เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2559 ที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้มีการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ในราคายุติธรรม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ซึ่งมีเกษตรกรชาวนานำข้าวเปลือกมาขายอย่างต่อเนื่อง

นางสมจิตร กุลกลาง อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 28 หมู่ 1 ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชาวนาที่นำข้าวมาขายกล่าวว่า ปีนี้ราคาข้าวตกต่ำมากที่สุด จากเดิมอยู่ที่เคยขายได้กิโลกรัมละ 10-12 บาท แต่ปีนี้ขายได้กิโลกรัมละ 5-6 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่าการลงทุนปลูกข้าว เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าปุ๋ยและค่ารถเกี่ยวข้าวปรับราคาสูงขึ้นมาก แต่ถ้าจะให้เก็บข้าวเปลือกไว้กินเองก็ไม่หมด เพราะข้าวมีปริมาณมาก จึงจำเป็นต้องขายออกไป ซึ่งขณะนี้ก็ยังหาพ่อค้าคนกลางเปิดรับซื้อข้าวเปลือกในราคายุติธรรมยากมาก ส่วนใหญ่ก็ถูกกดราคา ดังนั้น การที่ทางสหกรณ์การเกษตรพิมายเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกในราคายุติธรรม จึงช่วยเกษตรกรได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเงินที่ได้ก็จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนหนี้ ธ.ก.ส.ก็ผ่อนผันไปก่อน เพราะเงินจากการขายข้าวได้น้อย มีพอแต่ใช้หนี้ค่ารถเกี่ยวข้าวเท่านั้น ซึ่งราคาข้าวเปลือกตกต่ำเช่นนี้ ทำให้เกษตรกรชาวนาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงอยากขอร้องให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือทำให้ราคาข้าวเปลือกปรับสูงขึ้นกว่านี้บ้าง

 

201610301347033-20041020133743-1024x768

 

ด้านนายสาทิช บวชสันเทียะ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขต อ.พิมาย และที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตรพิมาย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรพิมายได้เปิดรับซื้อข้าวจากชาวนาได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งข้าวที่รับซื้อตอนนี้คือข้าว กข 15 หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าข้าวเบา โดยราคาตั้งแต่วันเปิดตลาดรับซื้อครั้งแรกอยู่ที่กิโลกรัมละ 8 บาทกว่าๆ ซึ่งในแต่ละวันราคาจะไม่คงที่ จนมาถึงวันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 6.40 บาท แต่ทั้งนี้ข้าว กข 15 ปีนี้ถือว่าราคาต่ำมาก เพราะพ่อค้ารายใหญ่ไม่มีโควต้าส่งออก

 

201610301347034-20041020133743-1024x768

 

ดังนั้น ทางสหกรณ์การเกษตรพิมายจึงพยายามรวบรวมข้าวที่รับซื้อมาได้ทั้งหมด เพื่อเสนอขอร้องให้พ่อค้าในพื้นที่ภาคกลางช่วยซื้อต่อไปอีกที เพราะถ้าไม่ทำเช่นนี้ชาวนาในพื้นที่ อ.พิมาย ก็จะไม่มีที่ขายข้าว ซึ่งจะเดือดร้อนไม่มีเงินมาใช้หนี้ และใช้จ่ายในครัวเรือน โดยขณะนี้สหกรณ์การเกษตรพิมายได้เปิดที่รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาอยู่ 3 แห่งคือ 1.ที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย 2.ที่ลานรับซื้อข้าว ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ 3.ที่ลานรับซื้อ อ.โนนแดง ส่วนเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ ก็จะได้รับเงินปันผลเฉลี่ยคืนปีละ 130 บาท ต่อข้าวเปลือก 1 ตัน

 

%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%8a%e0%b8%99แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …