สุดงง!? “ถนนสายชุมพวง-หนองจิก” เพิ่งสร้างไม่ถึงเดือนพังซะแล้ว! ร้อนถึง “ผู้ว่าโคราช” สั่งตรวจสอบด่วน!

“ผู้ว่าฯโคราช”สั่งตรวจสอบถนนสายชุมพวง-หนองจิก หลังชาวบ้านร้องเรียนชำรุดเร็วทั้งๆที่พึ่งสร้างเสร็จไม่ถึงเดือน หากใช้งบประมาณไม่คุ้มค่าหรือตรวจพบก่อสร้างถนนไม่เป็นไปตามรูปแบบรายการก็จะส่งเรื่องให้ ปปช.และสตง.ดำเนินการ

หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านบ้านชุมพวงธารทอง ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อให้ช่วยตรวจสอบถนนเส้นชุมพวง-หนองจิก ซึ่งได้กลับมาพังเสียหายอีกครั้งหลังทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาได้จัดงบประมาณจำนวนกว่า 6.5 ล้านบาทเข้าซ่อมแซม ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวมีระยะทางกว่า 2.5 กิโลเมตร โดยสร้างยังไม่ถึงเดือนเท่านั้นก็ปรากฏว่ากลับมาพุพังจนมีรอยปะผุและถนนเริ่มแตกเป็นรอยอีก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบมาตรฐานของถนนเส้นนี้อย่างเร่งด่วน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้แจ้งให้นายพยุงศักดิ์ จายะภูมิ รองประธานธรรมมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนเส้นชุมพวง-หนองจิก ร่วมกับคณะทำงานขององค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าถนนเส้นดังกล่าว ชำรุดเสียหายจริงตามที่ทางสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวออกไป โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องที่ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเร่งรัดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ประสานให้ผู้รับเหมาเข้ามาซ่อมแซมเพราะยังอยู่ในระยะเวลาค้ำประกันงาน รวมถึงตรวจสอบมาตรฐานในการตรวจรับงานและมาตรฐานของถนนโดยผู้เชียวชาญอีกครั้งหนึ่ง

จากการสอบถาม นายประยูร วรวงศ์วัฒนะ คณะทำงานเครือข่ายภาคประชาชนกล่าวว่า “หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับถนนเส้นชุมพวง-หนองจิก จากสื่อมวลชนแล้ว ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่อลงพื้นที่มาตรวจสอบ และมาแนะนำขั้นตอนการทำงานขององค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวงในการทำหนังสือส่งไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้เร่งผู้รับเหมามาดำเนินการซ่อมแซม เนื่องจากถนนเพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่เดือนก็เริ่มพังแล้ว”

“ตนอยากให้ใช้งบประมาณให้คุ้มค่าหรือถ้าตรวจพบการก่อสร้างถนนไม่เป็นไปตามรูปแบบรายการก็จะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง ปปช.และสตง.ดำเนินการต่อไป”