ร้องทางชุ่ย! หินคลุกเกลื่อนถนนใต้มอเตอร์เวย์โคราช อุบัติเหตุเพียบ! วอนรัฐเร่งแก้ปัญหา-ป้องกันเหตุร้าย

กรณี น.ส.ธวัลรัตน์ สีหาบุตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 15 ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า รถยนต์ของตนเองเกิดอุบัติเหตุเหยียบหินคลุกสำหรับใช้ผสมปูนก่อสร้างที่ตกอยู่บนท้องถนน ทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับแท่งแบริเออร์เสียหาย เหตุเกิดบนถนนมิตรภาพขาเข้า จ.นครราชสี บริเวณสวนท้าวสุรนารี ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังเกิดเหตุไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบและต้องเสียค่าซ่อมรถเองถึง 18,000 บาท

เดินทางไปพบ น.ส.ธวัลรัตน์ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.30 น. ตนและแฟนไปทำบุญที่วัดไตรรัตน์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยขับรถเก๋ง โตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ขต-4613 นครราชสีมา ขณะกำลังเดินทางกลับมายังบ้านพักในค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ตลอดว่ารถของตนวิ่งมาด้วยความเร็ว 70-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุที่กำลังมีการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บนถนนมีเศษหินคลุกหล่นอยู่บนพื้นถนนจำนวนมากระยะทางประมาณ 30 เมตร ทำให้รถของตนเองเสียหลักเกือบชนรถบัสที่ขับอยู่เลนซ้าย แฟนของตนที่เป็นคนขับตกหมุนพวงมาลัยหักเข้าขวา รถจึงชนเข้ากับแท่งแบริเออร์เสียหายบริเวณด้านหน้า

หลังจากนั้นจึงโทรเรียกประกันภัยและรถยกมาลากรถของตนเองกลับไปยังอ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ช่างตีราคา โดยรถของตนเสียหายบริเวณส่วนหน้ารถเป็นอย่างมาก ดีที่ตนและแฟนรัดเข็มขัดนิรภัยทั้งคู่จึงไม่เป็นอันตราย โดยช่างคิดราคาซ่อม 18,000 บาท โดยหินคลุกที่ตกอยู่บนพื้นตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำหล่นไว้อาจเป็นรถบรรทุกที่ขนหินคลุกเพื่อไปก่อสร้างมอเตอร์เวย์หรือไม่ตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง

น.ส.ธวัลรัตน์ กล่าวอีกว่า ต่อมา นางกชมล อนันตทัศน์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 286/1 ซ.พหลโยธิน 40 แขวงเสนานิคม เขตจตุจัตร กรุงเทพฯ ขับรถผ่านจุดดังกล่าว และประสบอุบัติเหตุเสียหลักชนกับเข้ากับแบริเออร์อย่างจัง เกือบพลิกคว่ำเนื่องจากท้ายรถติดอยู่บนแบริเออร์ก่อนไถลลงมาและมาจอดในเลนซ้ายสุด แฟนของตนจึงรีบเข้าไปสอบถามความช่วยเหลือทันที ตนคิดว่าน่าจะเกิดจากการลื่นหินคลุกที่ตกอยู่บนท้องถนนขณะขับผ่าน เนื่องจากรถตนก็เสียหลักชนกับแบริเออร์เช่นกัน ตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กรมทางหลวง ผู้รับเหมาก่อสร้าง ขนส่งจังหวัด และผู้ที่ทำหินหล่นบนพื้น ออกมารับผิดชอบและทำการสืบสวนสอบสวนว่าหินคลุกดังกล่าวมาจากไหนและมีมาตรการป้องกันเพราะในเวลาต่อมาก็เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันกับตนเองอีกหลายคันและรถก็ได้รับความเสียหาย ผู้ขับขี่และผู้โดยสารก็ได้รับบาดเจ็บด้วย ตนจึงไม่อยากให้มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะอาจจะเกิดความสูญเสียมากกว่านี้ก็เป็นได้

ด้านนางกชมล เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ตนเดินทางมาจากบ้านในกรุงเทพฯ เพื่อกลับมาทำงานในอ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อถึงที่เกิดเหตุ รถเสียหลักควบคุมไม่ได้ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง คิดว่าโดนรถชนจนย้ายมาอยู่เลนซ้ายจากที่ขี่มาเลนขวาสุด เมื่อรวบรวมสติได้ จึงออกมาจากรถเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นเพียงกันชนท้ายรถตนเองตกอยู่กลางถนน และได้มีน้องผู้ชายเข้ามาถามตนว่าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า และได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนให้ฟัง ว่ารถตนน่าจะเสียหลักเนื่องจากหินคลุกที่หล่นอยู่บนถนนรถสะบัดไปชนกับแบริเออร์จนเกือบพลิกคว่ำ และหัวรถได้ปัดออกมาจนอยู่เลนซ้ายสุด จากนั้นจึงสำรวจความเสียหายพบว่า ยางหน้าด้านขวาแตก กันชนท้ายหลุดและมีรอยถลอกรอบคันรถ เมื่อมีรถกู้ภัยมาถึงจึงช่วยเปลี่ยนยางให้และตนก็ขับมาถึงบ้านก่อนนำรถไปซ่อมเองภายหลัง

แหล่งข้อมูล : ข่าวสด