นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ฝากให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ช่วยศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นข้อติดขัดจนทำให้การลงทุนในความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน จนทำให้โครงการไม่ค่อยคืบหน้า เช่น ข้อระเบียบวิศกรคุมงานก่อสร้างที่เป็นคนต่างชาติ ก็ต้องผ่านการอบรมและได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากสภาวิศวกรไทย เป็นต้น และอาจต้องพิจารณาใช้มาตรา 44 ในการปลดล็อกหรือไม่ เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการเดินหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่ากำลังเร่งดำเนินการทุกขั้นตอนเพื่อให้โครงการเดินได้ตามแผน โดยได้หารือกับสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกแล้ว เพื่อจัดทำรายละเอียดข้อสอบวัดมาตรฐานวิชาชีพวิศวกรเพื่อออกใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (ก.ว.) ระยะเวลา 5 ปี ให้กับบุคลากรชาวจีนเพื่อร่วมกันก่อสร้างตามกฎหมายไทยที่ระบุให้วิศวกรต่างชาติการก่อสร้าง ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ คาดว่าจะจัดสอบได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะเป็นการออกใบอนุญาตเฉพาะดำเนินการโครงการรถไฟไทย-จีนเท่านั้น และไม่ให้ไปรับงานโครงการอื่นในไทย โดยตั้งเป้าหมายเปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างเดือนกรกฎาคมนี้ หลังมีการลงนามในสัญญา 3 ฉบับ ในเรื่องการออกแบบ การประกวด และระบบรถ เพื่อให้ทันนายกรัฐมนตรีเยือนจีนในเดือนกันยายนนี้ สำหรับไฮสปีดไทย-ญี่ปุ่นอยู่ในขั้นตอนศึกษาและหารือในรายละเอียดในเส้นทาง

นายอาคมกล่าวว่า สำหรับการเยือนญี่ปุ่นร่วมกับนายสมคิด นั้น ได้หารือกับบริษัทฮิตาชิ ผลิตรางรถไฟ และยังมีสินค้าอีกหลายชนิด เช่น กล้องซีซีทีวี ซึ่งแสดงความสนใจลงทุนในไทย แต่ยังดูในเรื่องความต้องการก่อน เพราะหากจะตั้งฐานผลิตต้องมีกำลังการผลิตเพียงพอ ซึ่งได้ชี้แจงว่าจะมีการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟในกลุ่มซีแอมเอ็มวีทีซึ่งก็จะทำให้เกิดความต้องการที่มากขึ้น และไทยเองยังมุ่งในเรืองการทำบิ๊กดาต้า ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงงานบริหารจราจรและระบบความปลอดภัย

 

Matichon
แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …