จะมีสักกี่คนที่ออกไปท่องเที่ยวในบ้านเกิดตัวเองได้ครบทุกที่ บ่อยครั้งที่บางสถานที่อยู่ใกล้ๆ บ้านเราแท้ๆ แต่เรากลับยังไม่เคยไป? เชื่อว่าหลายคนคงเป็นแบบนี้แน่ๆ ยิ่งเฉพาะ “คนโคราช” การได้ท่องเที่ยวทั่วจังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยาก ส่วนใหญ่ก็ไปเที่ยวในสถานที่ที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่นิยม จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า โคราช ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ มีความสวยงาม ที่ท่านอาจยังไม่รู้จัก ซ่อนตัวอยู่อีกเยอะ บนทางหลวงหมายเลข 304 จากตัวเมืองโคราชมุ่งหน้าสู่อำเภอปักธงชัย เป็นอีกอำเภอใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา ของดีประจำอำเภอนี้อยู่ในรูปแบบ “เส้น” เส้นที่ว่าก็คือ “เส้นหมี่” และ “เส้นไหม” ที่ไม่ว่าใครแวะเวียนผ่านไปผ่านมา ต่างต้องหยิบติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากให้คนสำคัญแน่นอน ขับรถมาประมาณ 25 นาที ก็ถึงอำเภอปักธงชัย ถนนหนทางสะดวกและร่มรื่นมาก ถนนสายนี้เคยได้รับรางวัล “ถนนสวยต้นไม้งาม” ทำให้ความรู้สึกในการขับขี่ค่อนข้างสบายๆ จุดมุ่งหมายวันนี้เราเลี้ยวขวาออกไปยังถนนที่มุ่งหน้าสู่ “เขื่อนลำพระเพลิง” แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าเราจะพามาเขื่อนลำพระเพลิงนะ ทริปนี้ลึกลับกว่านั้น รับรองว่าอันซีนแน่นอน หลังจากเราเลี้ยวขวามายังถนนที่มุ่งหน้าสู่เขื่อนลำพระเพลิง ตัวถนนเป็นแบบ 2 เลน รถวิ่งสวนกัน ข้างๆ ถนนฝั่งขวาจะป็นคลองชลประทาน ขับไปเรื่อยๆ ปะมาณ 25 นาที ก็ใกล้ถึงจุดมุ่งหมายของเราในวันนี้แล้ว บรรยากาศระหว่างทางที่มาเป็นทุ่งนากว้าง สลับกับเนินเขา บังเอิญตอนที่เราไปนั้นมีฝนตกนิดๆ มองเห็นสายหมอกบางๆ ลอยตัวต่ำใกล้ๆ ยอดเขาบางลูก อยากจอดรถแล้วหยิบภาพนี้เก็บใส่กระเป๋ามาให้คนในเมืองได้ดูกันจริงๆ รถวิ่งไปตรงทางขึ้นสันเขื่อนลำพระเพลิง ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะเห็นสันเขื่อนที่เป็นต้นน้ำหล่อเลี้ยงหลากหลายชีวิต แต่เราเลี้ยวขวามา “วัดป่าศรีโพธิญาณ” ปลายทางของเรา วิ่งขึ้นไปบนเนินเขาอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว ซึ่งความรู้สึกแรกที่ไปถึงคือ ตกใจมากๆ ที่มีสถานที่สวยๆ ซ่อนอยู่ในป่าแห่งนี้ ซึ่งใกล้กับเขื่อนลำพระเพลิงมาก ในวัดจะมีองค์ประพุทธรูปขนาดใหญ่ ความสูงหลายสิบเมตร สีทองขององค์พระไม่ใช่การทาสีแต่อย่างใด แต่เป็นสีทองของทอคำเปลวแท้ๆ นับล้านๆ แผ่นที่นำมาตกแต่ง เราชื่นชมความงามของบรรยากาศรอบๆ สักพัก เดินไปทั่วบริเวณ ซึ่งเงียบสงบ มีเพียงเรา กับกลุ่มครอบครัวที่มาท่องเที่ยว 2 กลุ่มเท่านั้นเอง ผู้คนในละแวกนี้เล่าว่า ภายในวัดมีพระพุทธรูป ที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ใครมาขอพรก็ประสบผลดั่งใจหวัง เรียกกันว่า “หลวงพ่อทันใจ” เป็นพระพุทธรูปองค์เล็ก อยู่ด้านหลังพระใหญ่ สำหรับใครที่จะตามรอย ห้ามมาขอเรื่องความรักนะบอกไว้ก่อน เพราะเป็นเรื่องเดียว ที่จะไม่สมหวัง เราเดินลงมาตามเนินข้างๆ องค์พระใหญ่ มาถึงหน้าผาที่เป็นจุดชมวิวชั้นเยี่ยม ความรู้สึก “ว้าว” กระหน่ำมาหาเราไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไร เบื้องหน้าเป็นภาพของภูเขาล้อมรอบ 2 ฝั่ง ซึ่งตรงการเป็นผืนน้ำเหนือเขื่อนขนาดใหญ่ ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ด้วยเป็นฤดูฝน สีน้ำตาลอ่อนๆ ของน้ำ ตัดกับสีเขียวชอุ่มของผืนป่า นี่บ้าไปแล้วใช่ไหม มันสวยมากๆ ธรรมชาติยังอยู่ครบ 100% ความรู้สึกตอนนี้คืออยากอยู่ตรงนี้นานๆ เรายืนนิ่งๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้สักพัก แสงแห่งวันก็เริ่มอ่อนลง ใกล้จะหมดเวลาของดวงอาทิตย์ในวันนี้แล้วสินะ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือไปยืนตรงหน้าผา กางแขน แล้วสูดหายใจเข้ายาวๆ โดยหวังเพียงว่าภาพเหล่านี้ อากาศบริสุทธิ์แบบนี้ จะติดเข้ามาในปอดเราให้ได้มากที่สุด ระหว่างทางเดินย้อนขึ้นมา บนหินแต่ละแผ่นนั้น ปกคลุมด้วยมอสสีเขียว ระวังลื่นกันด้วยนะ ก่อนกลับเราไม่ลืมที่จะเข้าไปขอพรกับหลวงพ่อทันใจ แต่ไม่บอกนะว่าเราขออะไร เดี๋ยวไม่ขลัง ใครว่างๆ หรือวันหยุดนี้ไม่รู้จะไปที่ไหน เราแนะนำที่นี่นะ เลี้ยวขวาตรงสันเขื่อนลำพระเพลิง ใกล้ๆ เอง บรรยากาศ ระดับ 5 ดาว [soliloquy id=”775″]
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market