จากกรณีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.ธวัชชัย เผ่นโผน รอง สว.สส. ร.ต.ท.ก้องไพร นาคหมื่นไวย ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์เขาแผงม้า ร่วมกันจับกุมตัว นายอภิวัฒน์ นิลสนธิ อายุ 33 ปี ที่บ้าน ปอหู หมู่ 4 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมเนื้อและซากหมีควาย เพศเมีย อายุประมาณ 2 ปี น้ำหนักประมาณ 70 กก.ที่ชำแหละแล้ว พร้อมขยายผลตามยึดชิ้นส่วน หมีควาย ขา 4 ขา รวมทั้งอวัยวะ เนื้อที่ทอด รวมทั้งน้ำมันหมีที่เจียวแล้ว 1 ถุง ที่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 14 ต.หมูสี อ.ปากช่อง โดยนายอภิวัฒน์ นิลสนธิ อายุ 33 ปี ให้การว่ามีผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอีก 2 คน ควบคุมตัวมาพร้อมของกลาง ซากหมีควาย ตราชั่งน้ำหนัก บ่วงสลิงตักหมี 1 ชุด มีด และอื่น ๆ มาส่งมอบให้ ร.ต.อ.อาทิตย์ พูณไธสง พนักงานสอบสวน สภ.หมูสี โดยนายอภิวัฒน์ นิลสนธิ อายุ 33 ปี ให้การรับสารภาพแต่ปฏิเสธว่าไม่ใช่เป็นคนใช้บ่วงไปดัก เป็นเพียงผู้ชำแหละหมีที่ตายแล้วให้พวกนำ ดีหมีและขาทั้ง 4 ขา พร้อมอุ้งตีน เพื่อนำไปขายเพื่อจะมาแบ่งกันเท่านั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.อาทิตย์ พูณไธสง พนักงานสอบสวน กล่าวถึงความคืบหน้าด้านคดี ว่า ผู้ต้องหายังถูกคุมขังที่ สภ.หมูสี เนื่องจากตรงกับวันหยุด เมื่อครบกำหนดก็จะไปขออำนาจศาลฝากขังต่อ ในวันจันทร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ และนำกลับมาสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมตรวจประวัติ ว่าเคยกระทำผิดเกี่ยวกับการล่าสัตว์หรือความผิดอะไรมาก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งรอผู้ร่วมกระทำผิดอีก 2 คน ว่าจะเข้ามามอบตัวหรือไม่ หากไม่มาก็จะขออำนาจศาลออกหมายจับทันที เนื่องจากดูจากการกระทำและพฤติกรรม น่าจะมีความช่ำชองในด้านการชำแหละสัตว์ โดยเบื้องต้นควบคุมตัวนายอภิวัฒน์ นิลสนธิ ผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดี ในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุมครองประเภท 1 และมีซากสัตว์คุ้มครองประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้านนายชูเกียรติ ราชสิทธิ์ นายกสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ กล่าวว่า สัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่ เช่น ช้างป่า เก้ง กวาง และกระทิง ออกมาหากินนอกเขต ในพื้นที่ของชาวบ้าน ซึ่งสมาคมฯ เป็น 1 ในฐานะคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ใหญ่ ก็มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการและองค์กรปกครองท้องถิ่น มาโดยตลอด แต่สำคัญ ช้าง เก้ง กวาง กระทิง ไม่ค่อยอันตรายกับชาวบ้าน แต่หมีเคยทำร้ายชาวบ้านบาดเจ็บมาแล้ว เมื่อมีชาวบ้านไปดัก แทนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบ เช่น ป่าไม้ หรือสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์เขาแผงม้า หรือเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์เขาภูหลวง ก็ฉวยโอกาสจับหมีควายไปชำแหละ หาผลประโยชน์ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ประชาชนคนในพื้นที่ ไม่มีใครอยากจะทำร้ายสัตว์ป่า เพราะอยู่ร่วมและเห็นกันจนชินชาทุกวันทุกคืน นอกเหนือจากคนมาจากถิ่นอื่น ที่มีพฤติกรรมโหดร้ายตามที่เกิดขึ้น

 


แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์

 


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …