จากเกมฟุตบอลศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ณ สนามเขาพลองสเตเดี้ยม จังหวัดชัยนาท ‘นกใหญ่พิฆาต’ ชัยนาท ฮอร์นบิล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ‘สวาทแคท’ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผลการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 1-1 แบ่งแต้มกันไปฝั่งละ 1 คะแนน หากดูทั่วๆ ไปแล้วนี่ก็เป็นอีกเกมหนึ่งที่นักเตะและแฟนบอลของทั้ง 2 ฝ่ายทำหน้าที่ของตนได้เป็นอย่างดีเหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่ก็มีข้อสังเกตและเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค ถึงคำตัดสินของกรรมการ ด้วย 2 ประเด็นหลักๆ ว่ากรรมการผู้ตัดสินในนัดนี้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ? หรือผิดพลาดมากน้อยเพียงใด? ประเด็นแรก! เมื่อการแข่งขันดำเนินไปจนถึงนาทีที่ 29 ลี ทัค ถูกเข้าสกัดบอลจากด้านหลัง แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ปล่อยให้เล่นต่อ และเป็นฝ่ายลี ทัค ที่ไปเสียฟาวล์เสียเอง ผู้ตัดสินให้ใบเหลืองลี ทัค หลังจากนั้นเหตการณ์ยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อผู้ตัดสินให้ใบแดงลี ทัค และเชิญออกนอกสนาม สร้างความความสงสัยให้กองเชียร์ฝั่งทีมเยือนเป็นอย่างมาก กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนคลับสวาทแคทในกรณีนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก เป็นเพราะผู้ตัดสินผิดพลาด ด้วยเกมที่กดดัน และทุกคนทุ่มเท จึงเป็นชนวนเหตุให้เกิดเหตุการณ์นี้ และอีกส่วนหนึ่งบอกว่า เป็นเพราะผู้เล่นของเรา (ลี ทัค) เก็บอารมณ์ไม่ได้เอง ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ต้องนำมาปรับปรุงแก้ไข ประเด็นนี้ก็สุดแล้วแต่ทุกๆ ท่านจะใช้วิจารณญาณในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้าน ลี ทัค เองได้ออกมาแสดงความเห็นในเฟซบุ้คส่วนตัวสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า นี่เป็นใบแดง ใบแรกสำหรับอาชีพนักเตะของเขา และยกย่องให้ผู้ตัดสิน เป็นแมน ออฟ เดอะ แมทช์ ในเกมนี้ First red card in my professional career. The referee was the best player on the pitch. But well done to my team mates for their desire to take a point away from home with 10men after 29 minutes! #referee #manofthematch ประเด็นที่สอง! เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง หลังจากขณะนั้นผลการแข่งขันยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1 เมื่อกรรมการชูป้ายทดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง 7 นาที !? เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมถึงทดเวลามากขนาดนี้ คำถามถึงความผิดพลาดในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินยิ่งตอกย้ำเข้ามาในหัวแฟนคลับทีมผู้มาเยือน แต่เมื่อทดเวลาจนครบ 7 นาที ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ยังไม่มีใครได้ประตูเพิ่มเติม การแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 1-1 ผู้เล่นของทั้ง 2 ทีมมีการเดินไปขอบคุณกองเชียร์ซึ่งกันและกัน แฟนบอลชัยนาทกับแฟนบอลโคราชต่างตะโกนร้องเพลงให้อีกฝั่ง เป็นบรรยากาศที่ดูอบอุ่น และสนุกสนาน เพราะเกมจบทุกคนก็จบ นักบอลเป็นเพื่อนกัน แฟนบอลก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม วงการฟุตบอลไทยมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ คงเห็นเคยเก็นกันบ่อยๆ คำตัดสินที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียว สร้างความแตกแยกให้วงการฟุตบอลไทยก็มีให้เห็นประจำ ณ เวลานี้ ลีกสูงสุดเมืองไทยถือว่าพัฒนาไปมากแล้วทั้งตัวผู้เล่นเอง และแฟนบอลที่ไม่ใช่เพิ่มขึ้นเฉพาะปริมาณ แต่แนวทางและวิถีของการเชียร์ก็มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเช่นกัน … นักเตะพัฒนาฝีเท้าได้ แฟนบอลพัฒนาวิถีการเชียร์ได้ ผู้ตัดสินก็พัฒนาตัวเองได้ ต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กัน ถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งไม่พัฒนา ก็น่าเสียใจและเสียดายกับวงการฟุตบอลบ้านเรา ที่ตอนนี้กำลังจะไปได้สวย แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยอะไรบางอย่าง
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market