“อัญมณี เชิดชัย” หลานเจ๊เกียว ว่าที่ ดร.จากลอนดอน

วัชรัตน์ ตาสอน : เรื่อง

เอ่ยชื่อ “เจ๊เกียว” หรือ “สุจินดา เชิดชัย” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าเจ๊เกียวมีหลานสาวหน้าตาสะสวยชื่อ “อัญมณี เชิดชัย” หรือชื่อเล่น “อันอัน” ที่กำลังเรียนอยู่อังกฤษ เตรียมคว้าปริญญาเอกแล้วกลับมาช่วยงานบริหารธุรกิจอู่รถของครอบครัว

อันอัน เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของธุรกิจรถทัวร์เชิดชัย เป็นลูกสาวคนโตในพี่น้องสามคนของ อัสนี และ ลินดา เชิดชัย ในวัย 24 ปี อันอันจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และในอีก 2 ปีจากนี้เธอจะมุ่งมั่น

คว้าปริญญาเอกอีกใบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก่อนวางแผนบินกลับมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวที่จังหวัดนครราชสีมา และเตรียมนำความรู้ที่ได้มาสอนหนังสือส่งต่อความรู้ให้คนไทย อันอันจึงเป็นอนาคตรุ่นใหม่ของตระกูลเชิดชัยที่น่าจับตามองยิ่ง

ว่าที่ด็อกเตอร์สาวเล่าถึงชีวิต 9 ปีในอังกฤษว่าเดินทางไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 15 ระหว่างนั้นไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรนอกจากเรียนหนังสือตลอด

เริ่มจากเรียนที่ The King’s School Ely จบปริญญาตรีด้านบริหาร จากมหาวิทยาลัยนอตติ้งแฮม จบโทบริหารธุรกิจอินเตอร์ มหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ และกำลังจะเรียนต่อปริญญาเอก สาขาการเรียนรู้ของผู้บุกเบิกธุรกิจครอบครัว เพื่อให้ประสบความสำเร็จนำความรู้กลับมาช่วยงานของครอบครัวที่โคราช

อันอันบอกว่างานวิจัยที่เธอกำลังศึกษาอยู่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการหาสาเหตุที่ธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่มักจะล้มเหลวเมื่อ ก้าวสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 หรือ 3 ซึ่งเธออยากรู้สาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหา

อันอันเป็นคนชอบออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากตอนเรียนโรงเรียนที่ภูเก็ตถูกจับให้เล่นกีฬาทุกชนิด หลังจากนั้นจึงติดการเล่นกีฬามาตลอด

พอไปอยู่อังกฤษเข้ายิมตลอด เธอบอกว่ากีฬาที่ชอบที่สุดคือต่อยมวย เพราะได้ออกแรง ได้เหงื่อ ได้ปลอดปล่อยอารมณ์และฝึกสมาธิไปพร้อม ๆ กัน

“เมื่อกี้ขาเขียวเพราะไปต่อยมวยมา” เธอบอกและหัวเราะ

สิ่งที่อันอันชอบมากอีกอย่างก็คือช็อปปิ้งและแต่งตัว เธอพูดติดตลกว่า “ตอนเด็ก ๆ เก็บกด เพราะคุณแม่ไม่ค่อยให้แต่งตัว คุณแม่ชอบให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อย ใส่กระโปรง ใส่เดรส ไม่ให้ใส่ส้นสูง ตอนเด็กแต่งตัวเรียบร้อย โตมาก็เลยอยากลอง อยากเท่บ้าง สไตล์การแต่งตัวที่ชอบก็คือโทนสีดำ เรียบ ๆ คัตติ้งเนี้ยบ เสื้อสีดำธรรมดาแต่มีอะไรนิดนึง ไม่ได้แต่งแบบเยอะ ๆ ชอบแจ็กเกต ชอบเบลเซอร์”

สำหรับแบรนด์ที่เธอชอบคือ “บัลแมง (Balmain) และ จีวองชี่ (Givenchy) เป็นแบรนด์ที่ติดอยู่ที่ใจเลย คอลเล็กชั่นไหนมานี่ไปเลย” (เธอพูดอย่างตื่นเต้น)

ส่วนคนที่เป็นแรงบันดาลใจของอันอันคือ วิกตอเรีย เบ็กแฮม “เพราะเขาเป็นผู้หญิงเก่ง ทุกคนมองภายนอกว่าเป็นนักร้อง แต่เขาก็แตกไลน์ออกมาดีไซน์เสื้อผ้า ทำธุรกิจก็ซักเซสฟูลพอสมควร เรามีความชอบเหมือน ๆ กันกับเขา เสื้อผ้าก็สไตล์เดียวกัน เวิร์กอะฮอลิก ไฮเปอร์ คล้ายกัน”

ซึ่งเธอบอกว่าความชอบในตัววิกตอเรีย ก็มีผลต่อแนวทางการใช้ชีวิตนิดหน่อย คือทำตัวให้ดูเป็นผู้หญิงเก่ง ไม่พึ่งใคร

เมื่อถามว่าสิ่งที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้คืออะไร ว่าที่ด็อกเตอร์สาวนึกอยู่พักใหญ่ก่อนบอกว่า “อยากไปเที่ยวรอบโลก” เธอบอกว่าชอบถ่ายรูปและชอบเดินทางมาก

“ฝันไว้ว่าจะไปเที่ยวให้ได้ทุกประเทศในโลกนี้ และถ่ายรูปสถานที่ต่าง ๆ เก็บไว้ ประเทศที่ไปมาแล้วส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป เช่น กรีซ ฝรั่งเศส อิตาลี ไอซ์แลนด์ สแกนดิเนเวีย ยังเที่ยวได้ไม่กี่ประเทศค่ะ เพราะเพิ่งได้รับอิสรภาพออกเที่ยวด้วยตัวเองเมื่อสองปีที่ผ่านมา ถ้าเป็นไปได้ อยากไปแอฟริกาใต้มาก ประเทศไหนที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ไปยิ่งชอบยิ่งอยากไป” เธอเล่าและหัวเราะเสียงดัง

อันอันบอกว่าเสน่ห์ของการท่องเที่ยวคือทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ และเห็นความแตกต่างทางภูมิทัศน์ของแต่ละประเทศ ได้ลองชิมอาหารที่ไม่เคยลองมาก่อน พบเจอวัฒนธรรมประเพณีที่ไม่เคยรู้ เธอเล่าว่าบางครั้งก็อยากเป็นนักรีวิวเรื่องท่องเที่ยว แต่ติดอยู่ที่ว่าเขียนหนังสืออยู่แค่ภาษาเดียว

ส่วนในฐานะทายาทเชิดชัย อันอันบอกว่าอีก 2 ปีน่าจะเห็นเธอกลับมาช่วยงานที่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้ช่วยงานคุณพ่อแล้วในด้านครีเอทีฟ เกี่ยวกับโฆษณา การจัดอีเวนต์ และดีลงาน เธอบอกว่าในอนาคตถ้ากลับมาช่วยงานที่บ้านก็จะเป็นอาจารย์สอนหนังสือไปด้วย พร้อมกัน

ในมุมมองคนรุ่นใหม่ อันอันมองธุรกิจครอบครัวอู่รถบริษัทเชิดชัยว่า สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ในรุ่นของเธอ ซึ่งจะต้องปรับระบบใหม่ให้มาตรฐานเพิ่มขึ้น เพื่อขยายธุรกิจต่อไปประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียน และต้องรีแบรนด์ครั้งใหญ่ โดยจะขึ้นไปจับตลาดบน ปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของวงการคมนาคมที่รถไฟจะเข้ามาเป็นคู่ แข่งในไม่ช้า ทั้งรถไฟธรรมดาและรถไฟความเร็วสูง

เธอมั่นใจว่าธุรกิจรถทัวร์ไฮเอนด์ ที่จะมุ่งไปในอนาคตจะสามารถแข่งขันกับเครื่องบินและรถไฟความเร็วสูงได้ เพราะเครื่องบินและรถไฟ ไม่สามารถเข้าถึงทุกที่ได้อย่างรถบัส พอลงเครื่องบินแล้วก็ยังต้องต่อรถบัสหรือรถยนต์โดยสารอยู่ดี

อันอันเปรียบเหมือนอัญมณีแห่งตระกูลเชิดชัย เหมือนกับชื่อของเธอ นับเป็นคลื่นลูกหลังที่มีศักยภาพสูง ทั้งความรู้ด้านธุรกิจ มุมมองด้านสังคม และไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่

จึงน่าจับตามองเธอทั้งในฐานะว่าที่นักธุรกิจหน้าใหม่ของมหานครโคราช และในฐานะทายาทเจ๊เกียว คุณย่าจอมโหดของเธอ ที่แม้แต่หลานสาวเองก็ยังบอกว่า

“คุณย่าเก่งมาก ทำงานหนักมาก โหดมาก”

อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ > ประชาชาติ ธุรกิจ ออนไลน์