ค้าปลีก 4 เมืองใหญ่ปรับทัพรับศึกยักษ์ศูนย์การค้า “แพชชั่น ระยอง” ปรับโฉมห้างมีดีไซน์ “คลังพลาซ่า โคราช” ลุยเปิดสาขาที่ 4 “ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์” มหาสารคาม ทุ่ม 300 ล้านขยายเฟส 2 “ประตูน้ำขอนแก่น” ผนึกโรงแรม-สวนน้ำเชื่อมช็อปปิ้งครบวงจร

“แพชชั่นระยอง” ชูห้างมีดีไซน์

นางสาวปัทมาพร นกหงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หงษา แอสเซท จำกัด เจ้าของศูนย์การค้าแพชชั่น ช็อปปิ้ง เดสติเนชั่น จ.ระยอง เผยว่า ภายหลังจากการรีโนเวตครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2558 ด้วยงบประมาณ 600 ล้านบาท ปรับโฉมใหม่หมดทั้ง 3 ชั้น โดยเปลี่ยนชื่อจากห้างแหลมทอง ระยอง เป็น แพชชั่น บาย แหลมทอง ระยอง ล่าสุดได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นแพชชั่น ช็อปปิ้ง เดสติเนชั่น เพื่อให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด และแบ่งพื้นที่ให้เช่าประมาณ 80% ของพื้นที่ห้างทั้งหมด ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมผู้ค้ารายย่อย ขณะที่รายใหญ่แบรนด์หลักก็ยังมีอยู่ ทั้งร้านอาหาร แฟชั่น เครื่องสำอาง

“สไตล์ของเราคือ การฉีกจากห้างหลัก การจัดโซนต่างๆ ก็ไม่มีกฎตายตัว จะเป็นการผสมผสานทั้งรายใหญ่ รายย่อย และอินเตอร์แบรนด์อยู่ในโซนเดียวกัน เราเป็นท้องถิ่นแต่จะทำแบบท้องถิ่นหมดไม่ได้ ต้องปรับตัวตลอด หาช่องว่างให้ได้ แล้วจะเจอที่ยืนเสมอ เราเป็นห้างมีดีไซน์ มีความสนุกสนาน มีแบรนด์หลากหลาย ทำให้เราสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องแข่งขันกัน จะเป็นลักษณะต่างคนต่างอยู่ได้ จากเดิมอาจทับไลน์กันบ้าง”

“เสริมไทยสารคาม” ลงทุนเฟส 2

แพทย์หญิงโสรยา คณาสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมไทยคอมเพล็กซ์ จำกัด เจ้าของห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จ.มหาสารคาม เปิดเผยถึงความอยู่รอดของห้างท้องถิ่นว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะชะลอตัว ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ แต่เศรษฐกิจเมืองมหาสารคามยังเดินหน้าได้ ยอดขายอาจไม่ถึงกับบูมแต่ไปได้เรื่อยๆ เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคมาจากหลายกลุ่ม

โดยเฉพาะภาคการศึกษาที่มีเกือบแสนคน หากราคาพืชเกษตรตกต่ำก็จะยังมีกำลังซื้อจากภาคการศึกษามาทดแทนกลุ่มที่มีปัญหาได้ นี่คือจุดแข็งของเศรษฐกิจมหาสารคาม ซึ่งทำให้ห้างค้าปลีกท้องถิ่นสามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางค้าปลีกยักษ์ข้ามชาติที่รุกเข้ามา

“เราเป็นห้างเก่าแก่ของท้องถิ่นต้องพัฒนาตนเองตลอดและทำทุกอย่างเพื่อคนมหาสารคาม ไม่ได้ขายเฉพาะสินค้าอย่างเดียว เมื่อเดินเข้ามาในห้างจะพบบรรยากาศความเป็นกันเอง ซึ่งความรู้สึกนี้จะไปหาที่ห้างอื่นๆ ไม่ได้ เพราะมีทุกอย่างอยู่ในนี้หมด และสิ่งที่เราทำอย่างต่อเนื่องก็คือ การคืนกำไรให้สังคม รวมทั้งโอบอุ้มผู้ค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่”

นอกจากนั้นยังทำการตลาดเพื่อดึงลูกค้าเข้าห้าง ได้แก่ การจัดโปรโมชั่น การเปิดพื้นที่รอบๆ ห้างให้เป็นตลาดนัดทุกวันจันทร์ อังคาร และพุธ และเปิดพื้นที่ลานหน้าห้างให้หน่วยงานราชการ ภาคเอกชนเข้ามาจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดปี

ขณะเดียวกันในปี 2560 มีแผนรุกตลาดครั้งใหญ่ เตรียมลงทุนขยายเฟส 2 ใช้ชื่อว่า “เสริมไทยอินเดอะการ์เดนซ์” งบฯลงทุน 300-400 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยกว่า 1 หมื่นตารางเมตร สามารถรองรับร้านค้าได้กว่า 100 ร้าน ภายใต้แนวคิดมาห้างเสริมไทยอยู่ได้ทั้งวัน เพราะมีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การประชุม/สัมมนา พบปะสังสรรค์ พักผ่อนเป็นครอบครัว พื้นที่เรียนพิเศษ เป็นต้น ขณะนี้การออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว จะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2560 นี้

ห้างกลางเมือง “คลังพลาซ่า”

ขณะที่นายไพรัตน์ มานะศิลป์ รองประธานกรรมการ บริษัท คลังพลาซ่า จอมสุรางค์ จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดนครราชสีมาค่อนข้างรุนแรง แต่ก็มีความมั่นใจในการทำธุรกิจ คลังพลาซ่าถือเป็นมวยคนละรุ่นกับศูนย์การค้าต่างๆ ที่เข้ามาเปิดในโคราช ไม่ว่าจะเป็น เดอะมอลล์, Terminal 21 และเซ็นทรัลพลาซา ซึ่งคลังพลาซ่าไม่ขอไปเปรียบหรือแข่งขันกับกลุ่มศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่เข้ามา

กลยุทธ์และจุดแข็งของห้างคือการรักษากลุ่มลูกค้าที่เป็นคนโคราช ถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด และเป็นลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายอยู่เป็นประจำ ความเป็นห้างสรรพสินค้าที่เข้าใกล้ลูกค้ามากที่สุด มีทำเลอยู่ใจกลางเมืองและชุมชน รวมทั้งการบริการที่มีความสะดวกสบายในทุกด้าน

ส่วนกลยุทธ์ด้านราคาก็ถือว่ามีราคาที่ถูกกว่าศูนย์การค้าต่างๆ และการทำระบบสมาชิกคล้ายกับสหกรณ์ มีปันผลจ่ายคืนเป็นเงินสดทุก 3 เดือน ถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้รับการตอบรับและได้ผลเป็นอย่างดี ทำให้มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีแผนสร้างคลังพลาซ่า สาขาที่ 4 “คลังสเตชั่น” ใช้งบประมาณราว 750 ล้านบาท ซึ่งเป็นรูปแบบห้างกึ่งคอมมิวนิตี้มอลล์แบบผสมผสาน จะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของการช็อปปิ้งโคราช คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนมีนาคม 2561

สำหรับผลกระทบจากโลกโซเชียลนั้น ทางคลังพลาซ่าก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำการตลาดอยู่ตลอดเวลาด้วย แม้กระทั่งการทำเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ และเพจของห้าง เพื่ออัพเดตให้กับลูกค้าได้เข้าถึงข่าวสาร สินค้า โปรโมชั่น อีเวนต์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในทุกช่วงเวลา ทำให้ไม่ตกยุค สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้

“ประตูน้ำขอนแก่น” ครบวงจร

นายเกรียงศักดิ์ ประตูน้ำขอนแก่น กรรมการบริหาร บริษัท ประตูน้ำขอนแก่น จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมค้าปลีก-ค้าส่งจังหวัดขอนแก่น ปี 2559 ชะลอตัวจากปัจจัยลบราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง แนวโน้มในปี 2560 ยังคงทรงตัว เพราะเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว สำหรับกลยุทธ์ทางรอดของกลุ่มประตูน้ำขอนแก่นจะชูจุดแข็งการเป็นสถานที่ค้าปลีก-ค้าส่งแบบครบวงจร มีสินค้าและบริการหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เสื้อผ้าคนวัยทำงาน เครื่องประดับ ความงาม และประดับยนต์

นอกจากนั้นยังมีโรงแรมประตูน้ำโฮเต็ลไว้คอยบริการลูกค้าที่มาจากจังหวัดใกล้เคียง และ สปป.ลาว รวมทั้งมีการดึงกรุ๊ปทัวร์จัดประชุม/สัมมนา เข้ามาจัดงานเชื่อมโยงการช็อปปิ้งที่ประตูน้ำขอนแก่น ล่าสุดเตรียมทุ่มทุนกว่า 300 ล้านบาท รีโนเวตโรงแรมเดิม และสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อรองรับการท่องเที่ยว และงานจัดประชุม/สัมมนา ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวมาจับจ่ายในประตูน้ำขอนแก่นด้วย

ขณะที่ในช่วงต้นปี 2560 เตรียมเปิดตัวสวนน้ำไดโน วอเตอร์ปาร์ค เต็มเฟส 100% คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลดีต่อการค้าในประตูน้ำขอนแก่น ซึ่งสวนน้ำจะเป็นแม็กเนตสนับสนุนธุรกิจอื่นๆ ให้มีความคึกคัก

 

%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%b4

แหล่งข้อมูล : ประชาชาติออนไลน์


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …