“โคราช” ล้อมคอกล่าสัตว์ ผู้ว่าฯย้ำจนท.ไม่ต้องสน “คนใหญ่-คนโต” ค้นทุกรายเข้าป่าอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดนครราชสีมา (คปป.จ.นม.) ครั้งที่ 2/2561 มีนายสุเมธ อำภรณ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) นครราชสีมา พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมชี้แจงสถานการณ์และผลการดำเนินการที่ผ่านมา

ระหว่างการประชุม นายสุขสวัสดิ์ สุรนารถ ผู้แทนหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ความคืบหน้าการคลี่คลายคดีการจับกุมนายอภิวัฒน์ นิลสนธิ อายุ 33 ปี ราษฎรบ้านปอหู หมู่ที่ 4 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 1 (หมีควาย) และมีซากสัตว์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ต้องหาอ้างพบซากหมีควายตายติดบ่วงโดยไม่ทราบใครเป็นผู้ดักไว้ จึงนำซากมาชำแหละแบ่งให้เพื่อนและนำไปขาย พร้อมให้การซัดทอด ขณะนี้ได้ขยายผลการจับกุมพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดสีคิ้ว พิจารณาอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการ 2 ราย

นายวิเชียร กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่รับผิดชอบมีเพียงสัตว์ขนาดเล็ก ส่วนสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าสงวนยังไม่ได้รับรายงาน จึงเน้นกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้วิกฤตเป็นโอกาส เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดตรวจค้นผู้ที่เข้าออกในเขตผืนป่าอนุรักษ์ ไม่ต้องเกรงใจแม้อ้างเป็นคนใหญ่ คนโต หากตรวจพบให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที “สิ่งที่เป็นห่วงช่วงหน้าแล้ง จะพบสัตว์ป่าทั้งช้าง กระทิง และ สัตว์ชนิดอื่นๆออกมาหากินนอกเขตผืนป่า แนวทางแก้ปัญหาต้องลงพื้นที่ให้ความรู้ ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่มีพื้นที่ทำกินใกล้ผืนป่าให้มีความเมตตากับสัตว์ป่าและคู่ขนานกับการสำรวจพื้นที่สร้างโป่งเทียม โดยให้ดำเนินการของบภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบ” นายวิเชียร กล่าว

แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์