ต่างชาติแห่เรียนวิชา งูเห่า-งูจงอาง ม.สุรนารี อันดับหนึ่งในโลก ป.โท-เอก ฝรั่งล้วน ไม่มีคนไทย

วันที่ 31 พฤษภาคม รศ.ดร.พงศ์เทพ สุวรรณวารี อาจารย์ประจำสาขาวิชาชีววิทยา สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุรนารี(มทส.) เปิดเผยว่า เวลานี้ มีนักศึกษาต่างชาติ ทั้งยุโรปและอเมริกา ให้ความสนใจมาเรียน สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ของมทส.จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาวิชาชีววิทยา ที่เรียนเฉพาะเจาะจงเรื่อง งูเห่า กับงูจงอาง นั้น มีแต่นักศึกษาต่างชาติทั้งสิ้น โดยนักศึกษาเหล่านี้ เมื่อเรียนจบสาขาวิชาชีววิทยาระดับปริญญาตรี และปริญญาโทในประเทศของตัวเองแล้ว ก็จะมุ่งมาเรียนระดับปริญญาโท และปริญญาเอกในประเทศไทยทันที ขณะนี้มีนักศึกษาที่เลือกเรียนเฉาะงูเห่า และงูจงอาง ระดับปริญญาโท 5 คน จากประเทศอังกฤษ อเมริกา โปรตุเกต ฮอลแลนด์ ปริญญาเอก มี 2 คน จากอเมริกา ทั้งคู่ โดยก่อนหน้านี้ มีนักศึกษาระดับปริญญาเอกเรียนจบเรื่องงูจงอางไปแล้ว และเวลานี้กลับมาเป็นอาจารย์ สอนเรื่องงูจงอางอยู่ที่มหาวิทยาลัย

“สาขาวิชาชีววิทยาของมทส.นั้น เป็นที่เดียวในโลก สำหรับคนที่สนใจเรื่องงู โดยเฉพาะงูในพื้นที่ป่าเขตร้อน อย่าง งูเห่า และงูจงอาง จะมีที่นี่ที่เดียวที่สอน มีทุนให้นักศึกษา มีพื้นที่จริง สัตว์ของจริงให้นักศึกษาลงพื้นที่ศึกษา คือ ที่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ซึ่งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยแค่ 30 นาที เท่านั้น โดยทางสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชนั้นยังมีที่พัก มีงูในธรรมชาติให้ศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงได้”รศ.ดร.พงศ์เทพ กล่าว

เมื่อถามว่า ทำไมไม่มีนักศึกษาคนไทยมาเรียนเรื่องงูเห่าและงูจงอางเลย ร.ศ.ดร.พงศ์เทพ กล่าวว่า เข้าใจว่า คนไทยคิดว่าเรียนไปแล้วไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรจึงไม่อยากเรียนแต่สำหรับชาวต่างประเทศที่มาเรียน ตนสัมภาษณ์มาทุกคน ทุกคนตอบไปในแนวทางเดียวกันว่า รักและชอบงู งูเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์ น่ารัก ในประเทศของพวกเขาไม่มีงูให้ศึกษา และคิดว่าหากอยากจะศึกษาเรื่องนี้ต้องเจาะจงมาที่ประเทศไทยเท่านั้น

“นี่ภาควิชาเราเรียนกันอย่างลึกซึ้งเจาะลึกและปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการลงพื้นที่จับงู การติดวิทยุตัวงู ทั้งงูเห่าและงูจงอาง เพื่อติดตามการเคลื่อนไหว การดำรงชีวิต จนสามารถเรียนรู้ธรรมชาติของงูเห่าและงูจงอางได้อย่างแท้จริง อย่างตอนที่ผมนำนักศึกษาเหล่านี้ ลงพื้นที่ใหม่ๆชาวบ้านก็จะงงกันว่าฝรั่งพวกนี้มาทำอะไร พอบอกว่า มาตามงูจงอาง ที่ติดเครื่องรับวิทยุเอาไว้ ก็ถูกหัวเราะเยาะว่าไม่มีอะไรทำกันหรือไง หรือหลายครั้งที่ถูกชาวบ้านนินทาหาว่าพวกเราเอางูมาปล่อย แต่เขาไม่เห็นตอนที่เราจับ ก็คือจับจากที่ไหนเราติดวิทยุเสร็จแล้วเราก็เอาไปปล่อยที่เดิม แต่ระยะหลังชาวบ้านเข้าใจพวกเรามากขึ้น บ้านไหนมีงูเข้าบ้านเราก็อาสาไปจับมาให้ หรือให้ชาวบ้านแจ้งมาว่ามีงูเราก็จะไปจับให้ รวมทั้งไปทำกิจกรรมกับเด็กๆในโรงเรียนให้พวกเขามีความรู้ความเข้าใจ คนไทยมักจะถูกปลูกฝังมาแต่เด็กให้เกลียดและกลัวงู จึงหาคนมาเรียน มารักงูได้น้อยมาก แต่ฝรั่ง จะรักงู ในยุโรปและอเมริกาไม่มีที่ให้ศึกษาเรื่องงูโดยเฉพาะงูเห่าและงูจงอาง เนื่องจากงูพวกนี้จะพบในพื้นที่ป่าดิบแล้งเท่านั้น และถ้าต้องการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง มีมาตรฐาน ก็มีที่มทส.เพียงทีเดียว อีกอย่างที่ฝรั่งมาเรียนเนื่องจากเขามีภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เมื่อได้รู้จักงูอย่างแท้จริงสามารถไปทำงานได้ทั่วโลก”รศ.ดร.พงศ์เทพกล่าว

ด้าน รศ.ดร.วีระพงษ แพสุวรรณ อธิการบดีมทส.กล่าวว่า สาขาวิชาชีววิทยา สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ ของมทส.ถือว่าได้รับการยอมรับอย่างมาก โดยเฉพาะการเรียนเฉพาะทางเรื่องของ งูเห่า งูจงอาง และ สัตว์มีพิษ เช่น ดร.คอลลิน สไตร ก็จบปริญญาเอกจากที่นี่ และกลับมาเป็นอาจารย์สอนนักศึกษา ทั้งระดับปริญญาเอก และปริญญาโทต่อ ซึ่งดร.คอลลินเคยเป็นพิธีกรชื่อดัง รายการสารคดีเรื่องสัตว์ป่า เป็นนักผจญภัยที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ก่อนหน้าที่จะมาเป็นอาจารย์ ก็ทำงานอยู่ที่สถานีวิจัยสะแกราชมาก่อน

“ความสนใจเกี่ยวกับงูเห่า งูจงอางของต่างชาติ มีมากกว่าคนไทย ทั้งดัง มทส.จึงมีนักศึกษาต่างชาติมาเรียนกันจำนวนมาก ขณะที่นักศึกษาไทย ที่ไม่มาเรียนวิชาดังกล่าว เพราะมองกันว่า จบไปแล้ว ไม่รู้จะไปทำงานอะไร ซึ่งการเรียนของคนไทยกับต่างชาติ จะคิดไม่เหมือนกัน ศึกษาต่างชาติเรียนเพื่ออยากรู้ อยากทดลอง อยากค้นหา ขณะที่นักศึกษาไทยต้องการเมื่อเรียนเพื่อจบไปทำงานที่แน่นอน ทำงานที่มีรายได้ จึงไม่ค่อยมาเรียนสาขาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มทส. เตรียมต่อยอดในสาขาวิชาชีววิทยา เรื่องงูเห่าและงูจงอาง โดยการทำเซรุ่ม ที่มาจากพิษงูเพื่อนำไปช่วยชีวิตคน และพยายามรณรงค์ให้นักศึกษาไทยมาเรียน เพราะทุกวันนี้การศึกษานั้นไร้พรมแดน ทุกสาขาวิชามีประโยชน์หมด”รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าว

แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์