จากภารกิจร่วมค้นหาและช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและครูฝึกสอน ทีมหมูป่า อะคาเดมีแม่สาย ที่ติดอยู๋ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยการเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำหลวงให้ได้มากที่สุด แล้วระบายลงสู่พื้นที่ใกล้เคียงเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ไร่นาที่ใช้ทำเกษตรกรรม นายอิ่นคำ อุ่นต๊ะ ชาวนาในเขตพื้นที่บ้านหนองอ้อ ในเขตพื้นที่รับน้ำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่เด็กๆ ได้ออกมาแล้ว แม้ว่าจะเสียต้นกล้าในที่นาไปบ้างเล็กน้อยประมาณ 2-3 ไร่ ทั้งนี้ ตัวเองได้ลงทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้แล้ว แต่เนื่องจากมีความเสียหายเพียงเล็กน้อย จึงคิดว่าจะไม่รับเงินช่วยเหลือเยียวยา เพราะเพียงทราบว่าเด็กออกมาอย่างปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว นายอิ่นคำ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวหากเด็กๆ ออกมาแล้วก็อยากจะไปเจอมาก เพราะทราบว่าเด็กๆ ออกมาแล้วแข็งแรงดี ได้ดูข่าวแล้วรู้สึกก็ดีใจ ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ได้กลับออกมาเป็นนักกีฬาฟุตบอลระดับประเทศต่อไปในอนาคต นางศรียน อุ่นต๊ะ ชาวนาในเขตพื้นที่รับน้ำ เปิดเผยว่า น้ำได้เข้าท่วมที่นาจำนวน 30 ไร่ของตัวเองที่ได้ลงต้นกล้าปลูกไว้เพียง 12 วัน ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นน้ำฝนที่ตกลงมา แต่พอมาทราบภายหลังว่าเป็นน้ำจากถ้ำหลวงก็คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะเข้าใจว่าต้องระบายน้ำในถ้ำลงมาสู้ที่นาชาวบ้าน เพื่อให้น้ำในถ้ำลดลง ทั้งนี้ ตัวเองรู้สึกดีใจอย่างมาก หลังทราบข่าวจากโทรทัศน์ก็ร้องเฮด้วยความดีใจ และคิดว่าเจ้าหน้าที่หน่วยซีลเก่งมาก เนื่องจากทางเดินในถ้ำค่อนข้างลำบาก รวมถึงเป็นห่วงอาหารการกินของเจ้าหน้าที่ด้วย นอกจากนี้ ตนยังกังวลเรื่องสุขภาพของเด็กๆ ที่อาจจะซูบผอมลง แม้ว่าเด็กๆ จะไม่ใช่ลูกหลาน แต่ก็รู้สึกเอ็นดู และอยากให้ออกมาจากถ้ำด้วยสุขภาพกายและใจแข็งแรง ไม่อยากให้เด็กๆ คิดมากเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น ขณะที่ นายนิกร ผ่องโต อายุ 49 ปี จิตอาสารถรับ-ส่งคนขึ้นถ้ำหลวง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทราบข่าวก็รวมตัวกลุ่มคนขับรถ 2 แถว เพื่อให้บริการฟรี โดยครั้งแรกที่มาให้บริการนั้นจะมีรถประมาณ 10 คัน วิ่งรถเกือบ 24 ชั่วโมง ส่วนรายได้ช่วงที่วิ่งรถและช่วงที่เป็นอาสาสมัครไม่ค่อยแตกต่างกัน เพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝน ซึ่งตลอดการเป็นจิตอาสาก็มีเจ้าหน้าที่สนับสนุนค่าน้ำมันให้ทุกครั้ง ทั้งนี้ ลูกหมูป่าออกมาได้แล้วตัวเองก็ดีใจมาก และอยากจะฝากบอกน้องๆ ว่า ต่อไปนี้ขอให้น้องๆ ไม่ไปซุกซนอีก เพราะมีคนเป็นห่วง และขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียน นอกจากนี้ อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มาช่วยเหลือน้อง ๆ ทุกคนและตนดีใจที่คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้าน พ.อ.สุมล โลมาแจ่ม ทหารเกษียณอายุราชการ จิตอาสาดูแลเรื่องการรับบริจาค เปิดเผยว่า ศูนย์รับบริจาคสิ่งของที่ อบต.โป่งผา จะรับของบริจาคจากชาวบ้าน หน่วยงานราชการ และห้างร้านต่างๆ เมื่อรับของมา ก็จะมีการลงบันทึก นำของมาคัดแยกไปเก็บตามประเภท เมื่อหน่วยใดต้องการใช้ ก็จะมาขอเบิกได้เลย หรือหน่วยใดไม่มีรถมาบรรทุกของ ทางศูนย์ก็มีรถมาช่วยบรรทุกไปส่งให้
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market