ไม่เลื่อน! “อาคม” ยัน ไฮสปีดไทย-จีน ตอกเสาเข็มทัน พ.ย.นี้ เร่ง สนข.สางปัญหา EIA เหมืองแร่ จ.สระบุรี

“อาคม” แจงความคืบหน้ารถไฟไทย-จีน หลังติดปัญหายังไม่ผ่าน EIA ในพื้นที่บริเวณเหมืองแร่ จ.สระบุรี เร่ง สนข.เจรจาผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมสรุปส่ง คชก. – กก.วล.พิจารณาภายใน ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันตอกเสาเข็มตามแผน พ.ย.นี้ ด้าน “ผอ.สนข.” สั่ง รฟท. ทำแผนงาน หวังเดินหน้าประมูลช่วง 2-4 ขณะที่ การทดสอบวิศวกรจีนสร้างไฮสปีดรุ่นแรก 77 คน ผ่านเกณฑ์กฏหมายไทย เดินหน้าเสริมความรู้สภาพพื้นที่ภูมิประเทศของไทยต่อครบ 4 รุ่น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ระยะที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม.ยังไม่ผ่านการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอเรื่องให้คณะกรรมการชำนาญการพิเศษ หรือ คชก. และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ หรือ กก.วล. สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. พิจารณา EIA ไปแล้ว 6 ครั้งนั้น ขณะนี้ยังติดปัญหาการผ่านพื้นที่บริเวณ จ.สระบุรี จึงได้เร่งรัดให้ สนข.ลงพื้นที่ พร้อมเจรจากับผู้ประกอบการเหมืองแร่ในพื้นที่ 3 ราย เพื่อหาข้อสรุป ก่อนส่งเรื่องให้ คชก. และ กก.วล.พิจารณาเห็นชอบตามลำดับต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่า ยังเป็นไปตามแผนกรอบเวลาการตอกเสาเข็มในเดือน พ.ย. เช่นเดิม

ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. กล่าวว่า ขณะนี้โครงการรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ยังติดปัญหาในการผ่านพื้นที่เหมืองแร่ โรงปูน จ.สระบุรี ล่าสุด สนข.ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล และได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการเหมืองแร่ทั้ง 3 รายแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของค่าชดเชยในการเวนคืนที่ดินที่จะใช้ในการก่อสร้างโครงการฯ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุป พร้อมเสนอให้ คชก. และ กก.วล.พิจารณาได้ภายใน ต.ค.นี้ เพื่อดำเนินการก่อสร้างช่วงแรกสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ให้เป็นไปตามแผน พ.ย.นี้ ขณะที่ความคืบหน้าการเปิดประมูลช่วงที่ 2 – 4 นั้น ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ไปทำแผนการดำเนินงาน ก่อนส่งเรื่องมาที่ สนข. เพื่อเดินหน้าต่อไป

*** ทดสอบวิศวกรจีนรุ่นที่ 1 ผ่านฉลุย! ***

ศ.ดร. อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร กล่าวถึงผลการดำเนินงานอบรมและทดสอบวิศวกรจีนที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมาว่า การอบรมและทดสอบวิศวกรจีนในโครงการดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 30/2560 โดยมีวิศวกรจีนที่จะเข้ารับการอบรมและทดสอบโดยสภาวิศวกรไทย จำนวน 400 คนโดยประมาณ ประกอบด้วย วิศวกรระดับ Professor professional, Senior professional และระดับ Professional ครอบคลุมสาขาวิศวกรรมโยธา ไฟฟ้า เครื่องกล และอื่นๆ นั้น โดยการจัดอบรมและทดสอบวิศวกรจีน ได้แบ่งออกเป็น 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นที่ 1 วันที่ 22-25 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา รุ่นที่ 2 วันที่ 12-15 ต.ค. รุ่นที่ 3 วันที่ 27-30 ต.ค. และรุ่นที่ 4 วันที่ 10-13 พ.ย. โดยทั้ง 4 รุ่น จะจัดอบรมที่นครเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

สำหรับการอบรมและทดสอบวิศวกรจีนรุ่นที่ 1 นั้น มีวิศวกรจีนเข้ารับการอบรมและทดสอบจำนวน 77 คน ในส่วนของการทดสอบนั้นประกอบด้วยข้อสอบ 2 ชุด โดยชุดที่ 1 เกี่ยวข้องกับกฎหมายและจรรยาบรรณ มี 50 ข้อ เกณฑ์ผ่านพิจารณาที่ 60% หรือ 30 ข้อ ส่วนข้อสอบชุดที่ 2 เกี่ยวข้องกับด้านเทคนิคและสภาพท้องที่ของประเทศไทย มี 100 ข้อเกณฑ์ผ่าน 60% หรือ 60 ข้อ โดยวิศวกรจีนทั้ง 77 คน ผ่านการทดสอบข้อสอบชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 ทั้ง 77 คน

ในส่วนข้อสอบชุดที่ 1 คะแนนต่ำสุด 39 คะแนนสูงสุด 48 และคะแนนเฉลี่ย 44 คะแนนซึ่งผ่านเกณฑ์ 30 คะแนนทุกคน และสำหรับข้อสอบชุดที่ 2 คะแนนต่ำสุด 76 คะแนนสูงสุด 89 และคะแนนเฉลี่ย 82 คะแนน ซึ่งผ่านเกณฑ์ 60 คะแนนทุกคน จากนี้ไป สภาวิศวกรจะออกใบรับรองผ่านการอบรมและทดสอบความรู้ให้แก่วิศวกรจีนในรุ่นที่ 1 นี้ เพื่อให้สามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ หลักสูตรฝึกอบรมและทดสอบวิศวกรจีน นั้น ศ.ดร. อมร กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการอบรมเรื่องรถไฟความเร็วสูง แต่เป็นการอบรมความรู้ในเรื่องที่วิศวกรจีนจำเป็นต้องรู้ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทย ทั้งในเรื่องข้อกฎหมาย และสภาพท้องที่ (local conditions) ของประเทศไทย เช่น สภาพทางธรณีวิทยา ชั้นดิน ลุ่มน้ำ และน้ำท่วม ตลอดจนภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และลมพายุในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต่อการออกแบบและก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง

แหล่งข้อมูล : transportjournalnews