Korat Startup Magazine

Spacial Interview | บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร 

“โคราชจะเป็น Shopping Destinations. ของประเทศ”

เป็นอีกหนึ่ง ผู้บริหารหนุ่ม รุ่นใหม่ ไฟแรง ที่เรามีโอกาสได้ไปสัมพาษณ์ คือ คุณไพจิตร มานะศิลป์ บอสใหญ่แห่งคลังพลาซ่า ผู้นำธุรกิจห้างค้าปลีกท้องถิ่นขนาดใหญ่ ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองโคราช ด้วยสโลแกน ห้างของคนโคราช ทำให้ครองใจชาวโคราช มีกลุ่มลูกค้าที่พร้อมสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น มาอย่างยาวนาน และยังรับตำแหน่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเข้ามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ภายในจังหวัดให้เข้มแข็ง พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

Korat Startup : ตอนนี้คลังฯ มีธุรกิจที่ทำอยู่ อะไรบ้างครับ?

คลังพลาซ่า : ตอนนี้เรามีคลังฯ ทั้งหมด 3 ที่ หลักๆ สาขาแรก คือ คลังพลาซ่า อัษฎางค์ แล้วก็ คลังใหม่ หรือ คลังพลาซ่า จอมสุรางค์ และสาขาล่าสุดของเรา เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ คือ คลังวิลล่า สุรนารายณ์

Korat Startup : กลุ่มคลังฯ เอง ก็น่าจะทราบข่าว การเข้ามาลงทุน ของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่จากส่วนกลาง อย่าง เซ็นทรัล และ เทอร์มินอล 21 แล้ว คิดว่ามีผลกระทบกับธุรกิจของคลังฯ ไหมครับ?

คลังพลาซ่า : หากถามว่ากระทบกับเราไหม ผมว่าก็กระทบแน่นอนครับ แต่คิดว่า เขาน่าจะชนกับทางเดอะมอลล์โดยตรง มากกว่า สมมติหากเขาเปิดบริการแล้ว อาจจะกระทบเดอะมอลล์ 50% แต่ของคลังน่าจะแค่ 20% เพราะเราได้พิสูจน์แล้วว่า กลุ่มลูกค้าของเรา กับทางเดอะมอลล์ตอนนี้ แยกกันโดยปริยายอยู่แล้วครับ กลุ่มลูกค้าของเราจะเป็นคนในเมืองชั้นใน เป็นส่วนใหญ่ ดูได้จากยอดขาย เราก็ยังเติบโตได้ด้วยดี หลังจากที่เราปรับปรุงห้างใหม่ ยอดขายก็โตขึ้นทุกเดือนครับ

Korat Startup : จะว่าไปแล้ว กลุ่มคลังฯ ก็เคยเจอการรุกเข้ามาของกลุ่มเดอะมอลล์เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ ผลกระทบมากไหม?

คลังพลาซ่า : หากย้อนไปถึงตอนที่เดอะมอลล์มาโคราชครั้งแรก นี่ก็กระทบเรานะ ตอนนั้นเรามีแค่ 2 สาขา เราก็เป๋ไปสักพักนึง แต่เราก็พยายามหาพันธมิตร จนได้ B2S เข้ามาตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านหนังสือและเครื่องเขียน ในส่วนกีฬาที่เราไม่แข็งแกร่ง ก็ได้ Super Sport มาเสริม Power buy ก็เข้ามาเสริมด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า คือตรงไหนเราไม่ถนัด เราก็ชักชวนคนที่เขาชำนาญเข้ามา เราไม่ฝืนทำเอง ตรงนี้ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ทำให้เราฟื้นกลับมาได้ และเราจับจุดได้ว่า เราจะอยู่เฉยๆ รอลูกค้าวิ่งมาหาเราไม่ได้แล้ว เราต้องวิ่งเข้าไปหาลูกค้า ถามว่าลูกค้าคลังฯ เป็นใคร? ก็คือเราโตมาด้วยการขายหนังสือ เครื่องเขียน ก็ต้องเป็นกลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษา เราจึงมีโครงการสาขาที่ 3 คือ คลังวิลล่า สุรนารายณ์ ที่เราเข้าไปจับกลุ่มแถบมหาวิทยาลัย เขตนั้นมีเด็กเทคโนฯ ราชภัฏฯ วงษ์ชวลิตกุล 3 มหาวิทยาลัยใหญ่ๆ เราเอา Klang Plern เข้าไป ซึ่งเป็นร้านหนังสือและเครื่องเขียนขนาดใหญ่ มากจากแนวคิด Play and learn มีซุปเปอร์มาร์เก็ต Klang Market มารองรับด้วย เพราะเด็กแถวนั้น เป็นเด็กหอกันเยอะ จะได้ไม่ต้องไปใช้บริการไกลๆ ซึ่งตอบโจทย์ดีมากนะ เราเก็บลูกค้าโซนนี้ได้หมดเลย ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนักศึกษา แต่เราเจาะได้ทุกกลุ่ม ถ้านับตั้งแต่ปีแรกที่เปิด จนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าขายดีขึ้นทุกวัน ลูกค้าแฮปปี้ เราก็ดีใจครับ

Korat Startup : เดอะมอลล์เข้ามานี่เล่นเอาคลังฯ เตรียมตัวไม่ทันเลยนะครับ แล้วตอนนี้รู้แล้วว่า ศูนย์การค้าใหญ่ๆ จะมาลงทุนเพิ่มที่บ้านเรา แล้วคลังฯเตรียมรับมือไว้อย่างไรครับ?

คลังพลาซ่า : ก็อย่างที่เห็นครับ คลังเรามีการรีโนเวท ไปก่อนหน้าที่จะมีข่าวเซ็นทรัลจะมาเสียอีก เราทุ่มไปเยอะนะ 1,000 ล้านบาท ถ้ามองตอนนี้นะ ผมว่าเยอะเกินไป (หัวเราะ) เพราะว่า ณ จังหวะนั้นที่เราลงมือรีโนเวท เซ็นทรัล หรือเทอร์มินอล 21 ยังไม่มีแพลนที่จะมาบ้านเราด้วยซ้ำ ข่าวเงียบสนิทไม่มีอะไรเลย ถ้าเรารู้มาก่อน คงจะแบ่งไว้สู้ด้วย เพราะตรงนี้ทำเราก่อน ทำเสร็จใหม่หมดเลย ก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะมาอะไร ยังไง แต่ตอนนี้ตัวคลังใหม่ ที่เราปรับปรุงก็ถือว่าทำออกมาดีที่สุดนะ เรายอมเสีย พื้นที่ 30% มาเป็นส่วนโถงกลาง ที่เราทำเพิ่มขึ้นมา จากเดิมมีไม่กี่ชั้น ตอนนี้โถงเราโปร่ง จนถึงชั้นบนสุด เราปรับปรุงระบบสปริงเกอร์ ใหม่ทั้งหมดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ขณะที่เราปรับปรุง เราทำทีละชั้น เพราะศูนย์ฯปิดไม่ได้ เรามีพนักงานตั้ง 1,000 คน จะให้เขาออกก็ไม่ได้ เราถือว่าพนักงานสำคัญที่สุด เราจะพักงาน แล้วเรียกกลับมาก็ไม่ได้ เราต้องดูแลเขาในส่วนนี้ เราจึงปิดปรับปรุงทีละชั้นไป พนักงานของเราก็ยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ยังมีงานทำกันอยู่ ในด้านผลกระทบกับลูกค้า ขณะที่เราปิดบางชั้น แต่บางชั้นยังเปิดบริการอยู่ เราก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยชั้นสูง เพื่อที่จะไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ แต่ก็อาจจะมีบ้างในเรื่องเสียงรบกวนจากเครื่องจักร เมื่อเราปรับปรุงเสร็จหมด เรามีพื้นที่เพิ่มเป็น 60,000 ตารางเมตร มีเสียงชมเชยผลงานที่ออกมา ว่าเป็นห้างท้องถิ่นที่หรูหรามาก ห้องน้ำสะอาด น่าใช้เหมือนเดิม เราก็ดีใจ เราคิดอยู่เสมอว่า ลูกค้าของเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน ฐานะอย่างไร เขาคือลูกค้าของเราหมด เราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ชาวโคราช ทุกๆคน เราไม่ได้เลือกว่าคุณจะนั่งตุ้กๆ หรือนั่งรถเบนซ์มา แต่เมื่อมาทีนี่แล้ว เราพร้อมให้บริการครับ

Korat Startup : ในการเข้ามาลงทุนของเขา นอกจากกระทบกับคลังฯแล้ว ในความเห็นของคลังฯ คิดว่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจท้องถิ่นอื่นๆ หรือไม่ อย่างไรครับ?

