สัมภาษณ์พิเศษ SwatCat Captain | เจาะเบื้องหลัง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว หนทางกว่าจะเป็นกัปตันสวาทแคท | SwatCat TheSeries ตอนที่ 2 ย้อนไปเพื่อพ.ศ. 2529 เด็กผู้ชายคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมาที่จังหวัดลพบุรีในครอบครัวทหาร “เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว” ในวัยเด็ก ชอบการเล่นฟุตบอล มีคุณพ่อเล่นฟุตบอลให้กับทีมกองทัพ เด็กชายคนนี้จะตามคุณพ่อไปด้วยเสมอ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและความชอบของตัวเขาเอง ทำให้ทักษะการเล่นฟุตบอลเริ่มพัฒนามาตั้งแต่วัยเด็ก “ผมเริ่มเล่นบอลตั้งแต่เด็กเลยครับ ประมาณช่วงป.1-ป.2 เพราะคุณพ่อเป็นนักบอลอยู่แล้ว คุณพ่อเล่นบอลให้กับกองทัพ ตอนเป็นเด็กพ่อไปไหนก็จะตามพ่อไปด้วยตลอด ผมชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กครับ บางวันคุณแม่ก็พาซ้อนมอเตอร์ไซค์ตากแดดร้อนๆ ไปแข่งบอลก็มีครับ” “ตอนสมัยเริ่มเล่นฟุตบอลแรกๆ ผมไม่ได้เล่นกองหลังนะ ด้วยความที่เราเป็นเด็กตอนนั้นก็เล่นสลับตำแหน่งมั่วๆ ไปเรื่อย กองหน้าบ้าง ตำแหน่งอื่นๆ บ้างตามประสาเด็ก ผู้รักษาประตูผมก็เคยเล่นมาแล้ว” ที่จังหวัดลพบุรีเป็นสถานที่บ่มเพาะเมล็ดกล้านักเตะอาชีพตัวเล็กๆ ให้เติบโตขึ้นมา ถึงตอนนั้นก็ยังไม่มีใครคิดมาก่อนว่าเด็กน้อยคนนี้ จะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลขนาดไหน แม้กระทั่งตัวเขาเอง “ช่วงขึ้นมัธยมผมก็ยังเล่นฟุตบอลอยู่ตลอดครับ มีแข่งทีมโรงเรียนทั่วไปและเล่นฟุตบอลมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงมัธยมปลาย ถึงเริ่มเล่นตำแหน่งกองหลังแบบจริงจังครับ” “หลังจากจบมัธยม ผมเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีช่วงนั้นก็เล่นให้ทีมของมหาวิทยาลัย และมีเล่นให้ทีมของจังหวัดลพบุรีด้วยครับ การแข่งขันโปรวินเชียลลีก ปี 2007 เราได้แชมป์ในชุดนี้ด้วย” หลังจากเกมโปรลีกปี 2007 นัดชิงชนะเลิศที่ทีมลพบรี ดวลจุดโทษชนะทีมสงขลา ทำให้ได้แชปม์ไปครอง นี่เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นให้ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ที่อยู่ในุดแชมป์ เริ่มแจ้งเกิดให้บรรดาแมวมองได้รู้จัก “พอผมเรียนขึ้นปี 2 ช่วงนั้นสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการเปิดคัดตัว ผมก็ลองไปคัดดูครับ ผลปรากฎว่าผมติด ผมได้รับโอกาสเล่นให้กับที่นี่ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของผมเลยครับ” จากเด็กน้อยที่ตามคุณพ่อไปเล่นฟุตบอล มาจนถึงตอนนี้ ผลพวงแห่งความพยายามทำให้เขาสามารถก้าวเข้าสู่นักกีฬาอาชีพได้อย่างเต็มขั้น โดยเริ่มต้นกับสโมสรในลีกสูงสุดของประเทศไทย อย่างสโมสรการไฟฟ้า “สโมสรการไฟฟ้าฯเซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับผม ซึ่งตอนนั้นผมดีใจมาก ได้เงินเดือนครั้งแรกเลย 10,000 บาท บวกกับมีเบี้ยเลี้ยงซ้อมอีก 500 บาท ตอนนั้นถามว่าเยอะไหมก็โอเคนะ แต่สิ่งที่ผมได้มากกว่าคือประสบการณ์ ทีมการไฟฟ้ายุคนั้นเหมือนเป็นทีมรวมสตาร์ มีนักเตะทีมชาติเยอะมาก ผมได้อยู่ทันรุ่นพี่โชคทวี พรมรัตน์ ซึ่งตอนเป็นเด็กผมเคยแต่ดูเขาในทีวี แล้ววันนึงเราได้มาเล่นร่วมทีมกับพี่เขาได้ พี่อ้น รังสรรค์ พี่ณรงค์ชัย วชิรบาล และอีกหลายๆ คน เรียกว่าผมได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ตรงนี้จากพี่ๆ เขา ซึ่งผมคิดว่ามันประเมินค่าไม่ได้ครับ” ปราการหลังร่างใหญ่รายนี้ เขาเล่นสั่งสมประสบการณ์กับสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ 2 ปี หลังจากนั้นบุรีรัมย์ ก็มาเทคโอเวอร์สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปลี่ยนไปเป็นสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งตัวเขาเองก็ยังได้เซ็นสัญญาต่ออีก 3 ปี “ตอนนั้นบุรีรัมย์มี 2 ทีม คือบุรีรัมย์ พีอีเอ ในไทยลีก และอีกทีมคือบุรีรัมย์ เอฟซี เล่นในลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ผมได้มาเล่นให้ทีมบุรีรัมย์ เอฟซีก่อน ซึ่งปีแรกเราได้แชมป์ดิวิชั่น 2 พอเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นลีกดิวิชั่น 1 เราก็คว้าแชมป์อีกติดต่อกันเลย ทำให้บุรีรัมย์ เอฟซี ได้สิทธิ์มาเล่นไทยลีก ตอนนั้นมีอีกทีมคือบุรีรัมย์ พีอีเอ เล่นในไทยลีกอยู่แล้ว จึงยุบรวมเหลือทีมเดียวและขายสิทธิ์เล่นไทยลีก ให้กับสงขลาไปครับ ซึ่งผมก็ได้เล่นต่ออยู่กับทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยุบรวมเป็นทีมเดียวครับ” ตลอดระยะเวลาการค้าแข้งในถิ่นอีสานใต้กับบุรีรัมย์มา 3 ปี เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เริ่มมีความกระหาย และอยากหาความท้าทายเพื่อพิสูจน์ฝีเท้าของตนเอง ในปี 2013 เขาได้ย้ายมาร่วมกับสโมสสรชัยนาท เอฟซี “ผมได้มาร่วมงานกับโค้ชง้วน ที่ชัยนาท ซึ่งที่นี่ผมก็ได้รับโอกาสในการลงเล่นสม่ำเสมอ หลังจากจบฤดูกาลนั้นกับชัยนาท ก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นอะไรต่างๆ บวกกับทางโค้ชซุกาโอะ คัมเบะ ติดต่อมา ผมก็ได้ย้ายมาเล่นที่โคราชครับ” เรียกว่าเป็นโชคชะตาหรืออะไรก็ตาม ทำให้เขาได้ย้ายมาเล่นกับกับทีมในถิ่นอีสานใต้อีกครั้ง การร่วมงานกับทีมสวาทแคท ในยุคของโค้ชชาวญี่ปุ่น ทำให้เขาเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และพัฒนาฝีเท้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา “การได้มาเล่นที่โคราชผมถือว่าเป็นโอกาสที่ดีครับ เสน่ห์ของสโมสรนี้คือแฟนบอลครับ ทุกครั้งที่เตะในบ้านแฟนบอลเข้ามาเชียร์กันเยอะมากๆ และก็ถือว่าเหนียวแน่นนะ เวลาเราออกไปแข่งนอกบ้าน แฟนบอลก็ยังตามไปให้กำลังใจเราเยอะเหมือนเดิม แดดร้อน ฝนตก ก็ยังมีพวกเขาคอยสนับสนุนเราตลอด ประทับใจครับ” “นอกจากความประทับใจในทีมแล้ว ผมอยู่ที่นี่รู้สึกว่าชอบเมืองนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ผมว่ามันครบ ออกนอกเมืองหน่อยก็มีธรรมชาติ มีภูเขามีป่าไม้ หรือถ้าอยากเข้าเมืองก็มีห้างต่างๆ ครบเลย มีครบทุกอย่าง ทั้งเมืองและธรรมชาติซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน” เสน่ห์ของสวาทแคทและเมืองโคราช ทำให้หนุ่มลพบุรีคนนี้ มีฟอร์มการเล่นดีวันดีคืน เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 1 เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้สำเร็จ และได้รับหน้าที่กัปตันทีมในเวลาต่อมา ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ทำให้เขาต้องพยายามมากขึ้นกว่าเดิม “การเป็นกัปตันทีมของผมในเกมการแข่งขัน 90 นาที เราต้องคอยกระตุ้นทีม ก็ตะโกนแทบทุกนัดครับ บางครั้งคอแทบแตก เพื่อให้ทีมเล่นได้ตามแผนที่โค้ชวางไว้ นอกเหนือจากเกมเราก็ดูแลกันเหมือนพี่น้องครับ ในทุกๆ เรื่อง” จวบจนมาถึงปัจจุบันเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เป็นหนึ่งในขุมกำลังหลักของทีมสวาทแคท และอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายจากราเยวัชโค้ชทีมชาติคนใหม่ ในนามกองหลังทีมชาติไทย ยิ่งทำให้กัปตันคนนี้ต้องทำงานเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว “การได้เข้าไปเล่นในนามทีมชาติไทย ผมว่าก็มีส่วนช่วยในการพัฒนาทีมสวาทเคทเราครับ ผมได้รับโอกาสเป็นตัวแทน แน่นอนว่าทีมชาติเราต้องไปเจอเกมใหญ่ๆ ประสบการณ์ในแบบที่ต่างออกไป ผมว่าน่าจะนำกลับมาประยุกต์ใช้กับสโมสรได้ด้วยครับ” อีกหนึ่งความสงสัยของบรรดาแฟนบอลสวาทแคท ซึ่งหลังจากทราบข่าวการติดทีมชาติของกัปตันเหลิม ก็อดเป็นห่วงอนาคตกับทีมสวาทแคทไม่ได้ “ก็เป็นเรื่องของอนาคตอ่ะครับ ที่จริงผมไม่อยากไปไหนหรอก อยากอยู่ที่โคราช ผมซื้อคอนโดที่นี่แล้ว คือด้วยความที่ผมชอบอะไรหลายๆ อย่างของเมือง ซึ่งมันดูลงตัวมาก เป็นไปได้ก็อยากเล่นที่นี่จนแขวนสตั๊ดครับ” นอกเหนือจากชีวิตในวงการกีฬาของเขา เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ยังมีครอบครัวที่ถึงแม้เข้าจะเล่นฟุตบอลอยู่ตลอดเวลา แต่ความรับผิดชอบที่เขามีให้ครอบครัวนั้นไม่ได้น้อยกว่าภาระหน้าที่การเป็นกัปตันทีมแต่อย่างใด “เราก็ไม่ลืมที่จะดูแลทางบ้านที่ลพบุรีครับ ตอนนี้แฟนผมอยู่กรุงเทพ ส่วนลูกชายผมกำลังจะขึ้นป.3 แล้วปีนี้ อยู่ทางบ้านที่ลพบุรีครับ ในส่วนลูกชายผมก็ไม่ได้คาดหวังนะว่าเขาต้องเป็นนักฟุตบอลเหมือนพ่อ แค่อยากให้เป็นคนดีก่อนก็พอ ที่เหลือก็แล้วแต่ความชอบของเขา แต่ก็เริ่มเห็นแววแล้วครับ ตกเย็นเขาก็จะใส่รองเท้า เล่นฟุตบอลอยู่แถวบ้านตามประสาเด็ก” Korat Startup Sport : Spacial Interview Location : เวียนนา การ์เด้นท์ รีสอร์ท 23 พฤษภาคม 2560
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market