ภายหลังจากทางเขื่อนลำตะคองได้มีการแจ้งเตือนเกษตรกรถึงการจ่ายน้ำช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปี อาจมีความล่าช้าออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2559 เนื่องจากต้องคอยให้น้ำมีปริมาณน้ำกักเก็บเกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณกักเก็บปัจจุบันอยู่ที่ 63 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 20% ของความจุกักเก็บ 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เกษตรกรโคราชแห่ปลูกพืชผักสวนครัวหารายได้เสริมทดแทนเป็นจำนวนมาก

 

710251-02
Credit : innnews

 

 

แม้ว่าฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้จะไม่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนเท่าใดนัก แต่ด้วยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ทำให้เกษตรกรที่เคยทำการเพาะปลูกข้าวนาปีจึงหันไปทำการปลูกพืชชนิดต่างๆ เพื่อหารายได้เสริมช่วงที่ยังไม่ได้เพาะปลูกข้าวนาปี อย่างเช่น นายสุรเดช สังฆะรัตน อายุ 48 ปี หนึ่งในเกษตรกรพื้นที่บ้านตะคลองเก่า ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่ได้หันมาปลูกผักสวนครัวแทน หลังจากที่ประสบวิกฤตปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคองที่มีลดน้อยลง จึงเลือกมาปลูกผักชีลาวแทน เนื่องจากช่วงนี้ในพื้นที่มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เมล็ดพันธ์ุผักชีที่หว่านไปนั้น เจริญเติบโตได้ดี ดูแลไม่ยาก ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวผลผลิตใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือน อีกทั้งราคาที่พ่อค้าคนกลางมารับซื้อ ให้ราคากิโลกรัมละ 10 บาทอีกด้วย

 

710251-03
Credit : innnews

 

นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการหารายได้เสริมท่ามกลางสภาวะอากาศเช่นนี้ Korat Startup เองก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกรทุกคนฟันฝ่าวิกฤตน้ำแล้งนี้ไปได้ด้วยดี หากเกษตรกรคนใดสนใจก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้กันดูนะครับ

 

แหล่งข้อมูลและภาพประกอบ : innnews

 


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …