เมื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลายเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในยามที่การส่งออกชะลอตัวและเศรษฐกิจโลกผันผวน “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงต้องรับ “บทหนัก” เข็นการท่องเที่ยวไทยให้สามารถโกยรายได้เข้ามาในประเทศ เรามาดูกันว่านายหญิงแห่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนนี้จะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพรวมของการท่องเที่ยวไทยอย่างไรบ้าง Credit : Rawpixel.com (Shutterstock) ทิศทางนโยบายและแนวโน้มครึ่งปีหลังของการท่องเที่ยว แผนการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ประเทศไทยยังคงต้องชูเรื่องการท่องเที่ยววิถีไทยเป็นธีมสำคัญ เพราะวิถีไทยทำให้การท่องเที่ยวมีความเจริญเติบโต และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเต็มจนถึงทุกวันนี้ และยังคงจะเป็นเช่นนี้ต่อไป เพราะวิถีไทย คือ อัตลักษณ์ความเป็นไทย นักท่องเที่ยวที่เข้ามาปีที่แล้วเกือบ 30 ล้านคน ปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 70% ททท. ได้ทำการวิจัยหลายครั้งว่านักท่องเที่ยวที่มาแล้วมาอีก คำตอบของกลุ่มนี้จะคล้ายกัน คือ ชอบภูเขา หาดสวย อาหาร ศิลปวัฒนธรรม ลึกที่สุด คือ ชอบคนไทย นิสัยคนไทย คนไทยคือเพื่อน ท่องเที่ยววิถีไทยคือวิถีชีวิตคนไทย ปัจจุบัน ณ วันนี้ทุกคนต้องการท่องเที่ยวไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย แต่ทั่วโลก ประเทศใหญ่ๆ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี อเมริกา กลุ่มนี้เปิดประตูรับนักท่องเที่ยว จัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงหลายประเทศในอาเซียนด้วย เพราะฉะนั้น ไทยจะแข่งกับต่างประเทศได้ก็ต้องคิดทบทวนว่าต้องแข่งด้วยวิถีไทยจึงจะสู้กันได้ หาดหรือทะเลสวยๆ ตนนี้ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่าก็เริ่มมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่เกิดขึ้น มีหาดทรายที่มีความใหม่กว่าไทย เกาะแต่ละเกาะของพม่า ทั้งหาด ภูเขา มีความสวยงามมาก อีกไม่นานหากพม่ามีการพัฒนาก็คงเป็นคู่แข่งที่สำคัญและสู้กับเมืองไทยได้ แต่สิ่งที่ลอกเลียนแบบเมืองไทยไม่ได้คือ ความเป็นมิตรของคนไทย นั่นคืออันดับแรกของการท่องเที่ยววิถีไทย เข้าปีที่ 3 แล้ว ปีนี้คงความสามารถทางการแข่งขันได้ด้วยคอนเซ็ปต์ “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” สไตล์ลงลึกมากขึ้น ใช้คำว่า “วิถีไทย” คือชุมชนวิถีแต่ละพื้นที่ เพราะฉะนั้น เราต้องรู้จักดึงและเล่าเรื่องอัตลักษณ์ของไทย จุดนี้อาจจะถูกมองข้าม คนในท้องถิ่นมองไม่เห็นคุณงามความดีที่ตัวเองมี แต่ไปเห็นของคนอื่น ล่าสุดตนได้เดินทางไปโคราช พึ่งรู้ว่าโคราชมีวัดเยอะที่สุดในไทยมากกว่าเชียงใหม่ จุดนี้สามารถเป็นจุดขายและดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในโคราชได้ และทำเป็นการท่องเที่ยวสไตล์ลงลึกมากขึ้น เป็นต้น Credit : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรีพูดเสมอว่า “ต้องรู้จักเล่าเรื่อง ว่าฉันมีอะไร ดีกว่าคนอื่นยังไง” เสน่ห์ของการเล่าเรื่องจะทำให้คนมาเที่ยวไม่ได้มาเที่ยวแบบผ่านๆ แต่เข้ามาเที่ยวแบบลงลึก จะสามารถตอบโจทย์การท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ทำให้คนท้องถิ่นรักและภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเองเหมือนกันทุกจังหวัด มี 100 สิ่งที่ต้องทำ หลายจังหวัดกลับไปแล้วเที่ยวได้นานขึ้น ทำกิจกรรมในท้องถิ่นให้อยู่ได้นานขึ้น มิติของการใช้จ่ายภาครัฐพยายามดึงคนเข้ามา คือ ไม่ได้อยู่แค่วงการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ต้องอยู่ในทุกๆ วงการ Credit : Bule Sky Studio (Shutterstock) อารยะธรรมอีสานใต้ที่กำลังขับเคลื่อนในขณะนี้เป็นอย่างไร การท่องเที่ยวของภาคใต้ ภาคเหนือในขณะนี้ว่าประสบความสำเร็จไปแล้ว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นเป้าหมายต่อไป คือ ภาคอีสาน กระทรวงได้โฟกัสไปที่เรื่องทำอย่างไรให้คนมาเที่ยวอีสานมากขึ้น ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวภาคอีสานส่วนใหญ่เป็นคนไทย และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีปริมาณน้อย จึงต้องทำการดึงกลุ่มนี้เข้ามาลงเจาะพื้นที่แต่ละจังหวัดว่าจะชูเรื่องใด ทำอะไร และต้องคำนึงถึงเรื่องของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในแต่ละท้องถิ่นด้วยว่าต้องการนักท่องเที่ยวประเภทใด เช่น นักท่องเที่ยวจีนจีนจะเหมือนคนไทยที่ชอบไหว้พระ ประเทศอินเดียกับประเทศเนปาล กำลังโปรโมทพุทธศาสนาขึ้นมา ชูพุทธศาสนาเข้าไปเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งภาคอีสานมีวัดที่สำคัญและมีชื่อเสียงหลายแห่ง น่าจะผูกเรื่องได้ กลุ่มต่อมาคือ “กลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ” ซึ่งต่อไปการท่องเที่ยวแบบเป็นคณะจะลดลง แต่แบบอิสระจะมีมากขึ้น กลุ่มนี้จะมาด้วยมือถือตามบล็อคเกอร์ต่างๆ เด็กรุ่นใหม่ต้องการเที่ยวแบบไม่เหมือนใคร คิดว่า “ฉันฉลาดกว่าคนอื่น ฉันไปกับทัวร์ไม่ได้ ฉันต้องไปเอง ไปเห็นคนเดียว” กลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มที่ทำให้เขาเข้าใจว่าคุณไม่ได้เห็นคนเดียว แต่ให้ความรู้สึกว่าคุณเข้าถึง หรือ “Tourism Gateway” ซึ่งขณะนี้กระทรวงฯ ได้ดำเนินการร่วมกับ ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เว็บไซด์เดิมของ ททท. Amazing Thailand ที่มีแฟนคลับเข้ามากว่า 34 ล้านคน ให้สามารถตอบโจทย์การท่องเที่ยวของไทยให้มีศักยภาพมากขึ้น ลิงค์ข้อมูลให้มีความหลากหลาย ข้อมูลของแต่ละกระทรวงที่ต่างฝ่ายต่างทำงานแล้วนำมาบูรณาการร่วมกันใหม่ให้สามารถตั้ง Complete to Host ผ่านทางเกตเวย์ของเว็บไซด์ได้ เริ่มให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวตั้งแต่คิดจะมาประเทศไทย มีเวลาแค่นี้ เงินแค่นี้ ทำแพลนนิ่งได้อย่างไร ขณะนี้เตรียมการไปแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังไม่กว้างมาก ประมาณเดือน กันยายน – ตุลาคมนี้ จะออกแพลทแรก ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยววางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้นและลึกขึ้น แล้วคิดว่าทำอย่างไรจะดึงให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวภาคอีสานได้มากขึ้น ตนคิดว่าน่าจะมีโอกาสทำอะไรได้อีกมาก Credit : KieferPix (Shutterstock) เดือนสิงหาคมนี้ จะมีแพ็คเกจท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิง เรียกว่า Lady Journey คือ พากลุ่มผู้หญิงท่องเที่ยว เราะสถิติเดิมนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมากกว่า ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวผู้หญิงไปเที่ยวเวียดนามมากกว่า ตรงนี้ต้องคิดว่าทำไมผู้หญิงถึงเที่ยวไทยน้อย เพราะเรื่องความปลอดภัยหรือเรื่องภาพพจน์ แล้วจึงนำมาตีโจทย์ให้เกิดความเข้าใจในตัวผู้หญิงให้ดีขึ้น ว่าผู้หญิงสมัยนี้ทำงานหนัก การท่องเที่ยวไม่ใช่มาเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ถือว่ามาเติมพลังด้วย เราต้องพยายามให้ผู้ประกอบการขายของใหม่ๆ อย่าขายของเดิม โรงแรม ร้านอาหาร ต้องปรับตัว ไม่ใช่ขายแค่ห้องพักแต่ต้องพ่วงกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น โรงแรมที่เข้าพักมีสอนมวยไทย นักท่องเที่ยวสามารถลงมือทำได้ หากโรงแรมที่ยังไม่มีก็ต้องไปติดต่อ จัดเป็นแพ็คเกจ 3-5 วัน หรือจัดโปรแกรมมาเที่ยวแล้วน้ำหนักลด หรือจังหวัดที่มีโรงพยาบาลทำศัลยกรรมเก่งๆ ก็สามารถนำมาพ่วงเข้ากับโรงแรมหรือโปรแกรมทัวร์ได้ มาแล้วหน้าสวย รูปร่างดี หรืออาจสอนทำอาหาร เป็นต้น ผู้ประกอบการบางรายเริ่มทำแล้ว แต่ยังไม่ลงลึกพอ อาจจะต้องพาไปจ่ายตลาดสดแต่เช้า เลือกผักอย่างไร ไปเห็นหน้าตาแบบสดๆ ช็อปปิ้งแล้วมาสอนวิธีทำ กลับบ้านไปจะได้ทำอาหารเป็น สำหรับเรื่องอาหารปีนี้ไม่ใช่เฉพาะต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ ผัดไทย เท่านั้น ที่จะเน้นโปรโมท แต่จะเพิ่มเรื่องของอาหารท้องถิ่น เช่น โคราช มีผัดหมี่โคราช ก็ต้องลงลึกกระบวนการวิธีการมากกว่าเดิม ตรงนี้ต้องการให้เพิ่มเข้ามา Credit : Dudarev Mikhail (Shutterstock) แผนพีอาร์ดึงนักท่องเที่ยวมาภาคอีสาน ต่อเนื่องจากที่กล่าวมายังมีอีก 2 นโยบาย คือ กีฬาและการท่องเที่ยว ที่กำลังโปรโมทและโปรโมทมากขึ้น เพราะเมืองไทยมีสถานที่เล่นกีฬาหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นจุดปั่นจักรยาน จุดวิ่ง ล้วนทำให้เป็นจุดขายได้ ททท.เริ่มขายการกีฬาในตลาดญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลียเริ่มให้ความสนใจ โดยใช้ธีม “Run Amazing Thailand” มีเชียงใหม่มาราธอน หรือมิดไนท์มาราธอน กระทรวงมีข้อมูลในระดับหนึ่งหากจังหวัดใดมีมาเพิ่มก็สามารถนำมาเติมเข้าไปได้ ตอนนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยทำงานร่วมกับ ททท. โปรโมทออกขายด้วยกัน เพราะฉะนั้นจะมีกิจกรรมที่ร่วมกันได้ก็นำเข้ามา เช่น หากเป็นเมืองที่นักกีฬามาเก็บตัว และมาหลายเดือน บางกีฬาต้องเก็บตัวอยู่นานเป็นปี สุดท้ายเมนูแข่งขันระดับนานาชาติก็จะเริ่มเข้ามา เช่น โครงการอาเซียนคอนเน็ค ที่กำลังพยายามดำเนินการให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทย และอยากไปเที่ยวต่อในประเทศเพื่อนบ้าน เราก็จะพาไปโดยติดต่อกับกัมพูชาไว้ เป็นต้น Credit : Ben Heys (Shutterstock) ตัวเลขปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยเกือย 30 ล้านคน แยกเป็นนักท่องเที่ยวจีน 7.9 ล้านคน อาเซียน 7.8 ล้านคน กลุ่มนี้ดีที่สุด เข้ามาเที่ยวเมืองไทยบ่อย มีการใช้จ่ายเงิน พาลูกมาเที่ยว มาเรียน มาซัมเมอร์ มาทำสวย สารพัดอย่าง ต้องให้นักท่องเที่ยว ตลาดอาเซียนมาลงโคราชและอีสานให้ได้ ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวอยากให้ทุกคนยึดคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เรื่องการบริหารความเสี่ยงให้อยู่อย่างพอเพียง ไม่มีธุรกิจใดอยู่ค้ำฟ้า หรือตกต่ำตลอดไป ภาคอีสานพยายามแนะนำให้ดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ได้อย่างน้อย 3-4 ตลาด ตลาดจีนถ้าจะเอาเข้ามามีแน่นอน ตลาดที่สองคือตลาดอาเซียน ตลาดที่สามคือกลุ่มอื่นๆ อย่างยุโรป ซึ่งอย่าไปมองข้ามเพราะกลุ่มนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตลาดที่สี่ ไทยเที่ยวไทย ถ้าตลาดไหนไม่ได้เรายังมีตลาดกลุ่มอื่นๆ ไว้รองรับ Credit : Blanscape (Shutterstock) ทิศทางการท่องเที่ยวโคราชต้องเดินไปทางไหน โคราชเป็นฮับของภาคอีสาน แผนระยะยาวโคราชมี Infrastructure หรือโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจอีกหลายโครงการ ได้รับการดูแลในระยะยาวจากภาครัฐหลายโครงการ สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ วัฒนธรรมที่มีอยู่ เช่น อ.พิมาย ต้องคิดร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้สามารถผูกเรื่องให้นักท่องเที่ยวเข้ามาให้ได้ ทำให้มี Story โคราชมีวัดมากที่สุดในไทย ซึ่งหลายคนยังไม่รู้ ก็นำเรื่องราวนี้มาสร้างให้เกิดความน่าสนใจขึ้น ส่วนตัวคิดว่าอาหารโคราชอร่อย อยากให้ลองทำเป็นฮับด้านอาหารเหมือนที่ จ.จันทบุรี ผูกเรื่องอาหารกับวิสาหกิจชุมชน เรียกว่าเป็น “Industry Tourism” เยี่ยมชมโรงงานหมูแผ่น ทั้งได้ดูกระบวนการผลิต และได้ชิม นักท่องเที่ยวก็ซื้อเป็นของฝาก อย่างโคราชก็มีโรงงานเหล่านี้หลายแห่งและเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ก็น่าจะผูกเรื่องราวได้เหมือนกัน โคราชควรดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาและทำควบคู่ไปกับการชูของดีในจังหวัดขึ้นมาเล่าเรื่อง ควรทำทั้งสองทางคือ ด้านหนึ่งตั้งเป้าลูกค้า ด้านหนึ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ แล้วนำไปโปรโมท เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เน้นเรื่องธรรมะ ความเชื่อ แล้วบวกกับเรื่องอาหารที่สามารถนำมายกเป็นตัวอย่างได้ตลอด อย่างเขาใหญ่ วังน้ำเขียว แต่ด้านกีฬาไม่ทราบว่าไปได้หรือไม่ อาจจะพานักท่องเที่ยวตื่นเช้าใส่บาตร แล้วพาขี่จักรยานตามเส้นทางต่างๆ เป็นต้น Credit : Jag_cz (Shutterstock) ทำอย่างไรให้ท่องเที่ยวและกีฬาของโคราชเป็นจุดแข็งที่สร้างรายได้ เริ่มจากการจัดอีเว้นท์ บางกิจกรรมผู้จัดงานไม่ได้ต้องการคนเพิ่ม แต่ควรเปลี่ยนแนวคิดใหม่โดยการทำให้มีคนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ทำอีเว้นท์เป็นช่วงๆ มาขับเคลื่อน นักท่องเที่ยวบางคนไม่ใช่นักกีฬาแต่เกิดจากความชอบ เช่น ชอบวิ่ง ชอบปั่นจักรยาน ก็จะได้กลุ่มนี้ที่ไม่ใช่นักกีฬามากขึ้น โคราชไม่มีสนามบินทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางลำบากควรแก้ปัญหาอย่างไร แน่นอนจังหวัดที่มีสนามบินย่อมดีที่สุด แต่ถ้าไม่มีก็ต้องสร้างอย่างอ่นชดเชย เหมือนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แอร์เอเชียเริ่มบินก่อนเป็นเจ้าแรกขายแพ็คเกจ คือ ลงจากเครื่องบินแล้วนำลูกค้าไปส่งถึงหาดต่างๆ โคราชมีแนวทางที่สามารถทำได้ ลองเจรจากับสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งบริษัทนี้เก่งเรื่องการทำตลาด หรือไม่ก็ลองเจรจากับรายอื่นๆ ซึ่งต้องคุยพร้อมกับเสนิเรื่องการตลาดเข้าไปด้วย ต้องบอกให้ชัดเจนและสามารถจับต้องได้ เช่น บินมาลงขอนแก่นหรือบินมาลงโคราชแล้วจัดแพ็คเกจแบบค้างคืน 2 คืน พานักท่องเที่ยวไปชมโรงงาน ไปไหว้พระต่อายุ หรือหากมีค่ายมวยดังๆ แหล่งดีๆ ฏ้นำมาผนวกกันทั้งหมด ซึ่งย่าโมถือว่าดีที่สุด นักท่องเที่ยวมาสักการะจากทั่วประเทศ สามารถนำเรื่องราวมาเชื่อมโยงกันได้ เป็นต้น Credit : Bell Kroekrit ฝากถึงนักธุรกิจและคนโคราช การทำงานระหว่างภาครัฐกับเอกชนเป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำงานร่วมกันให้มากยิ่งขึ้นจึงจะสามารถเติบโตและเปลี่ยนแปลงได้ หอการค้าทำหน้าที่ได้อย่างดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Young ที่เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก และอยู่ในช่วงการเปิดการค้าเสรีของอาเซียน เริ่มมีโอกาสเกิดขึ้น ช่วงนี้มีนักธุรกิจเข้ามาทำการลงทุนมากขึ้น ซึ่งภาครัฐทำไม่ได้ แต่สามารถเอื้อประโยชน์ในด้านนโยบายต่างๆ ให้ได้ และต้องเดินไปพร้อมๆ กัน ขณะนี้การท่องเที่ยวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโดยปฏิเสธไม่ได้ เมื่อเข้ามาเที่ยวแล้วก็จะเกิดการลงทุน หรือลงทุนแล้วจึงมาเที่ยว คือ “ค้า ลงทุน เที่ยว” ทั้ง 3 อย่างแยกออกจากกันไม่ได้ ต้องไปด้วยกัน แต่อันไหนมาก่อนมาหลังก็ได้ เที่ยวมาก ค้ามาก ลงทุนมาก หรือลงทุนอยู่แล้วก็มาเที่ยวมากขึ้น การท่องเที่ยวเข้ามาแตะกับธุรกิจเศรษฐกิจชัดมากขึ้น ซึ่งหอการค้า คือ ตัวกลาง สิ่งสำคัญคือประเทศไทยสามารถเจริญเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สอนไว้ คือ มาจากเรื่องคน ท่องเที่ยวก็คือเรื่องคน การค้าก้คือเรื่องคน สิ่งที่การท่องเที่ยวทำให้เกิดขึ้นได้คือทำให้คนมารู้จักกัน เป็นเพื่อนกัน มีความรัก และภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองมี จึงจะทำให้เกิดการส่งต่อได้ หากทำการโปรโมทแล้ว สุดท้ายเจ้าถิ่นไม่อยู่ใครจะมาสร้างบ้านให้อีก การท่องเที่ยวต้องการคนท่องถิ่นเพราะคือจิตวิญญาณ ต้องเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่มีก่อน เมื่อก่อนเราอาจมองข้ามเพราะมองไม่เห็น เพราะใกล้เกินไป ถ้าทำเรื่องนี้ได้ก็จะรู้จักบ้านของตัวเองมากขึ้น ขั้นตอนต่อไปก็จะง่ายขึ้นเพราะขายด้วยใจ ด้วยความเชื่อ ไม่ใช่ด้วยเงินอย่างเดียว สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ง่ายถ้าเริ่มจากคนที่มีใจ แล้วได้มาร่วมกันทำด้วยใจ แหล่งข้อมูล : นิตยสารหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ฉบับวันที่ 10 สิงหาคม 2559
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market