คลังพลาซ่า : .ในการเข้ามาของเขา เราคิดว่ามีผลกระทบอยู่แล้ว เพราะไลฟ์สไตล์คนในบ้านเราจะเปลี่ยนไป หันไปช้อปปิ้งในศูนย์การค้ากันเยอะขึ้น ร้านค้าข้างนอกก็จะค่อนข้างแย่ แต่ท้องถิ่นเองก็ต้องเข้มแข็งและร่วมมือกัน อย่างเช่นโซนในคูเมือง ที่ปัจจุบันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ผมในนามรองประธานหอการค้า ที่ร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จัดทำโครงการ ชุมพลถนนประวิติศาสตร์ ขึ้นเพื่อส่งเสริมการค้าในย่านถนนชุมพล ที่อยู่หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ซึ่งปัจจุบันนี้คนมาไหว้ย่าโมเสร็จ ก็กลับ ไม่ได้เดินลอดประตูชุมพลเลย ผมคิดว่าทำอย่างไร จึงจะทำให้คนที่มาไหว้ย่าโมเสร็จแล้ว เดินลอดประตูชุมพล เข้ามาในย่านการค้าบนถนนชุมพล ที่อยู่ด้านหลังด้วย เราจะพยายามดึงเอาประวัติศาสตร์มานำเสนอ ผ่านเรื่องราวต่างๆ ให้มีความต่อเนื่อง และเชื่อมโยงกัน ในแต่ละร้านค้า อย่างผมมาซื้อของร้านนี้ ก็จะทำอย่างไร ให้ผมเดินไปอีกร้าน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ต่อกัน เกิดเป็นพลาซ่าแบบเอาท์ดอร์ หรือเป็นคอมมูนิตี้ที่เจ้าของหลายคนติดๆกัน ไม่ได้ผูกขาดโดยเจ้าของคนเดียว นี่ก็ถือเป็นการปรับตัวของธุรกิจท้องถิ่น ให้อยู่รอดนะ ถือเป็นโมเดลใหม่ ที่ผมอยู่หอการค้า และจะช่วยตรงนี้ให้สำเร็จ

Korat Startup : นอกจากบริหารในส่วนของคลังฯแล้ว ในฐานะรองประธานหอการค้าจังหวัดฯ คิดว่าจะมีส่วนช่วยในการสร้างความแข็งแกร่ง ให้ธุรกิจในท้องถิ่น ได้อย่างไร

คลังพลาซ่า : ตอนนี้มีโครงการ Buy Korat ซึ่งก็คือ โครงการที่ส่งเสริมให้คนโคราช ซื้อของคนโคราช ไม่งั้นธุรกิจท้องถิ่นบ้านเรา อยู่ไม่รอดแน่ๆ ถ้าเซ็นทรัลมา เทอร์มินอล 21 มา ธุรกิจบ้านเราจะอยู่ไม่รอด อย่างซื้อวัสดุก่อสร้าง ก็ต้องช่วยอุดหนุนของคนท้องถิ่นบ้าง ซื้อทีวี ตู้เย็น ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านเราก็มี ไม่ใช่มีค่านิยม ไปซื้อของเจ้าใหญ่ๆ กันซะหมด เรื่องราคาก็ไม่ได้แพงกว่ากันสักเท่าไร เผลอๆ อาจถูกกว่าด้วยซ้ำ หรือถ้าแพงกว่านิดหน่อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้ธุรกิจท้องถิ่น ไม่ล้มหายตายจากไปหมดเสียก่อน ตัวโครงการต้องการปลูกจิตสำนึกรักความเป็นโคราช ของคนบ้านเรา ไม่ได้บอกว่าห้ามไปซื้อของแบรนด์หรือสินค้าจากเจ้าใหญ่ๆ แต่อยากให้ช่วยกันอุดหนุน อันไหนพอเปลี่ยนมาใช้ของจากท้องถิ่นได้ ก็เปลี่ยน แค่นั้นเองครับ แต่ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ และทำยากเช่นกัน ซึ่งน่าจะใช้เวลาพอสมควร หากสำเร็จ เราก็จะเดินต่อไปด้วยกันได้ครับ

Korat Startup : หากมองการพัฒนา และทิศทางของเมืองโคราชในอนาคต คลังฯคิดว่า โคราชจะเป็นไปอย่างไร?

คลังพลาซ่า : ถามว่าโคราชเมืองจะตายไหม จะหยุดพัฒนาไหม ผมพูดได้เลยว่าไม่แน่นอน ถ้าเทียบกับจังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่หอการค้าฯ ผมดูตัวเลขเทียบการค้า การพานิชย์ ขอนแก่นไม่ได้เศรษกิจดีไปกว่าบ้านเราเลย ขอนแก่นสู้เราไม่ได้ แต่ขอนแก่นเป็นเมืองที่มีการประชาสัมพันธ์ที่ดีมาก ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัด จึงเกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนที่นั่น แต่ผลปรกอบการหลังจากลงทุนไปแล้ว เทียบกับบ้านเรา เป็นอย่างไร ก็ต้องถามตัวผู้ประกอบการดู ในตัวโคราชผมเชื่อมั่นเสมอในกำลังซื้อที่มีอยู่จริง เป็นจังหวัดเดียวในอีสาน ที่ตัวเลข GDP ภาคอุตสาหกรรม โตกว่าภาคเกษตรกรรม เพราะฉะนั้น บ้านเราไม่ได้พึ่งพาภาคเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว และ ฺBOI อนุมัติการลงทุนมากที่สุด ปีที่แล้วบ้านเรา 8 หมื่นล้านบาท ห่างจากที่ 2 ซึ่งไม่ถึง หมื่นล้านบาท คนละเรื่องกันเลย แล้วสิ่งที่ตามมาคือตำแหน่งงานและแรงงาน รู้ไหมว่าโรงงานในบ้านเราค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่เท่าไร? … อย่างแคนนอนตอนเปิดโรงงานใหม่ๆ มีพนักงาน 5,000 คน ตอนนี้ 15,000 คน ไปแล้ว ค่าแรงที่แคนนอนขั้นต่ำ 450 บาท/วัน ส่วนซีเกทค่าแรงเยอะมาก 550 บาท/วัน ซีเกทนี่ค่าแรงเยอะที่สุดในประเทศไทยเลยนะ สังเกตไหมว่าคนเขาหายไปไหนหมด อย่างพนักงานที่คลังฯเอง ออกไปทำที่นั่นก็มี แต่ค่าแรงเยอะ ความกดดันก็ค่อนข้างสูง จึงต้องใช้แรงงานที่มีฝีมือพอสมควร ถามว่าแล้วเงินส่วนนี้ไปไหนล่ะ? … ก็มาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจบ้านเราไง เกิดการจับจ่ายซื้อของ ผลดีของภาคอุตสาหกรรมคือตรงนี้ ตรงที่เกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมากครับ

Korat Startup : ถามไปถึง โครงการโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ ที่กำลังจะเกิด นี่ดีต่อบ้านเรายังไงครับ?

คลังพลาซ่า : ถ้าโครงการใดโครงการหนึ่ง เริ่มตอกเสาเข็ม ผมคิดว่ามันจะเป็นตัวดูดอะไรหลายๆ มาที่โคราช บ้านเราจะเหมือนแม่เหล็ก นี่ยังไม่พูดถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงหรือความเร็วปานกลางนะ แค่ 2 โครงการที่ว่านี้ ก็จะเป็นตัวไดรฟ์เมืองโคราช ให้พลิกจากหลังมือ เป็นหน้ามือ แต่ตอนนี้สิ่งที่เมืองโคราชต้องเตรียมคือเรื่องผังเมือง ผังเมืองที่มาจากการมีส่วนร่วมของชาวโคราชเอง อย่างรถไฟความเร็วสูง ตัวสถานีควรจะอยู่ในเมือง หรือนอกเมืองก็ได้ แต่อย่าไกลมาก เพราะจะเป็นกรณีเดียวกับสนามบิน ที่ไกลมากเกินไป ต้องเดินทางสะดวก แล้วมีการออกแบบผังเมืองใหม่ ทำสาธารณูปโภคมารองรับตรงจุดนั้นด้วย บ้านเรามีตัวไดรฟ์ ตัวขับเคลื่อนเยอะ ยังไงเมืองก็ไม่หยุดพัฒนา เอาแค่รถไฟรางคู่ ถ้าวิ่งได้ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จริงๆ โคราชไปกรุงเทพฯ ก็แค่ 2 ชั่วโมง 10 นาที ไม่ต้องรอรถไฟควาวเร็วสูงด้้วยซ้ำ ตามข่าวผมก็ได้ยินว่าภายในปลายปีนี้จะเริ่มตอกเสาเข็มแล้ว ยังไงก็ได้เฮแน่ๆ อีกอย่างที่อยากให้เกิดคือ ระบบขนส่งมวลชนในบ้านเรา ผมอยากให้มี รูปแบบไหนก็ได้ แต่อยากให้เกิดขึ้นจริง เพราะทุกวันนี้การจราจรในบ้านเราไม่ไหวแล้ว เช้า-เย็น นี่รถแทบไม่ขยับ ทุกวันด้วย สาหัสมาก แค่นี้ก็ดีพอแล้วครับ ถ้าโคราชไม่ดีจริง หลายๆคนจะเห็นไหม? ทำไมเซ็นทรัลมา? ทำไมเทอร์มินอล 21 มา? หรืออิออนมอลล์ก็วิ่งหาที่ในบ้านเรา คือถ้าไม่ดีจริงคนคงไม่เห็นพ้องกันหรอก

Korat Startup : แล้วในอนาคต โคราชยังเหมาะสมกับคำว่า เมืองทางผ่านอีกไหมครับ?

คลังพลาซ่า : ก่อนหน้านี้มีคนมองว่าโคราชเป็นเมืองทางผ่าน คนมาภาคอีสานผ่านบ้านเรา แต่เขาดันผ่านมาแล้วผ่านไป ซึ่งมันไม่ดีเลย  ในอนาคต ผมคิดว่า “โคราชจะเป็น Shopping Destinations. ของประเทศ” แน่นอน เป็นต่างจังหวัดที่มีศูนย์การค้าใหญ่ๆ มากกว่า 2 ที่ เพียงแห่งเดียว นี่ยังไม่ได้รวมคลังฯเข้าไปนะ ถ้าคุณอยากทันสมัย ก็มีศูนย์ฯให้เลือกเที่ยว 3-4 แห่ง ทุกอย่างครบหมด มีอะไรที่กรุงเทพฯมี แล้วโคราชไม่มี ซึ่งน้อยมาก เที่ยวแบบโบราณหน่อย บ้านเรายิ่งมีเยอะ ในเมืองก็ตั้งแต่ ลานย่าโม ไปถนนจอมพล ออกต่างอำเภอก็พิมาย ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ก็ปากช่อง วังน้ำเขียว ซึ่งมันตอบโจทย์มาก

Korat Startup : ถามถึงโปรเจคใหม่ ในอนาคตของคลังฯหน่อยครับ พอจะเผยข้อมูลได้ไหม?

คลังพลาซ่า : ถามว่ามีไหม ก็มีนะครับ ส่วนข้อมูลก็ยังเปิดเผยไม่ได้เท่าไร แต่โครงการจะไม่เป็นอะไรเดิมๆ จะเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากๆ สำหรับชาวโคราช เดี๋ยวรอคลังฯแถลงข่าวอีกครั้ง คือ ในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่ง คงไม่หยุดนิ่ง ต้องมีการพัฒนา มีเซอร์ไพรส์แน่นอนครับ

Korat Startup : มีอะไร อยากฝากไหมครับ?

คลังพลาซ่า : อยากฝากโครงการ Buy Korat แล้วกันครับ คือคนโคราชต้องช่วยกัน ถ้าเราไม่ช่วยกัน เราก็อยู่ไม่ได้ เราสู้รายใหญ่ไม่ได้แน่นอนครับ