กรณีมีกระแสข่าวว่าโรงสีเจียเม้ง ซึ่งเป็นโรงสีที่มีการส่งออกข้าวหอมมะลิรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่เลขที่ 119 หมู่ที่ 8 ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ได้ติดประกาศให้ลูกจ้างและพนักงานในโรงสีกว่า 200 คน มายื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ลาออกจากงานโดยสมัครใจ ภายหลังจากที่ประสบกับปัญหายอดสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง และคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล ที่จังหวัดนครราชสีมา ปรับขึ้นเป็นวันละ 320 บาทนั้น

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 มกราคม  ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัทเจียเม้ง จำกัด เปิดเผยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในบริษัท ซึ่งยังอยู่ในขั้นออกแบบสอบถามพนักงานก่อนว่าถ้าบริษัทต้องการลดต้นทุนในส่วนของพนักงานลง จะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่พนักงานบางคนรู้สึกวิตกกังวลจึงได้ไปสอบถามแรงงานและสวัสดิการสังคม จึงกลายเป็นประเด็นข่าวออกมาสู่สาธารณะชน ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทเจียเม้ง เป็นบริษัทส่งออกข้าวชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ซึ่งโรงสีเจียเม้งในจังหวัดนครราชสีมา มีพนักงานอยู่ประมาณ 500 คน แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดวิกฤตการณ์ส่งออกข้าว ทั้งเรื่องการผลิต และเรื่องราคา จึงทำให้การผลิตข้าวลดน้อยลง จากเดิมที่เคยผลิตข้าวส่งออกประมาณเดือนละ 20,000-30,000 ตัน ปัจจุบันเหลือประมาณ 5,000-6,000 ตัน ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากตันละ 500 บาท เป็น 1,000 บาท จึงทำให้ไม่สามารถไปแข่งขันกับตลาดโลกได้ ดังนั้นเพื่อให้บริษัทสามารถอยู่รอดในทางธุรกิจนี้ได้ ทางบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องลดพนักงานลง เพื่อลดค่าใช้จ่ายการผลิต โดยก่อนหน้านี้ก็มีการโอนย้ายพนักงานบางส่วนออกไปอยู่บริษัทในเครือประมาณ 100 คน แต่ก็ยังต้องมีการลดคนงานลงอีกประมาณ 100 คน ซึ่งปัจจุบันในโรงสีเจียเม้ง มีพนักงานอยู่ประมาณ 370 คน มีตั้งแต่ระดับผู้บริหารระดับสูง เงินเดือน 80,000 บาท จนถึงพนักงานตามค่าแรงขั้นต่ำ จึงได้มีการประกาศให้พนักงานสมัครใจลาออกตามที่เป็นข่าว

นางประพิศกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีพนักงานเขียนใบสมัครใจลาออกแล้วประมาณ 20 คน และจะเปิดโอกาสไปจนถึงประมาณสิ้นเดือนมกราคมนี้  ผู้ที่สมัครใจลาออกก็พร้อมที่จะให้เงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนผู้ที่มีภาระค่าใช้จ่ายผ่อนส่งต่างๆ บริษัทก็ยินดีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระให้ ซึ่งก็เป็นการตกลงร่วมกันด้วยดีทั้งฝ่ายลูกจ้าง และนายจ้าง แต่เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปก็ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานแรงงานและสวัสดิการสังคม และสำนักงานประกันสังคม ก็ได้เข้ามาสอบถามข้อมูลกันเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะให้คำแนะนำกับลูกจ้าง ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดตามกฎหมาย ขณะเดียวกันทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ก็แจ้งว่ายังมีโรงงานในจังหวัดนครราชสีมาอีกหลายแห่ง กำลังต้องการรับสมัครพนักงานเพิ่มอีกจำนวนมาก พนักงานที่ลาออกก็สามารถไปสมัครงานได้ทันที ส่วนเรื่องการนำเครื่องจักรมาทำงานแทนคนที่ออกไปนั้น ตอนนี้ทางโรงงานไม่ได้มีการสั่งเครื่องจักรมาเพิ่ม เพียงแต่จะพยายามฝึกฝนพนักงานที่เหลือ ให้สามารถทำงานได้หลายอย่าง ขณะที่เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น ทางบริษัทก็ได้รับผลกระทบเล็กน้อย แต่ในกรณีให้พนักงานลาออกครั้งนี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจมากกว่า เพียงแต่ว่ามาให้ลาออกในช่วงนี้เท่านั้น จึงมีการโยงเข้ากับเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

นายไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การปรับลดจำนวนพนักงานในโรงสีเจียเม้งในครั้งนี้ เป็นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผลิตเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแต่อย่างใด ส่วนพนักงานที่ลาออกนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะปัจจุบันโรงงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ยังมีความต้องการรับสมัครพนักงานเพิ่มอีกประมาณ 3,000 อัตรา เช่นบริษัทซีเกต ก็รับสมัครพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน โรงงานเจวีซี ประมาณ 100 คน และโรงงานจินตนา ก็ประมาณ 100 คน ดังนั้นจึงมีทางเลือกให้ไปสมัครงานอยู่อีกหลายแห่ง ส่วนการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม ปีนี้ก็เริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว โดยเฉพาะการลงทุนในโรงงานผลิตพลังงานทดแทน จำพวกโซล่าเซล ซึ่งมีการลงทุนเพิ่มอีกหลายแห่ง ทำให้กลุ่มแรงงานที่มีความรู้เฉพาะทางด้านพลังงานทดแทน กำลังเป็นที่ต้องการของโรงงานเหล่านี้จำนวนมาก

 


แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์

 

 

แหล่งข้อมูล : ThaiPBS


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …