อาคมไล่จี้เร่ง ‘ไฮสปีดไทย-จีน’ หลังทำงานสุดอืด ล่าช้าไป 12 เดือน ฟุ้งยอยเปิดประมูลเฟส 1 ภายในปีนี้

“อาคม”สั่งเร่งเบิกจ่ายงานไฮสปีดไทย-จีน หลังขยายเวลาก่อสร้าง ยันไม่กระทบภาพรวม เผยสร้างแค่ 3.5 กม. แต่ช้าไป 12 เดือน ฟุ้งยอยเปิดประมูลเฟส1 ภายในปีนี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่าสำหรับกรณีที่ต้องขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ตอนที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศกระยะทาง 3.5 กม.ออกไปนั้นเนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการเบิกเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ที่ต้องชำระให้กับกรมทางหลวง(ทล.) ซึ่งแม้ขั้นตอนดังกล่าวจะมีความล่าช้าไปบ้างแต่ไม่กระทบกับงานก่อสร้างที่ยังคงสามารถดำเนินงานได้ตามปกติมิได้หยุดชะงักงานก่อสร้างแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องของฝนฟ้าอากาศในช่วงนี้ที่อาจทำให้การเข้าพื้นที่ก่อสร้างยากลำบากไปบ้าง ทั้งนี้ยังคงมั่นใจว่างานก่อสร้างดังกล่าวจะเดินหน้าได้ตามแผน อย่างไรก็ตามสำหรับขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินนั้นคงต้องไปหารือและเร่งรัดทั้งสองหน่วยงานเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไป

นายอาคมกล่าวต่อว่าสำหรับขั้นตอนประกวดราคางานก่อสร้างโครงการอีก 12 สัญญานั้นจะทยอยเปิดประมูลตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป โดยขณะนี้ตอนที่ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก. ระยะ ทาง11 กม. วงเงิน 3.3 พันล้านบาท นั้นขณะนี้เข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาแล้วหลังจากนำร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์) ขึ้นเว็บไซต์เพื่อเปิดประชาพิจารณ์ไปแล้ว

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่าโครงการดังกล่าวนั้นขณะนี้ดำเนินการได้เพียง 40% เนื่องจากยังไม่ได้ชำระเงินค่าก่อสร้างซึ่งแบ่งเป็น 3 งวด ก้อนละ 118 ล้านบาท รวม 354 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายเพียงงวดเดียว ส่งผลให้ความคืบหน้าการดำเนินงานอยู่ที่เพียง 40% จนต้องขยายเวลาก่อร้างช่วงดังกล่าวออกไปอีก 6 เดือนหรือกำหนดแล้วเสร็จใหม่ในเดือน เม.ย. 2562 ดังนั้นส่งผลให้โครงการช่วงดังกล่าวนั้นช้ากว่าแผนเกือบ 1 ปีแม้จะมีการก่อสร้างเพียง 3.5 กม. ซึ่งเดิมนั้นได้เริ่มตอกเสาเข็มเมื่อเดือน ธ.ค. 2560 และมีกำหนดแล้วเสร็จ มิ.ย. 2561

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมมีแผนเปิดประมูลโครงการอีก 12 สัญญา แบ่งเป็น ตอน 3 ช่วงแก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 119.5 กม. จะเปิดประมูลพร้อมกัน 6 สัญญา และตอนที่ 4 ช่วงบางซื่อ-แก่งคอย ระยะทาง 119 กม. เปิดประมูลพร้อมกัน 6 สัญญา

ด้านแหล่งข่าวจากรฟท.ระบุว่าความคืบหน้าโครงการจัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน วงเงิน 6.5 พันล้านบาทนั้นขณะนี้ได้นำร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์)ขึ้นเว็บไซต์รฟท.เพื่อเปิดประชาพิจารณ์เป็นเวลา15 วันไปจนถึงช่วงปลายเดือนนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปลายปีนี้ ขณะที่โครงการเช่าหัวรถจักร 50 คันพร้อมซ๋อมบำรุง วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาทนั้นอยู่ระหว่างเสนอเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด รฟท.ภายในเร็ววันนี้ก่อนเดินหน้านำทีโออาร์ขึ้นเว็บไซต์และเปิดประมูลต่อไปในปี 62

แหล่งข้อมูล : ไทยโพสต์