อนุรักษ์บ้านโบราณ111ปีสู่“เรือนโคราช” สง่างามแลนด์มาร์คหน้า“ย่าโม” พร้อมโรงแรม-อีเว้นท์-งานศิลป์รับนักท่องเที่ยว

เปิดให้ชมฟรีแล้ว! “เรือนโคราช-เฉลิมวัฒนา” หน้าคุณย่าโม กับแนวคิดจากรุ่นพ่อที่ต้องการอนุรักษ์บ้านโบราณโคราชแท้ๆจากอำเภอคง อายุ 111 ปี ให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษา มรดกอันทรงคุณค่าที่หาดูยาก ต่อยอดไอเดียมาถึงทายาทนักเรียนนอกดีกรีด็อกเตอร์จากอเมริกา “คุณนิว”ดร.พสุ สุนทรพิทักษ์ ที่เข้ามาสานฝันพลิกโฉม “เรือนโคราช-เฉลิมวัฒนา” กับศิลปะและธรรมชาติกลางเมือง พร้อมสร้างโรงแรมอีก 21 ห้อง และลานอีเว้นท์“CO-WORKING SPACE” ให้นักท่องเที่ยวได้มาสักการะย่าโม พร้อมชมศิลปะบ้านโบราณโคราชจริงๆ

ที่ดินมรดก 2 ไร่“เฉลิมวัฒนา”หน้าย่าโม

“คุณนิว”ดร.พสุ สุนทรพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ/ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการโครงการ “เรือนโคราช-เฉลิมวัฒนา” หน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) เปิดเผยว่า “เริ่มต้นจากที่ดิน 2 ไร่ เคยเป็นโรงหนังเฉลิมวัฒนาเป็นของคุณยายซึ่งเป็นเจ้าของที่เก่าทางตระกูลคุณแม่สุมาลัย ซึ่งเป็นลูกคนที่ 6 ได้มาดูแลต่อเพราะลูกคนอื่นๆอยู่กรุงเทพฯกันหมด ก็ดูแลมาเรื่อยๆเกือบ 20 ปี หลังเกษียณ ส่วนตัวผมอยู่ต่างประเทศที่อเมริกา เรียนและทำงานอยู่ที่นั่น จึงกลับมาดูแลเพราะพ่อแม่อายุมากแล้ว จึงได้เข้ามาพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ตรงนี้”

ตั้งโจทย์รักษาต้นไม้ใหญ่ไม่อยากตัดทิ้ง

“จนกระทั่งเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ก็มีแนวคิดว่าจะทำพื้นที่ตรงนี้ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองโคราชและที่สำคัญอยู่หน้าคุณหญิงโมให้มีผลด้านบวกให้กับเมือง โดยตั้งโจทย์คือเก็บต้นไม้ไว้ไม่อยากให้ตัดเพราะเป็นต้นไม้ใหญ่และร่มรื่นมาก ควรทำให้เป็นปอดของเมืองโคราช หรือให้มี “บ้านโคราช” โบราณมาตั้งอยู่ที่นี่ได้ไหมตอนแรกที่คิดไว้”

พบ“เรือนโคราช”แท้ๆที่อ.คงอายุ 111 ปี

“หลังจากนั้นมีอดีตผู้อำนวยการสำนักศิลปวัฒนธรรมของ ม.ราชภัฎนครราชสีมา พาคุณพ่อผมชื่อ ดร.นิเชต สุนทรพิทักษ์ (อดีตอธิบดีกรมการฝีกหัดครูคนสุดท้าย และเป็นเลขาธิการสภาสถาบันราชภัฎ คนแรก) ไปดู “เรือนโคราช” แท้ๆที่อำเภอคง เป็นลักษณะดั้งเดิมโบราณเลยที่ยังหลงเหลืออยู่ เพราะ “เรือนโคราช” มีความแปลกไม่เหมือนบ้านโบราณที่อื่นก็อยากอนุรักษ์ไว้ จึงร่วมทุนกับเพื่อนๆซื้อบ้านโบราณหลังนี้จากอำเภอคง ที่มีอายุมากกว่า 111 ปี โดยมีอาจารย์ ดร.ดุลย์พิชัย โกมลวานิช ที่เคยทำ“สยามนิรมิต ที่กรุงเทพฯ”และอีกหลายโปรเจ็กต์ในเมืองไทย ได้เข้ามาดูแลและออกแบบตรงนี้ให้ เพราะเป็นลูกศิษย์คุณพ่อสมัยที่ท่านเป็น อธิการวิทยาลัยครูอยุธยา แต่ไม่เจอกันนานแล้วพอมาเจอกัน จึงได้พูดถึง “เรือนโคราช” ที่อำเภอคง และคุณพ่ออยากจะให้ย้ายมาในเมืองได้หรือไม่เพราะคงเคลื่อนย้ายยาก อาจารย์ก็มาดูและมีการรื้อแยกชิ้นส่วน นำไปล้างและปรุงใหม่ตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมาในปัจจุบันเพื่อเป็นสถานที่ศึกษาของนักเรียนและประชาชนทั่วไป”

ต่อยอดสร้าง “เรือนโคราช” หน้าย่าโม

คุณนิว กล่าวต่อว่า “แล้วก็เกิดความคิดใหม่ว่าควรจะมี “เรือนโคราช” อยู่ที่ใจกลางเมืองด้วยอีกแห่งเพื่อความสะดวกของผู้ที่มาสักการะคุณหญิงโม หรือ ผู้ที่ผ่านมาย่านนี้ แล้วควรตั้งอยู่ข้างหน้าติดถนนให้คนเห็นเลยสร้างให้เป็นแลนด์มาร์คบ้านโบราณของโคราชอีกหลังขึ้นมา จากนั้นผมจึงไปคุยกับบอร์ดบริหาร ประมาณ 9 คน ทุกคนก็ตกลง แต่ด้วย “เรือนโคราช” มีลักษณะเป็นบ้านทรงเตี้ยจะทำอย่างไรให้อยู่สูงจึงได้สร้างเป็นห้องโชว์งานศิลปะแกลลอรี่ไว้ด้านล่าง โดยเป็นห้องแกลลอรี่ที่มีความแข็งแรง และสามารถรับน้ำหนักตั้ง “เรือนโคราช” ไว้ด้านบนได้ให้ความรู้สึกเหมือนบนที่ราบสูง”

“เรือนโคราช”เปิดให้ชมฟรีทุกวัน

“ส่วนใต้ถุนบ้าน “เรือนโคราช” ก็จะเป็นกึ่งพิพิธภัณฑ์ของเก่าอีสานเช่น มีเกวียน เครื่องโม่แป้ง ไซจับปลา เครื่องบดยา สวิงฯลฯ เป็นอุปกรณ์พื้นบ้านของอีสานที่ใช้ดำรงชีวิต และเรายังออกแบบให้พื้นที่เชื่อมต่อกันได้ ซึ่ง “เรือนโคราช” ข้างในจะมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมมีสายน้ำ ที่เราดีไซน์ให้ดูเหมือนบ้านที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติแต่อยู่ใจกลางเมือง ซึ่งเราเปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.ทุกวัน ก็มีประชาชนที่มาสักการะคุณหญิงโมและชาวโคราช มาชมและถ่ายรูปทุกวันจำนวนมาก”

