ยามเย็นของวันที่ 18 พฤศจิกายน ผมเดินทางเข้าพบและขอสัมภาษณ์ ‘สามทหารเสือคนดนตรีโคราช’ โต้โผหลักการจัดงาน Korat Music for King | คนดนตรีโคราชบรรเลงเพลงเพื่อพ่อ … คุณโก๋ – เศรษฐศรันย์ สืบพรหม คุณดา – ส.อ.ศักดา เกิดแปลงทอง และครูสุรพล นามเสนา ณ ห้องประชุมใหญ่ วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา แรกทีเดียว ผมรู้สึกว่างานนี้มีความน่าสนใจมาก ทั้งความยิ่งใหญ่ของสถานที่การจัดงานคือ บริเวณเวทีการแสดงลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และความตระการตาของทัพนักดนตรีโคราชที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้เข้าร่วมการแสดงมากกว่า 200 ชีวิต อันแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าจำนวนคนและสถานที่การจัดงาน นั่นก็คือ หัวใจแท้ๆ ของนักดนตรีจริงๆ ซึ่งจงรักภักดีและตั้งใจจริงที่จะทำเพื่อพ่อหลวงในแบบที่พวกเขาทำได้ นั่นคือการเล่นดนตรีเพลงของพ่อและเพลงเพื่อพ่อ ทั้งสามยังคงประชุมเตรียมงานกันอย่างเข้มข้นกับเหล่าทีมงานการจัดงานกว่า 50 คนเมื่อผมเดินทางไปถึง เป็นการประชุมที่เครียด จริงจัง และเต็มไปด้วยพลังงานที่อยากจะให้งานซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 เป็นไปด้วยดีและประทับใจผู้ฟังทุกคน จากเดิมที่รู้สึกว่าน่าสนใจมากแล้ว ตอนนี้รู้สึกฮึกเหิมกว่าเดิมอีกหลายเท่า “รอยทางที่พ่อสร้างไว้ ดั่งคำสอนให้เราได้รู้ ถ้าทุกคนรวมใจไว้ แล้วพลังจะยิ่งใหญ่ ใครก็ตามจะมาแยกเราไม่มี รอยทางที่พ่อสร้างสรรค์ มุ่งสู่ฝันคืนวันสดใส บ้านของเราจะร่มเย็น และมั่นคงเสมอไป ต่างคนจงรู้พอเพียง ต่างคนเพียงเข้าใจ จะสุขกายและใจจนเพียงพอ” บทเพลง ‘ตามรอยพ่อ’ ของ คาราบาว ดังเต็มโสตฯหลังจากนั้น KS : แนะนำตัวเองสักนิดครับ เผื่อผู้อ่านหลายๆ ท่านจะได้ทำความรู้จักกับพวกคุณให้มากขึ้นครับ ครูสุรพล นามเสนา ครูสุรพล : ผมครูสุรพล นามเสนา ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้าแผนกวิชาการดนตรี วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา สถานศึกษาต้นแบบหลักสูตร ปวช.ปวส.ดนตรีและเทคโนโลยี รักษาการในตำแหน่งประธานศูนย์ประสานงานสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดนครราชสีมาครับ คุณโก๋ – เศรษฐศรันย์ สืบพรหม โก๋ เศรษฐศรันย์ : ชื่อโก๋ครับ เศรษฐศรันย์ สืบพรหม ส่วนมากคนจะรู้จักผมจากการที่เราเปิดร้านอาหารกลางคืน ชื่อร้านเสริมสวย ในหมู่วัยรุ่นก็จะรู้จักเราระดับหนึ่ง และเพราะเราเปิดร้าน เราก็เลยได้รู้จักกับนักดนตรีเยอะพอสมควร ทำงานด้วยกันมาตลอด ตอนนี้ก็มีทำงานอีเว้นท์ จัดงานคอนเสิร์ตครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ทำงานในโคราช แต่จะเน้นเป็นจังหวัดอื่นๆ ทางภาคอีสานครับ ส.อ.ศักดา เกิดแปลงทอง ส.อ.ศักดา : สวัสดีครับ ผมสิบเอกศักดา เกิดแปลงทอง ปัจจุบันทำหน้าที่เสมียนหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 21 ค่ายสุรนารี แล้วก็ปัจจุบันทำงานอดิเรกเป็นนักดนตรีกลางคืน เป็นมือแซกโซโฟน ตอนนี้เล่นที่ Manhattan Bar & Foodtruck เป็นหลัก แล้วก็ทุกวันศุกร์จะไปเล่นที่ Midwinter Green เขาใหญ่ ชื่อวงเมื่อก่อนจะใช้ชื่อว่าบรมสุข แล้วก็เปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เล่นอยู่ในวง Funky Villa Superband ส่วนตัวผมเล่นดนตรีมาตั้งแต่อายุ 14 ตอนนี้ก็ 25 ปีแล้วครับ ——————————————- KS : เพราะอะไรจึงได้เข้ามาร่วมจัดงาน ‘Korat Music For King : คนดนตรีโคราชบรรเลงเพลงเพื่อพ่อ’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ณ เวทีการแสดงบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีครับ โก๋ เศรษฐศรันย์ : เริ่มมาจากการพูดคุยกันระหว่างผมกับสิบเอกศักดาและเพื่อนนักดนตรีว่าอยากทำอะไรเพื่อในหลวงบ้าง ซึ่งมันก็จะมีอะไรที่นักดนตรีทำได้และทำได้ดีบ้าง นั่นก็เป็นคำตอบตรงกันว่า เล่นดนตรีถวายพ่อหลวงกันเถอะ เล่นเพลงพระราชนิพนธ์ในพระองค์ท่าน คิดได้ก็เลยเริ่มจัดกัน แรกๆ ตั้งใจจะจัดก่อนหน้านี้ แต่ก็มาลงตัวที่วันนี้ครับ เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้กะจะจัดใหญ่ขนาดนี้นะครับ แต่สเกลงานก็เริ่มใหญ่ขึ้นๆ พอเพื่อนนักดนตรีทราบข่าวก็ขอเข้าร่วมด้วย พอพี่ๆ ผู้ใหญ่ทราบข่าวก็เข้ามาช่วยเหลือ งานก็เลยขยายขึ้นๆ มีนักดนตรีอย่างต่ำที่จะเข้าร่วมกว่า 200 คน แบ่งเป็น 4 พาร์ทการแสดงด้วยกัน ครูสุรพล : ในช่วงนี้ ประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่าก็ได้ร่วมกันจัดงานเพื่อถวายความอาลัย เทิดพระเกียรติ สักการะแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยกันทั้งสิ้น ทีนี้พอมาถึงภาคคนดนตรีก็อยากที่จะร่วมกันจัดงานๆ หนึ่งเพื่อแสดงความรักความอาลัยพระองค์ท่าน เราจะทำอย่างไรกันดีที่เป็นกลุ่มคนดนตรีจริงๆ ในฐานะที่ผมเป็นรักษาการประธานศูนย์ฯ ก็เลยได้คุยกันกับพี่พ้องน้องพี่ในแวดวงดนตรีโคราชด้วยกันว่าจะจัดงานนี้ขึ้น Korat Music For King : คนดนตรีโคราชบรรเลงเพลงเพื่อพ่อ ——————————————- KS : วัตถุประสงค์ในการจัดงานคืออะไรครับ โก๋ เศรษฐศรันย์ : ก็อย่างที่บอกไปนะครับ เราอยากจัดงานเล่นดนตรีเพื่อในหลวงโดยนักดนตรีโคราช นี่เป็นพ้อยท์หลักๆ เลย ง่ายๆ เลยคือ เราอยากทำอะไรเพื่อในหลวง อยากแสดงความรักความกตัญญูเพื่อในหลวง แล้วนักดนตรีทำอะไรได้ดี นักดนตรีก็เล่นดนตรีได้ดี ที่สำคัญคืออยากให้พี่น้องชาวโคราชได้ซาบซึ้งถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ซึ่งเพราะมาก ส.อ.ศักดา : อีกอย่างคืออยากให้ประชาชนชาวโคราชได้ซึมซับบทเพลงของพระองค์ท่านที่ทรงประทานมาให้พวกเรามากขึ้น คือเมื่อก่อนเราอาจจะเคยได้ยินมาจากในทีวี วิทยุ ก็ฟังผ่านหูไม่ได้จับเนื้อความในเพลงที่พระองค์ท่านทรงต้องการสื่อ เคยฟังอย่างไม่ได้ตั้งใจเท่าไร งานนี้ก็เลยถือเป็นโอกาสให้คุณได้เข้ามาฟังใกล้ๆ จากนักดนตรีหลายร้อยชีวิตที่จะมาบรรเลงสดให้คุณๆ ได้ฟังกัน ครูสุรพล : ในฐานะที่ผมเป็นรักษาการประธานศูนย์ฯ มาตั้งแต่ปี 38 ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่เป็นรูปเป็นร่างของคนดนตรีโคราชเลย ซึ่งงานนี้ผมว่าถึงเวลาแล้วครับ โดยวัตถุประสงค์อีกอย่างก็คือ อยากให้กลุ่มคนดนตรีในจังหวัดนครราชสีมาทุกแขนงได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงความรักสมัครสมานสามัคคีร่วมแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและถวายความอาลัยในรูปแบบของคนดนตรีต่อพ่อหลวง ร.9 ——————————————- KS : ความพิเศษภายในงานมีอะไรบ้างครับ โก๋ เศรษฐศรันย์ : ความพิเศษหลักๆ คือการแสดงสดของนักดนตรีโคราช ที่เราแบ่งออกเป็นพาร์ทๆ ทั้งหมดคือ มีการบรรเลงกีตาร์คลาสสิกหมู่กว่า 50 ชีวิต ก็จะมีเพลงที่น่าสนใจอย่าง สายฝน ต้นไม้ของพ่อ ของขวัญจากก้อนดิน ชะตาชีวิต เป็นต้นครับ พาร์ทที่สองคือ Symphonic Wind Band กว่า 100 ชีวิต String Ensemble Band บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์อย่าง ลมหนาว ใกล้รุ่ง String Combo Band กว่า 20 ชีวิต บรรเลงเพลงยามเย็น สายฝน ไกลกังวล และ HM BLUES พาร์ทต่อมาคือ Blues Jazz บรรเลงเพลงอย่าง แสงเทียน เสียงเดือน Oh I Say และปิดทองหลังพระ ซึ่งเพลงสุดท้ายนี้มีความพิเศษคือ จะมีนักร้องมาร่วมร้องประสาน เพราะมาก พาร์ทสุดท้ายคือ Big Band กว่า 30 ชีวิต ถือเป็นไฮไลต์ของงานเลยทีเดียว ครูสุรพล : ในส่วนที่ผมรับผิดชอบก็จะเป็นวง String Combo ซึ่งทำการแสดงในนามนักดนตรีอาวุโสในโคราชทั้งหมด ร่วมด้วยนักเรียนนักศึกษาสาขาวิชาดนตรีและเทคโนโลยี วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมาครับ ความพิเศษอีกอย่างที่ผมอยากนำเสนอคือทีมนักดนตรีอาวุโสของเมืองย่าโมครับ ไม่ว่าจะเป็น อาจารย์ประยูร ปราบจะบก คุณนาย เลิศจันทึก คุณอ้วนแซก มทบ.21 ผศ.ดร.มนตรี ภู่งาม คุณติ๊ก ชีโร่ คุณลุงกำปั่น บ้านแท่น ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะมาร่วมงานนี้ด้วยกันครับ ส.อ.ศักดา : ในส่วนที่ผมรับผิดชอบก็จะเป็นส่วนสุดท้าย Big Band ซึ่งบรรเลงร่วมกัน เป็นวงแกรนด์จริงๆ ทั้งจากคณะของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมาโดยอาจารย์อ้อยเป็นผู้ประสานงาน นักดนตรีทั่วไป รวมทั้งตัวแทนจากหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 21 ซึ่งเป็นทหารบก และตัวแทนหมวดดุริยางค์ กองพันทหารอากาศโยธิน กองทัพอากาศ และตัวแทนจากตำรวจโดยผู้กองบอยซึ่งเป็นมือแซกโซโฟนก็มาร่วมด้วย ความพิเศษอีกเรื่องคือวงแบบ Big Band เป็นวงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเล่นเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่านเป็นประจำเกือบทุกเพลง เพลงที่เราจะแสดงในวันงานก็อย่างเช่น อาทิตย์อับแสง ค่ำแล้ว ความฝันอันสูงสุด แก้วตาขวัญใจ รัก ยิ้มสู้ เป็นต้นครับ ——————————————- KS : ความคาดหวัง ส.อ.ศักดา : คาดหวังไว้อยู่สามประการคือ นักดนตรีโคราชจะมีความใส่ใจในบทเพลงพระราชนิพนธ์มากขึ้น แล้วก็จะพยายามสานต่อในพระอัจฉริยภาพนี้ต่อไปเท่าที่ทำได้ ประการที่สองคือ ประชาชนทั่วไปจะได้ซึมซับรับรู้ในบทเพลงพระราชนิพนธ์อันไพเราะและมีความหมายลึกซึ้งกันมากขึ้น ประการสุดท้ายคือ เป็นผลพลอยได้ที่นักดนตรีในโคราชทั้งหมดจะได้มาจอยกัน รู้จักกัน ทำความเข้าใจกัน มาเล่นดนตรีด้วยกัน เป็นหมู่คณะมากขึ้น ——————————————- KS : อยากให้เชิญชวนชาวเมืองโคราชและจังหวัดใกล้เคียงให้มาร่วมชมงาน ส.อ.ศักดา : ถ้าใครไม่ติดภารกิจอะไรในวันอาทิตย์นี้ ก็อยากให้มาร่วมฟังดนตรีกันที่ลานย่าโม งานจะเริ่มต้นตั้งแต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ก็จะมีดนตรีในหลากหลายแนวสับเปลี่ยนกันไป คุณจะได้ทั้งความเพลิดเพลิน ความรู้สึกใกล้ชิดกับในหลวงผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เราเลือกมาเล่นให้พวกคุณฟังอย่างเต็มกำลังความสามารถ ที่สำคัญ หกโมงตรงเรามาร้องเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกัน โก๋ เศรษฐศรันย์ : อยากให้ออกมาดูมาฟังเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงของในหลวง เพลงของพ่อ ซึ่งบรรเลงโดยนักดนตรีโคราช ให้คนโคราชฟัง แล้วคุณจะซาบซึ้ง เข้าใจ ในพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของพระองค์มากขึ้น เพราะแต่ละเพลงนั้นไม่ง่ายเลยสำหรับนักดนตรี แต่ง่ายและไพเราะมากกับผู้ฟังแน่นอน ซึ่งผมในฐานะผู้ดำเนินงานและเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักดนตรีโคราชจะเล่นกันอย่างเต็มความสามารถแน่นอน อย่าลืมมากันเยอะๆ นะครับ บริเวณลานย่าโม วันอาทิตย์นี้ งานเริ่มตั้งแต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ถ่ายภาพโดย NaBruce Lee | 9Thanwa Photography
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market
