Samui Song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ นี่คือการกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับมากฝีมือในวงการภาพยนตร์ไทย พี่ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง ที่มีผลงานที่แฟนๆภาพยนตร์ชื่นชอบอย่าง ฝัน บ้า คาราโอเกะ,เรื่องตลก 69,มนต์รักทรานซิสเตอร์ และ เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล ส่วนหนังเรื่องใหม่นี้พี่ต้อมก็ได้กลับมาร่วมงานกับ พลอย เฌอมาลย์ อีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ส่วนนักแสดงรายอื่นก็มี เดวิด อัศวนนท์ ผู้ที่มีผลงานมากมายในวงการบันเทิงไทย แต่ที่ผู้ชมน่าจะจำได้ก็คงจะเป็นเรื่อง เคาท์ดาวน์ โดยเขารับบทเป็น เฮซุส และนักแสดงอีกท่านหนึ่งคือ วิทยา ปานศรีงาม ที่เคยผ่านการแสดงประชันบทบาทกับนักแสดงเบอร์ต้นๆของวงการhollywoodอย่าง ไรอัน กอสลิ่ง ในเรื่อง Only God Forgives มาแล้วด้วย โดย Samui Song นี้เล่าเรื่องของ วิ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ไม่สามารถทนกับสามีชาวต่างชาติที่ไปคลั่งลัทธิแปลกประหลาดและทำร้ายร่างกายของเธอได้ เธอจึงได้ไปจ้างวาน กาย (เดวิด อัศวนนท์) ชายหนุ่มที่เธอพบเจอโดนบังเอิญให้ไปฆ่าสามีของเธอ จนเรื่องมันบานปลาย และนำไปสู่การเอาตัวรอดของนายจ้าง และนักฆ่า ความรู้สึกของเราหลังจากดูหนังเรื่องนี้ ชอบความที่ผู้กำกับเขาได้โชว์ลายมือชัดเจน อารมณ์ของหนังแบบนี้ มุขตลกร้ายแบบนี้ มันแม่งโคตรพี่ต้อมเลยหวะ เราคิดถึงงานแบบนี้ บทหนังของเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร ก็เป็นเรื่องเดิมๆที่เราเคยผ่านตามาบ้างแล้วในงานทั่วๆไป แต่ระหว่างทางของหนังมันมีอะไรว้าวๆ โผล่มามากมาย มันทำให้เราอุทานว่า “เอาอย่างงี้เลยหรอๆๆ” อยู่ตลอดทาง มันเลยกลายเป็นเรื่องเดิมๆที่มีสีสันขึ้นมาทันที การแสดงของเรื่องนี้เราว่ามันเฉียบขาดมากเลยนะ โดยเฉพาะสองนักแสดงนำของเรื่องอย่าง พลอย และ เดวิด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฉากร่วมกัน หรือเวลาเล่นเดี่ยวๆ ก็ได้ปล่อยพลังการแสดงของตัวเองออกมาอยู่เรื่อยๆ ทำให้เราเชื่อว่าเขาและเธอคิดอย่างนั้นหรือเชื่ออย่างนั้นอยู่จริงๆ (แต่เราชอบตัวขโมยซีนของเรื่องคือแม่เดวิด พอถึงฉากที่เปลี่ยนแปลงสีหน้าแววตาของแกเปลี่ยนจนเราตกใจ ว่านี่มันคือการแสดงหรือซีจี ฮ่าๆๆๆ) หนังมันมีความตลกแทรกอยู่เรื่อยๆ บางตลกก็เป็นทั่วไปแบบขำได้ หึๆ บางอันก็เป็นแบบตลกเล่นตัวเอง (เพราะเล่นตัวเองเจ็บน้อยสุด) อันนี้จะได้กับคนที่เคยชินหรือรู้จักงานพี่ต้อมมาบ้างอันนี้จะโดน บางก็เป็นตลกร้าย หรือมันจะเรียกว่าตลกมั้ยก็ไม่รู้ แต่มันบรรดาลความเหวอมาสู่คนดู พร้อมกับสบถคำๆนี้อยู่ในใจ “นี่มันอะไรวะเนี่ย?!” และเราก็หัวเราะในเหตุการณ์นั้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ถือว่ามันลงตัวกับตัวหนัง ไม่โดดเกินไปจนทำให้เสียอารมณ์โดยรวมของหนัง ระหว่างก็สงสัยว่า “เห้ย มันก็ดูรู้เรื่องอยู่นี่หว่า ก็ไม่เห็นมีอะไรเท่าไหร่นะ” จนกระทั่งฉากจบเท่านั้นแหละ อะไรวะ ?! เหมือนโดนพี่เขาต่อยๆๆ นวดอยู่เรื่อยๆแต่ก็ไม่มึนเท่าไหร่ จนจะหมดยกสุดท้ายมีมือไหนไม่รู้ต่อยเปรี้ยง! น็อคเลย งง ต้องนั่งตั้งสติก่อนถึงจะออกจากโรงได้ สรุป มันคือหนังดูง่ายแหละ แต่มันย่อยให้เข้าใจยาก (ฮ่าๆ) หนังมีลายมือของผู้กำกับชัดเจนมาก ถ้าใครไม่คุ้นอาจจะมีร่วง มีหลับกันได้ หนังก็มีความตลก และ ตลกร้ายแทรกอยู่เรื่อยๆตามทาง ถือว่าเป็นสีสันของหนังที่ทำให้เราเหวอได้ การแสดงก็ถือว่าโอเค สองนักแสดงหลักแบกเรื่องได้ดี ถามว่าเชียร์ให้ดูไหมก็เชียร์นะ มันเป็นทางหนังอีกทางที่เราไม่ได้ดูอะไรอย่างนี้นานแล้ว ดูจบแล้วมันได้กลับมาคิดทบทวนตัวหนัง มันได้เกิดการพูดคุย ถือว่าเชียร์แล้วกัน แนะนำๆ จงไปดูๆๆ รูปภาพจาก : https://www.facebook.com/samuisongfilm/
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market