พระราชกฤษฎีกา กําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดําเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ พ.ศ. 2560 ให้ไว้ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เป็นปีที่ 2 ในรัชกาลปัจจุบัน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตําบลทับกวาง อําเภอแก่งคอย ตําบลมวกเหล็ก ตําบลมิตรภาพ อําเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และตําบลพญาเย็น ตําบลกลางดง ตําบลปากช่อง ตําบลหนองสาหร่าย ตําบลจันทึก อําเภอปากช่อง ตําบลคลองไผ่ ตําบลลาดบัวขาว ตําบลสีคิ้ว อําเภอสีคิ้ว ตําบลมะเกลือเก่า ตําบลเสมา ตําบลสูงเนิน ตําบลโคราช ตําบลนากลาง ตําบลกุดจิก อําเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างทางและสะพานข้ามทางรถไฟ ทางรถไฟทางคู่ และทางลอดใต้ทางรถไฟ ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 22 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 กับมาตรา 5 วรรคสาม และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 ประกอบกับมาตรา 77 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2530

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดําเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ พ.ศ.2560”

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา 3 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกําหนดสี่ปี

มาตรา 4 เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างทางและสะพานข้ามทางรถไฟ มีดังต่อไปนี้
(1) ในท้องที่ตําบลทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีส่วนแคบที่สุดสี่สิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งร้อยสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 1/16
(2) ในท้องที่ตําบลปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีส่วนกว้างสี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 2/16
(3) ในท้องที่ตําบลหนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีส่วนกว้างสี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 3/16
(4) ในท้องที่ตําบลจันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีส่วนกว้างสองร้อยสามสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 4/16
(5) ในท้องที่ตําบลลาดบัวขาว อําเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีส่วนกว้างสี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 5/16
(6) ในท้องที่ตําบลสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีส่วนกว้างสี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 6/16
(7) ในท้องที่ตําบลมะเกลือเก่าและตําบลเสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา มีส่วนกว้างสี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 7/16
(8) ในท้องที่ตําบลสูงเนิน ตําบลโคราช ตําบลนากลาง และตําบลกุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา มีส่วนกว้างสี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา หมายเลข 8/16 และหมายเลข 9/16

มาตรา 5 เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างทางรถไฟทางคู่ มีดังต่อไปนี้
(1) ในท้องที่ตําบลทับกวาง อ.แก่งคอย และตําบลมวกเหล็ก ตําบลมิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มีส่วนกว้างสองร้อยเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 10/16
(2) ในท้องที่ตําบลพญาเย็นและตําบลกลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีส่วนกว้างหนึ่งร้อยเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 11/16
(3) ในท้องที่ตําบลกลางดงและตําบลปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีส่วนแคบที่สุดสี่สิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งร้อยเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 12/16
(4) ในท้องที่ตําบลจันทึก อ.ปากช่อง และตําบลคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีส่วนแคบที่สุดห้าเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งร้อยเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 13/16 หมายเลข 14/16 และหมายเลข 15/16

มาตรา 6 เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างทางลอดใต้ทางรถไฟ อยู่ในท้องที่ตำบลคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีส่วนแคบที่สุดห้าสิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งร้อยสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 16/16

มาตรา 7 ให้ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้

มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

 

logo-matichon-classicแหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …