เวทีเดือด..ค้านกรมศิลป์ฯประกาศเมืองพิมายเป็นโบราณสถาน ชาวบ้านจี้ให้ประกาศเฉพาะพื้นที่ตั้งปราสาทฯ อย่าเหมารวมที่อยู่ประชาชน พร้อมล่ารายชื่อกว่า 1,600 คน ยื่นค้านกับศาลปกครอง 10 มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมหินทราย ข้างสถานีดับเพลิงเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้มีการจัดเวทีเสวนาคัดค้านการกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมายขึ้น โดยมีนายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมืองพิมาย ของกรมศิลปากร ร่วมประชุมกว่า 500 คน ทั้งนี้ในที่ประชุมได้จัดเวทีเสวนาแนวทางการคัดค้านการประกาศเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย โดยมีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เป็นผู้เสวนาให้ความรู้ เรื่องข้อกฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับการประกาศเขตที่ดินโบราณสถาน รวมทั้งข้อดี และผลกระทบจากการประกาศในครั้งนี้ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้สอบถามเรื่องที่ยังสงสัย โดยมีนายจตุรงค์ สนองกลาง ปลัดอำเภอพิมาย ฝ่ายปกครอง เฝ้าสังเกตการณ์ด้วย ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมาย และเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.กว่า 30 นาย

จากการเสวนา และตอบคำถาม ปรากฏว่ามีชาวบ้านหลายคน แสดงความวิตกกังวล กลัวว่า เมื่อทางกรมศิลปากรประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,627 ไร่ จะส่งผลกระทบทำให้ชาวบ้าน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ไม่สามารถต่อเติม หรือสร้างถาวรวัตถุอื่นๆ ได้ ต้องไปขออนุญาตจากกรมศิลปากรเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างต่อเติม เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านพบว่า การประกาศเขตโบราณสถานหลายแห่ง เช่นที่จังหวัดสุโขทัย ทำให้ชาวบ้านต้องถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ เหลือไว้เพียงโบราณสถานเท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม ก็อยากจะมาเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านด้วย แต่กลับไม่มีให้เห็น จึงไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในระยะยาวแน่นอน ดังนั้นชาวบ้านจึงต้องการให้กรมศิลปากรทบทวนการประกาศเขตโบราณสถานใหม่ โดยให้ประกาศเขตโบราณสถานเพียงในพื้นที่ตั้งของตัวปราสาทหินพิมาย และโบราณสถานอื่นๆ เช่น สระน้ำโบราณ บาราย และโบราณวัตถุที่เห็นชัดเจนเท่านั้น ไม่ให้ประกาศเหมารวมทั้งพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนทั้งเมืองพิมาย เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการประกาศครั้งนี้ ซึ่งสัปดาห์ที่แล้ว ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบประมาณ 300 ราย ได้ทำหนังสือยื่นคัดค้านต่อศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมาแล้ว

โดยในที่ประชุมได้พูดคุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้มีข้อสรุปว่า ผลกระทบจากการประกาศเขตโบราณสถานเมืองพิมายครั้งนี้ มีประชาชนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ได้รับผลกระทบอยู่ทั้งหมดกว่า 1,600 คน ซึ่งหลังจากวันนี้เป็นต้นไป จะทำการรวบรวมรายชื่อชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนนอกเหนือจาก 300 คนที่ยื่นคัดค้านกับศาลปกครองไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อให้ได้มากที่สุด ก่อนที่ในวันที่ 10 มีนาคม 2561 นี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน จะนำรายชื่อประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด ไปยื่นคัดค้านที่ศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอให้ศาลปกครองสั่งให้กรมศิลปากร ทบทวนประกาศดังกล่าว และให้ประกาศเขตโบราณสถานเฉพาะที่ตั้งตัวปราสาทหินพิมาย และโบราณสถานที่เห็นชัดเจนเท่านั้น ไม่ต้องเหมารวมเขตพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน 2,600 กว่าไร่ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ต่อไป.

 


แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …