‘ปิยะสกล’ ปัดตอบ ‘หวัดนกสวนสัตว์โคราช’ เหตุเป็นเรื่องสัตว์ ขอส่งมอบข้อมูล ‘หมอธีระวัฒน์’ ให้ก.เกษตรฯ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณี ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์ สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ส่งข้อมูลกรณีการออกมาเปิดเผยถึงเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์บก อย่างชะมด อีเห็น ฯลฯ ในสวนสัตว์ จ.นครราชสีมา ให้แก่ รมว.สาธารณสุข ภายในงานประชุมวิชาการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่า ข้อมูลเรื่องไข้หวัดนก ได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมควบคุมโรคอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งต้องเรียนก่อนว่า หน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข คือ การดูแลป้องกันโรคติดต่อที่จะเกิดในประชาชนคนไทย ซึ่งในเรื่องไข้หวัดนก ปัจจุบันไม่พบคนไทยติดเชื้อ โดยครั้งสุดท้ายพบปี 2549 แต่ปัจจุบันยังไม่พบในคน สธ.ยืนยันได้ แต่ในส่วนของสัตว์ ไม่ว่าจะสัตว์เลี้ยง หรือในสวนสัตว์ จะเป็นเรื่องของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงต้องให้ทาง ศ.นพ.ธีระวัฒน์หารือกับทางกรมปศุสัตว์เอง เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการก้าวล่วงกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ศ.นพ.ธีระวัฒน์ส่งข้อมูลให้เพื่อให้ สธ.เตรียมพร้อมป้องกันโรคจากสัตว์สู่คน โดยเฉพาะไข้หวัดนก นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ทั้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรฯมีการประสานงานกันเต็มที่อยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ปัจจุบันคนไทยยังไม่ติดเชื้อไข้หวัดนกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น เห็นได้ว่าเราระมัดระวังเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ตนจะส่งมอบให้ทางกระทรวงเกษตรฯเพื่อให้เกิดการหารือกันทั้ง ศ.นพ.ธีระวัฒน์และกระทรวงเกษตรฯ

เมื่อถามว่ากรณีการออกมาเตือนเนื่องจากโรคไข้หวัดนก อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ จะมีการกำชับบุคลากรทางการแพทย์ให้วินิจฉัยเข้มงวดขึ้นด้วยหรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่แพทย์ทุกคนต้องตรวจวินิจฉัย เพราะเมื่อมีอาการเป็นไข้ ไม่ทราบสาเหตุก็จะนึกถึงโรคต่างๆ อย่างไข้หวัดใหญ่ หรือสงสัยไข้หวัดนก ก็จะมีการตรวจอยู่แล้ว สิ่งสำคัญก็จะมีการให้ยาให้ทันท่วงทีอยู่แล้ว ซึ่งกระทรวงมีระบบตรวจสอบอยู่แล้ว

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมมีศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในการตรวจหาเชื้อถึง 14 แห่งทั่วประเทศ หากมีปัญหาอะไร ทางกรมก็พร้อมสนับสนุนในการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคได้

นพ.ปิยะสกลกล่าวถึงสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในคน ว่า ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งก็รวมเป็น 7 ราย แต่บางคนอาจมองว่าควรรวมเป็น 8 รายเนื่องจากมีรายเด็กเมียนมา แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญขอให้มีการตระหนักในเรื่องการลดจำนวนผู้เสียชีวิตดีกว่า โดยเฉพาะประชาชนหากถูกกัด ถูกข่วน หรือสงสัยสัมผัสเชื้อ ให้รีบล้างแผล และรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจะดีที่สุด เนื่องจากรายที่เสียชีวิต ปัญหาหนึ่งคือไม่รับวัคซีน ส่วนตัวตนมองและหวังว่า จากความร่วมมือครั้งนี้ในการดูแลทั้งสุนัขและคน จะทำให้ปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าลดลง และประชาชนจะมีความตระหนักมากขึ้น แต่ไม่ตระหนก โดยเฉพาะกรณีการหันไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนล่วงหน้านั้น จริงๆ คนทั่วไปไม่ได้ก่อประโยชน์ สิ่งสำคัญหากถูกกัด ถูกข่วน รีบไปรับวัคซีนดีที่สุด เพราะหากติดเชื้อจะเสียชีวิตอย่างเดียว รักษาไม่ได้ ส่วนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าล่วงหน้านั้นจะเหมาะกับกลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่อยู่ใกล้ชิด เป็นต้น

แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์