เชื่อว่าการขี่ม้าซักครั้งในชีวิตคงเป็นความฝันของใครหลายๆ คนในวัยเยาว์ โดยเฉพาะคนโคราชที่มีโอกาสได้ขับผ่านถนนริมบุ่ง จะเห็นคนจูงม้าแข่งมาเดินออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ในฐานะที่เราเป็นคนธรรมดาสามัญ เราแทบไม่เคยได้สัมผัสสิ่งมีชีวิตอันสง่างามนี้เลย อย่างมากสุดก็ได้แค่ขับรถผ่าน มองขนที่เรียงเส้นสวยเป็นกำมะหยี่ที่สะท้อนกับแสงแดด ฟังเสียงเกือกม้าที่กระทบกับพื้นซีเมนต์ร้อนๆ ยามมันย่ำเหยียบ หรือเฝ้ามองมันวิ่งอย่างเต็มฝีเท้าในสนามเท่านั้น จนเรารับโอกาสพิเศษมาเยี่ยมชมโรงเรียนสอนขี่ม้านอร์ธสตาร์ ซึ่งมีสนามฝึกในร่มใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 6 ถ.มหาวิทยาลัย 1 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา โรงเรียนสอนขี่ม้านอร์ธสตาร์ ก่อตั้งขึ้นมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว โดยคุณสรายุธ และคุณลินดา ตันติวงษ์ สองสามีภรรยาที่รักม้าเป็นชีวิตจิตใจ คุณสรายุธเป็นคนโคราชโดยกำเนิด ส่วนคุณลินดาเป็นคนแคนนาดา เดินทางข้ามโลกมาเป็นครูสอนหนังสือที่ประเทศไทยเมื่อสิบกว่าปีก่อน เมื่อออกจากอาชีพครู อาจารย์ก็ได้แต่งงานกับคุณสรายุธและหันทำอีกหนึ่งสิ่งที่ทั้งคู่รักมาโดยตลอดนั่นก็คือการทำโรงเรียนสอนขี่ม้าต้นแบบที่สอนให้ทุกคนรู้จักการดูแลม้า นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโรงเรียนสอนขี่ม้าแห่งนี้ใช้ชื่อ “นอร์ธสตาร์ (North Star)” ซึ่งแปลว่า ดาวเหนือ ก็เพราะว่าดาวเหนือคือสิ่งที่เราคอยนำทางเรา เฉกเช่นเดียวกับเจตนารมณ์ที่ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมา ก็เพื่อนำทางเรากลับคืนมาสู่ธรรมชาติ และสอนเราว่าการดูแลม้าที่ถูกต้องควรอย่างไรนั่นเอง อาจารย์ลินดายอมรับว่า “เด็กๆ คือแรงบันดาลใจที่ทำให้สร้างโรงเรียนนี้ขึ้นมา” เพราะเด็กๆ ในปัจจุบันใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ก็ไปเที่ยวห้าง หรือติวหนังสือตามสถาบันกวดวิชาตามที่ต่างๆ เท่านั้น ไม่เคยออกมาสัมผัสแสงแดด สูดอากาศที่บริสุทธิ์ และสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเลย อาจารย์จึงต้องการให้โรงเรียนเป็นสื่อกลางที่ให้เด็กๆ และผู้คนที่สนใจได้เข้ามาสัมผัสเข้ามาเรียนรู้สิ่งมีชีวิตที่สวยงามเหล่านี้ ปัจจุบันนอร์ธสตาร์มีม้าม้าแกลบ 14 ตัว ม้าโต 22 ตัว และม้าที่ช่วยเหลือออกมาอีก 5 ตัว ทั้งจากสนามแข่งและกีฬาโปโล บางตัวขาเจ็บ บางตัวมีปัญหาผิวหนัง เราถึงทราบว่าที่ผ่านมา ม้ามีความเป็นอยู่ที่น่าสงสารมาก ถูกเลี้ยงขึ้นมาเพื่อให้เป็นแชมป์ หมดประโยชน์ก็ถูกฆ่าทิ้ง บ้างก็เอาไปปล่อยตามทุ่งรกร้างที่ถูกล้อมด้วยลวดหนามราคาถูก ปล่อยให้อยู่แบบตามมีตามเกิด อาจารย์ลินดาและคุณสรายุธก็รับมาเลี้ยงดูและเยียวยารักษาจนมันหายเป็นปกติเท่าที่กำลังจะทำไหว เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้แก่พวกมันในปั้นปลายและสอนมันให้เป็นคู่ฝึกซ้อมที่น่ารักสำหรับพวกเรา สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเรียนที่นี่ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่มีอายุมากกว่า 2 ขวบขึ้นไป มีความมั่นใจและความกล้า มีน้ำหนักไม่เกิน 20-25% ของม้า ซึ่งที่นอร์ธสตาร์มีม้าตัวใหญ่ที่สามารถรับน้ำหนักได้มากสุดถึง 120 กิโลกรัม! หรือในกรณีผู้ปกครองมีบุตรหลานซึ่งมีความผิดปกติด้านพัฒนาการก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ ที่นี่จะครูฝึกที่มีความเชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เป็นอย่างดีตลอดการเรียนการสอน เมื่อเราควบคุมสัตว์ใหญ่ได้ แน่นอนว่าการขี่ม้าจะมอบความกล้าและความมั่นใจในตัวเองให้แก่เรา นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ทั้งยังเสริมบุคลิกภาพ และได้ร่างกายที่แข็งแรงกลับไปด้วย อย่างสาวน้อยชุดดำที่เราเห็นอยู่ตรงนี้ก็คือ น้องจีน นักกีฬาขี่ม้าที่เริ่มขี่มาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขัน Horse guard open ความสูง 80 เซน. และ 90 เซน. มาได้สดๆ ร้อนๆ เห็นน้องนิ่ง สุขุม และสง่างามยามอยู่บนอานม้าอย่างนี้ ใครจะเชื่อว่าน้องเพิ่งอายุ 15 ปีเอง! ถามว่าตอนเราอายุ 15 เราทำไรกัน…ตอบ!! ยังโดดยางกับเพื่อนอยู่เลย แต่น้องกลับดูมีวุฒิภาวะและมีวินัยสูงมาก ขณะที่เราเฝ้าดูการฝึกซ้อมของน้องจีนอย่างใกล้ชิด เรากลับมองไม่เห็นความกลัวหรือความลังเลอยู่ในแววตาของน้องเลยซักนิด ว่าแล้วอาจารย์ก็ให้พวกเราลองขี่ม้าดูบ้าง เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก ใจเต้นไม่เป็นระส่ำเลยเพราะมันตัวสูงกว่าเราอีกแหน่ะ แถมหนักเกือบครึ่งตันอีกต่างหาก เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราต้องเรียนรู้เป็นอันดับแรกเลยก็คือ “ความปลอดภัย” อาจารย์จะให้เราใส่หมวกนิรภัยและปรับสายให้พอดีกับหัวเราก่อนจะเข้าไปในที่กั้นเล็กๆ สำหรับฝึกซ้อมขี่แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องคอยคุมบังเหียนแต่จะมีเทรนเนอร์เป็นคนจูงม้าพาเราเดินไปรอบๆ ยอมรับว่าช่วงแรกเราจะรู้สึกป๊อด (ปอดแหก) นิดนึงเพราะมันไม่เหมือนมอเตอร์ไซด์ที่เราขี่เอาเสียเลย ฮ่าๆๆ มันตัวสูงใหญ่ เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่บึกบึนและอบอุ่น เมื่อเราจัดที่นั่งได้เข้าที่เรียบร้อยเราจะพบว่าตัวเรานั่งอยู่ในท่าที่หลังเหยียดตรงโดยอัตโนมัติได้อย่างน่าประหลาดใจ เสียงหายใจของมันจะผสานไปกับจังหวะที่มันก้าวเดินไปข้างหน้า พอเราเริ่มจับจังหวะมันได้เราจะเริ่มรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับมันและไม่มีความประหม่าอีกต่อไป ระหว่างโยกตัวไปมาตามจังหวะของมันเราก็อดทึ่งในความสามารถของบรรดานักรบในอดีตที่เคยต่อสู้บนอานม้าที่ใช้เพียงดาบและธนูเป็นอาวุธไม่ได้เลย เพราะเขาต้องมีสมาธิในการรบพุ่งเบื้องหน้าและรักษาสมดุลระหว่างตัวเองกับม้าไปด้วยซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากนี้ มันยังทำให้เราได้ตระหนักถึงอีกสิ่งหนึ่งที่เราอาจมองข้ามไปนั่นก็คือ ในยามที่เทคโนโลยีและสิ่งต่างๆ พัฒนาไปข้างหน้า มนุษย์เรากลับอ่อนแอลง ในขณะที่สมัยก่อนเขาไม่มีอะไรเลย…เขากลับต้องพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอด นั่นคือสิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้จากมันขณะที่เราอยู่บนหลังมันเพียงไม่กี่นาที ม้าทุกตัวที่นี่จะไม่ถูกฝากความคาดหวังไว้กับสายพันธุ์ ว่าต้องผสมอะไรกับอะไรถึงจะได้สุดยอดแชมเปี้ยน อาจารย์ลินดาเชื่อเสมอว่า “ม้าก็เหมือนกับคน” ทุกตัวสามารถลงสนามแข่งประเภทใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและการฝึกสอนที่ดี เราให้ความรักกับมันอย่างไรดูแลมันอย่างไร มันก็จะทำกับเราอย่างนั้น เหมือนกระจกที่สะท้อนตัวเรา และที่สำคัญคือมันมีชีวิตจริงใจ มันมีวันที่ดีและมีวันที่เลวร้ายเหมือนกับเรา สิ่งที่เราต้องทำคือเรียนรู้และเข้าใจมัน ที่ผ่านมา เราอาจไม่เคยกล้าเฉียดเข้าโรงเรียนขี่ม้ามาก่อนเพราะมันเหมือนกับอยู่คนละโลก เป็นกีฬาของคนรวย สิ่งนี้เราไม่ปฏิเสธเพราะต้นทุนในการดูแลม้าค่อนข้างสูงจริงๆ ไหนจะอาหารการกินที่ต้องพิถีพิถันให้มันได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ไหนจะค่ารักษาพยาบาลยามมันเจ็บป่วย และอีกมากมาย แต่ที่นี่กลับคิดค่าเรียนในราคาที่ถูกมากกว่าที่อื่นๆ ถึง 2-3 เท่า ทั้งยังพร้อมอ้าแขนต้อนรับทุกคนที่รักม้าให้เข้ามามีโอกาสได้สัมผัสและเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับมันได้อย่างจุใจ แถมยังใจดีจำหน่ายปุ๋ยขี้ม้าให้กับเกษตรกรในราคาย่อมเยาอีกต่างหาก ส่วนใครที่ต้องการจะฝากม้าที่นี่ก็มีให้บริการในราคาพิเศษ พร้อมทั้งทีมผู้ดูแลม้าที่มีความชำนาญ และคอกม้าที่ถูกออกแบบให้ปลอดภัยสำหรับม้า ทุกคอกจะประกอบไปด้วยแผ่นปูพื้นยางธรรมชาติที่ทางคอกสั่งทำเป็นพิเศษ มีพัดลมที่พัดจากด้านข้างเพื่อเพิ่มการระบายอากาศที่ดีกว่าพัดลมเพดาน กล้องวงจรปิดอินฟาเรดออนไลน์ รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีไฟไล่แมลงในเวลากลางคืนอีกด้วย แถมเวลาเนื่อยๆ จากการขี่ม้าที่นี่ยังมีคลับเฮาส์ให้เราสามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจ จิบกาแฟ ดื่มน้ำเย็นๆ และสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ขี่ม้าได้ตามใจชอบ สำหรับนักขี่ม้าที่มีประสบการณ์ในการขี่ก็สามารถสัมผัสการขี่ม้าในพื้นที่แบบธรรมชาติ นอกเหนือไปจากขี่ในสนาม บนพื้นที่ขนาด 80 ไร่ ได้อย่างสนุกสนานซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่วันที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ ฮ่าๆๆ หากใครได้มาซักครั้งจะต้องประทับใจและตกหลุมรักที่นี่อย่างแน่นอน…ไม่ใช่เพราะที่นี่มีสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นเพราะทุกคนที่นี่ทำงานอย่างอุทิศตัวเพื่อให้พวกม้าเหล่านี้สุขภาพแข็งแรงและมีความสุข ปฏิบัติต่อม้าด้วยความรักและเคารพมันอย่างที่เราพึงปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และกระตือรือล้นที่จะแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ให้แก่ทุกคนที่ไปเยี่ยมเยือน และท้ายที่สุด เมื่อเรามองเข้าไปในดวงตาของมัน จะพบว่าสิ่งที่มันต้องการไม่ใช่เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือเงินทอง แต่เป็นความรักและการดูแลเอาใจใส่ ทั้งหมดนี่คือเรื่องราวดีๆ ที่เราสามารถพบได้เมื่อเราก้าวออกมาจากห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ และมายังโรงเรียนสอนขี่ม้านอร์ธสตาร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ามันอันกว้างใหญ่ไพศาลติดถนนมหาวิทยาลัยที่รอให้เรามาพิสูจน์… สนใจติดต่อสอบถาม ที่อยู่ : สโมสรขี่ม้า นอร์ธสตาร์ หมู่ 6 ถ.มหาวิทยาลัย 1 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000 ประเทศไทย เวลาเปิดทำการ : 08.30-18.00 น. ทุกวัน (หยุดเฉพาะวันพุธ) Facebook : Northstar Equestrian Website : http://www.northstarequestrian.net Club House : 098-095-4041 Tel. คุณ ลินดา : 089-280-5964 (English only) / คุณ สรายุธ : 089-845-8684 (Bilingual) แผนที่
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market
