หลังสงกรานต์นี้ ไทย-จีนเตรียมเดินหน้าการประชุมคณะกรรมการร่วมรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 10 ณ ประเทศจีน โดยมี “นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ” เป็นผู้นำทีม เพื่อหาข้อสรุปรายละเอียดของโปรเจ็กต์นำร่อง “กรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา” ระยะทาง 250 กม. ใช้เงินลงทุนกว่า 1.7 แสนล้านบาท หลังเขย่าสูตรลงทุนใหม่เป็น “รัฐบาลไทย” ลงทุนงานโยธาและให้เอกชนไทยหรือจีนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP งานระบบและเดินรถ โดยใช้ระบบเทคโนโลยีจากจีนและสร้างเป็นรถไฟความเร็วสูง 250 กม./ชม. กระทรวงคมนาคมเผยว่า โครงการรถไฟไทย-จีนเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา ยังคงเป็นความร่วมมือจีทูจี (รัฐต่อรัฐ) กับจีน ตามข้อตกลง MOU เพราะรัฐบาลอยากให้เกิดการเริ่มต้นในรัฐบาลชุดนี้ และตั้งเป้าให้เป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศ จึงตัดสินใจจะลงทุนเอง เป็นการ back to basic ในขณะที่การประชุมครั้งที่ 10 จะต่อรองค่าก่อสร้างจีนจาก 1.9 แสนล้านบาท เหลือ 1.7 แสนล้านบาทตามที่ไทยศึกษาไว้ ส่วนจะเริ่มสร้างในปีนี้ได้หรือไม่ ก็ยังตอบไม่ได้ Credit : ประชาชาติออนไลน์ ในอนาคตสำหรับเส้นทางที่เหลือ จากนครราชสีมา-หนองคายและแก่งคอย-มาบตาพุด อาจจะไม่ใช้ระบบของจีนทั้งหมด แต่เป็นการผสมอะไหล่และเทคโนโลยีจากยุโรป แล้วนำมาประกอบที่โรงงานจีนทีหลัง สำหรับรูปแบบการลงทุน จะมีทั้งจีทูจีและ PPP (รัฐ+เอกชน) ยังไม่สามารถระบุได้ขณะนี้ ว่าจะยังคงเป็นจีทูจีกับจีนเฉพาะงานราง อุโมงค์ ที่ไทยไม่มีเทคโนโลยี ส่วนรูปแบบ PPP อาจจะเป็นงานระบบและเดินรถ ให้เอกชนร่วมลงทุนสัดส่วน 30% หรือประมาณ 5.1 หมื่นล้านบาท หรือเฉพาะการพัฒนาที่ดินโดยรอบสถานี ขณะที่ “SPV-บริษัทร่วมทุน” อาจจะไม่มีก็ได้ รายละเอียดโครงการทุกอย่างจึงยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด เมื่อคนทำคิดตามไม่ทัน เพราะนึกไม่ถึงว่า “บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะตัดบทกลางอากาศ กลับมาสู่ “ไฮสปีดเทรน” เวอร์ชั่นประชารัฐ มีรัฐ-เอกชนร่วมลงขันผลักดันโครงการกันในที่สุด แหล่งข้อมูล : ประชาชาติออนไลน์ ภาพประกอบ : 45hq.com (ปก) และ ประชาชาติออนไลน์ (ภาพประกอบ)
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market