Death Wish: นักฆ่าโคตรอึด

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของ พอล เคอร์ซี นายแพทย์ผู้เพียบพร้อมทั้งฐานะและครอบครัวที่อบอุ่น แต่แล้ววันหนึ่งกลับมีคนร้ายเข้ามาปล้นบ้านของเขา ทำร้ายลูกสาวของเขาและฆ่าเมียของเขาทิ้ง อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมก็ไม่สามารถตามจับคนร้ายได้ซักที เขาจึงต้องลุกขึ้นมาทวงแค้นนี้ด้วยตัวเอง

โดยหนังเรื่องนี้เป็นการรีเมคจากเวอร์ชันของเมื่อปี 1974 โดยเวอร์ชันดั้งเดิมเล่าเรื่องที่คล้ายๆกันกับภาคนี้แต่เปลี่ยนอาชีพของเคอร์ซีที่เวอร์ชันดั้งเดิมเป็นสถาปนิก และออกตามฆ่าคนร้ายทวงแค้นให้ครอบครัวเช่นกัน ในเวอร์ชันนั้นนำแสดงโดย Charles Bronson แอ็ดคชันสตาร์ที่เหมือนจะดับแสงทางการแสดงไปแล้ว แต่ได้หนังเรื่องนี้มาปลุกกระแส และต่อยอดภาคต่อได้อีกหลายภาคเลยทีเดียว อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังเป็นต้นฉบับหนังทวงแค้นในยุคนั้นอีกหลายๆเรื่องด้วย

กลับมาที่ปี 2018 Death Wish ถูกปัดฝุ่นเอากลับมาทำอีกครั้งโดย Eli Roth ผู้กำกับ-นักแสดงมากฝีมือ ที่มีลายเส้นชัดเจนเรื่องความโหด เห็นเลือด ภาพเละ และแผลแบบไม่เซ็นเซอร์ เรื่องนี้ของเขาก็ยังไม่ทิ้งลายมือนี้ของตัวเองไป เรายังได้เห็นความโหดของเขาที่นำเสนอมาให้คนดูเช่นกัน

โดย Death Wish 2018 นี้ได้แอ็คชันสตาร์รุ่นใหญ่ไม่แพ้เวอร์ชันดั้งเดิมมาเล่นอย่าง Bruce Willis พระเอกเจ้าของแฟรนไชน์ “Die Hard” สมทบด้วย Vincent D’Onofrio,Elisabeth Shue,Camila Morrone และ Dean Norris

 

ความรู้สึกหลังดูหนังจบ

  • เราว่ามันบันเทิงและสนุกมากในระดับหนึ่งเลยนะ หรือว่าช่วงที่ผ่ามาไปดูหนังออสการ์เครียดๆเยอะเลยพอเจออะไรบันเทิงหน่อยนี่ก็สนุกละ แต่มันถูกจริตเราและเราว่ามันสนุกเพลินๆจริงๆ

  • หนังมันมีความง่ายดายไปซะทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นการเอาตัวรอดของพระเอก หรือการรอดการตามจับทุกอย่างมันดูง่ายดายและรวดเร็วจนเราไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

  • หนังมันพยายามที่จะหลอกล่อให้เราเดาว่าคนนี้เป็นคนสั่งการหรือป่าว พยายามทำให้เหมือนว่าหนังมันมีอะไรให้เราคิดอีกเยอะ แต่ก็กลับปล่อยทิ้งไปแบบจางๆ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

  • ฉากโหดการตามไล่ฆ่าถือว่าทำออกมาได้สะใจประมาณหนึ่งเลย มีเลือด มีแผล มีสมองเละใครชอบอะไรแบบนี้คงสะใจ แต่มันไม่ได้มากเท่าไหร่หรอก

  • ชอบการพัฒนาของเนื้อเรื่องให้มันเข้ากับยุคกับสมัยนี้ที่แบบตัวพระเอกศึกษาการประกอบปืน หรือการจะทำอะไรต่างๆผ่ายยูทูป ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คให้เป็นประโยชน์ได้ดีตามยุคสมัย

  • เหมือนหนังจะใส่ประเด็นการเป็นฮีโร่ไร้หน้าแล้วมีคนไปทำตามจนทำให้เกิดเรื่องถึงชีวิต ประเด็นนี้มันควรเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวพระเอกลำบากใจที่เป็นตัวต้นเหตุ แต่หนังก็ทิ้งประเด็นนี้ไปอย่างดื้อ เหมือนไม่ได้มีการเล่าประเด็นนี้ขึ้นมาเลย มันดูเป็นประเด็นที่น่าเล่นนะ ถ้าเล่นตัวพระเอกอาจจะดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นและน่าเอาใจช่วยมากขึ้น

  • มีฉากในลิฟท์เรารู้สึกว่ามันทำดีอ่ะ เรารู้ว่านั่นคือคนร้ายที่เข้าไปทำร้ายครอบครัวของพระเอกมาเจอกันตัวต่อตัวในลิฟท์กับพระเอกพร้อมกับตัวลูกสาวที่พึ่งหายดีกำลังกลับบ้าน ด้วยสถานที่แคบๆพร้อมกับความเป็นห่วงตัวลูกสาวของพระเอกมันทำให้ลุ้นและตื่นเต้นดี

  • ฉากแอ็คชันจบสุดท้ายก็รวบรัดตัดตอนจบอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มีความสนุก ไม่ได้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครเลยซักนิด แอบเซ็ง

 

สรุป

มันเป็นหนังที่เพลินๆดี สนุกดี คือมันย่อยง่ายไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ดูๆการล้างแค้นของตัวละครไป แต่ระหว่างทางมันเต็มไปด้วยรูโหว่มากมาย ทั้งความง่ายดาย ความไม่สมเหตุสมผลที่มีอยู่เต็มระหว่างทาง และความรวบรัดตัดตอนให้มันผ่านไปเร็วๆและจบอย่างง่ายดายเหมือนเดิม มันทำให้หนังกลายเป็นแค่หนังแค่ดูเพลินๆ ไม่ได้มีชั้นเชิงอะไร จบแล้วจบกันไป ออกมาจากโรงแล้วก็ลืม ถามว่าแนะนำมั้ย ก็แล้วแต่จิตศรัทธาแล้วกัน แต่ถ้าใครดูแล้วเอามาคุยกันได้นะ

 

IMDb : 6.7/10

Rotten Tomatoes : 15%

 

รูปภาพจาก : https://www.facebook.com/deathwishfilm/


Comments are closed.

Check Also

รีวิว Be With You (2018) | ภาพยนตร์รีเมคจากประเทศญี่ปุ่นเอากลับมาทำใหม่ในสไตล์เกาหลี เรียกน้ำตาผู้ชมได้แทบทั้งโรง

Be With You : ปาฏิหาริย์ สัญญารัก ฤดูฝน   เหมือนกั … …