในระดับที่ต้องการจึงค่อยนำไปพักไว้บนผัก จากนั้นนำเนื้อที่เราพักไว้มาดริปกับบราวน์ซอสก่อนทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ ได้รสชาติเนื้อที่อร่อยฟูนุ่มชุ่มลิ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยซอสหมักสูตรพิเศษที่ช่วยดึงรสชาติของเนื้อออกมาและการคัดสรรเนื้ออย่างพิเศษพิถัน ความอร่อยของเมนูนี้จึงอยู่ที่รสสัมผัสและรสชาติของเนื้อที่โดดเด่นตัดกับกลิ่นหอมของพริกไทยสด ให้ความเผ็ดนิดๆ ที่ปลายลิ้น ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย A la carte 498.- / With Bonus Meal 553.- มาต่อกันด้วยชามที่สองของเรากันเลย นั่นก็คือ “ข้าวเปปเปอร์จัมโบ้เนื้อ (Jumbo Beef Pepper Rice)” อีกหนึ่งเมนูขายดีของทางร้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งมาพร้อมกับเสียงอันร้อนฉ่าของกระทะและควันอันพวยพุ่ง เมื่อได้มาแล้วเราก็ไม่รอช้าคว้าสันช้อนกดบริเวณข้าวโพดเลยค่ะ เพื่อให้เนยสูตรพิเศษของเปปเปอร์ ลันช์ให้ละลายเสียก่อน จากนั้นจึงค่อนคลุกเคล้ากับข้าวญี่ปุ่นและข้าวโพดอบหวานกรอบให้เข้ากันจนกว่าเนื้อจะสุกพอดี เมื่อทุกอย่างสุกจนได้ที่แล้วจึงค่อยปรุงรสชาติด้วยเครื่องปรุงสูตรพิเศษที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ ประกอบด้วย ฮันนี่บราวน์ซอสซึ่งเป็นซอสสีน้ำตาลที่มีรสหวาน ส่วนกาลิคซอยซอสจะเป็นซอสกระทียมสีดำที่มีกระเทียมนอนก้นอยู่ด้านล่าง เราจึงต้องใช้ไม้ที่โผล่มาคนซอสที่อยู่ก้นขวดให้เข้ากันเสียก่อนที่จะนำไปปรุงอาหารเพื่อให้ได้รสชาติเค็มมากยิ่งขึ้น ก่อนจะโรยด้วยพริกไทยบดสดใหม่ทุกวันได้รสชาติที่อร่อยลงตัว เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานรสจัดเป็นอย่างดี A la carte 220.- / With Bonus Meal 275.- ถัดมาคือ “พาสต้าเทริยากิไก่ (Teriyaki Chicken Pasta)” ซึ่งเป็นการนำอกไก่มาหั่นเรียงกันอย่างสวยงาม เสิร์ฟพร้อมเส้นพาสต้าจานร้อนอีกเช่นเคย วิธีทานเมนูนี้ให้เริ่มจากการพลิกไก่กลับด้านให้สุกจนทั่วเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยราดซอสสูตรพิเศษให้ชุ่มฉ่ำก่อนนำไปคลุกเคล้ากับเส้นพาสต้าและผักให้เข้ากัน เพียงเท่านี้เราก็จะได้พาสต้าเทริยากิไก่น่าทานๆ ออกมาแล้ว เมื่อกัดลงไปคำแรกเราจะสัมผัสได้ถึงเนื้อไก่ที่นุ่มชุ่มฉ่ำเต็มปากเต็มคำ ซึ่งผ่านการหมักมาเป็นอย่างดีทำให้ไก่มีรสชาติที่เข้มข้นถึงรสถึงเครื่อง แถมยังละมุนลิ้น ทานคู่กับเส้นพาสต้าได้รสชาติกลมกล่อมกำลังพอดี ที่สำคัญคือราคาไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับปริมาณที่ได้มา…ทำเอากระดุมเสื้อแทบดีดใส่คนนั่งตรงข้ามเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ A la carte 175.- / With Bonus Meal 230.- ล่วงมาถึงเมนูที่สี่แล้วสำหรับวันนี้ เพื่อแฟนเพจที่น่ารักทุกคน เรามาต่อกันเลยค่ะที่เมนู “สเต็กไก่สไปซี่+ไข่ (Spicy Chicken with Egg)” ซึ่งนำไก่มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ โรยด้วยผงสไปซี่สีสันจัดจ้าน เมื่อได้มาเราก็ทำการพลิกกลับไก่ให้สุกจนทั่วเหมือนเดิมเลยค่ะ จากนั้นราดตามด้วยซอสสไปซี่ ทานคู่กับไข่ดาว ได้รสชาติจัดจ้านต่างจากสามเมนูที่เคยทานมาก่อนหน้านี้ไปเลย เมนูนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำสำหรับคนทานเผ็ดเลยค่ะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะทานไม่อิ่ม เพราะเมนูสเต็กทุกจานจะเสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นด้วยค่ะ ยิ่งบวกเงินเพิ่มอีก 55 บาท เป็นชุด Bonus Meal คู่กับเมนูจานหลักด้วยแล้ว ก็สามารถเพิ่มน้ำและเครื่องเคียง (ซุปมิโซะ 40.-/สลัด 40.-/มันบด40.-/ข้าวญี่ปุ่น20.-) เพิ่มอีกหนึ่งอย่างได้อีกด้วย A la carte 195.- / With Bonus Meal 250.- ปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยเมนูสุดเลิฟที่เพื่อนๆ ของคุมะจังโปรดปราณนั่นก็คือ “ยากินิกุหมู (Pork Yakiniku with Egg)” พร้อมเสิร์ฟบนกระทะร้อนขณะที่เนื้อหมูสไลด์แผ่นบางๆ ยังเป็นสีแดง โรยด้วยพริกหวานฝานเป็นเส้นๆ และงาขาวจนทั่ว เริ่มแรกเราก็จัดการเนื้อหมูให้สุกก่อนเลย จากนั้นก็คลุกเคล้าผักกาดขาวและถั่วฝักยาว ข้าวโพดเข้าด้วยกัน ก่อนราดด้วยซอสบาร์บีคิวเป็นอันเรียบร้อย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ยากินิกุหมูมาทานกันแบบฟินๆ แล้ว ด้วยรสชาติอร่อยเข้มข้นกลมกล่อม เมื่อทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ จึงทำให้รสชาติทั้งหมดมันออกมากำลังดี ได้รสชาติของเนื้อหมูผสมผสานเข้ากับซอสบาบีคิวคลุกเคล้ากับผักและข้าวเนื้อนุ่ม กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ลงตัว รู้สึกฟินตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย A la carte 185.- / With Bonus Meal 240.- เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 5 เมนูสุดจี๊ดที่เราคัดสรรมาให้ทุกคนได้รับชมกันในวันนี้ บอกเลยว่านี่แค่น้ำจิ้มๆ เท่านั้น เพราะด้านในยังมีเมนูสเต็กอีกมากมายให้เลือกทานกว่า 36 เมนูเลยทีเดียว แถมสาขานี้ยังให้บริการค่อนข้างเร็ว ออเดอร์ออกไปครู่เดียวเครื่องดื่มก็ถูกนำมาเสิร์ฟก่อน ตามด้วยเมนูอื่นๆ ซึ่งทยอยตามมาเป็นลำดับ ร้าน Pepper Lunch (เปปเปอร์ ลันช์) จึงถือเป็นอีกร้านเด็ดที่คุมะจังจะกลับมาทานอีกครั้งแน่นอน แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ ใครไปทานมาแล้วบ้าง อย่าลืมแสดงความคิดเห็นกันมาเยอะๆ นะคะ ^^
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market