คอนเซ็ปต์ศูนย์รวมศิลปะ-วัฒนธรรม

“คอนเซ็ปต์ “เรือนโคราช” ส่วนใหญ่เราจะสนับสนุนงานด้านศิลปะ รูปปั้นหรือภาพเขียน เพื่อให้นักเรียนนักศึกษามาโชว์ผลงาน ล่าสุดก็มีผ้าไหมมาโชว์ เราอยากทำสถานที่ “เรือนโคราช-เฉลิมวัฒนา” ให้เป็นแหล่งที่จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนเช่นผลงานจากด่านเกวียน และมีการเรียนการสอน ศิลปะต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้รับการติดต่อจากผู้จัดงานสีน้ำโลกที่จะมีผู้เข้าร่วมจาก 93 ประเทศ ซึ่งจะมีงานประมาณเดือนธันวาคม 2561 นี้ จัดในหลายๆห้าง “เรือนโคราช”ของเราก็จะเป็นจุดหนึ่งของงานด้วย ผมอยากให้ “เรือนโคราช” เป็นศูนย์รวมผลงานอาร์ทต่างๆ”

เตรียมเปิดโรงแรม 21 ห้องวิวลานย่าโม

คุณนิว กล่าวอีกว่า “สำหรับพื้นที่เฉลิมวัฒนา ตึกบริเวณด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งมีตึกทวีรักษ์ 4 ชั้น และตึกเฉลิมวัฒนา 3 ชั้น หลังจากที่เรารับมาดูแลเองก็ได้มีการปรับปรุงเป็นห้องพักชั้น2 -ชั้น4 เพราะชั้นล่างเป็นร้านกาแฟ Mezzo เราได้ปรับปรุงพื้นที่เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น มีห้องพักรวมทั้งสองตึกทั้งหมด 21 ห้อง ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการขอใบอนุญาตทำเป็นโรงแรม ตั้งราคาไว้เริ่มต้นที่ 1,000 กว่าบาท/คืน ในบริเวณใกล้กันมีห้องประชุมขนาด 30 ท่านพร้อมเทคโนโลยีของบอร์ดกระดานระบบสัมผัสที่สามารถบันทึกและส่งออนไลน์เข้าสมาร์ทโฟนได้เลย โดยโครงสร้างตึกเก่าจะเหมือนเดิมสามารถมองวิวลานย่าโมได้อย่างงดงาม แต่ปรับปรุงทางเดินรอบๆตัวตึกให้เดินได้ริมหน้าต่างในส่วนของระเบียงเป็นโครงเหล็กเพื่อความแข็งแรงทั้งหมด”

ลงทุนจากเงินออม แลนด์มาร์คหน้าย่าโม

“อย่างภายในห้องพักโรงแรมทั้ง 21 ห้อง ก็จะมีรูปวาดแท้ๆที่เป็นฝีมือจากศิลปินแห่งชาติไม่ใช่รูปภาพ เป็นภาพวาดของจริงติดประดับอยู่ในทุกห้องของโรงแรมเราด้วย คืออยากให้คนได้เสพงานศิลปะอย่างแท้จริงๆ ซึ่งได้ลงทุนไปมากพอควร โดยเราได้ใช้เงินออมและไม่ได้กู้แบงก์มาลงทุนทำโปรเจ็กต์นี้เลย เราจึงคิดเพิ่มไปเรื่อยๆเพราะที่นี่เป็นมรดกของครอบครัวที่ต้องอนุรักษ์ไว้และทำให้คนโคราชได้เข้ามาดูมาชม และหวังจะเป็นแลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวหน้าลานคุณหญิงโมที่ใครมาไหว้สักการะท่านก็น่าจะข้ามมาชมเรือนโคราชด้วย”

ลานอีเว้นท์ / CO-WORKING SPACE

“ส่วนพื้นที่ด้านล่าง ตอนนี้มีแผนเรื่องการบริหารพื้นที่ใน 2-3 วัตถุประสงค์หลัก คือ ใช้ลานกลางแจ้ง ซึ่งมีเวทีกลาง ระบบแสงสีเสียงครบ ทางขึ้นลง 7 ทาง รอบทุกทิศทาง เป็นพื้นที่สำหรับผู้สนใจจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ และห้องบางส่วนใน 18 ห้อง ให้บริการ co-working space จะขายความเงียบ ที่คงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความสงบ และเป็นส่วนตัว หรือ จัดประชุมแบ่งเป็น workshop กลุ่มเล็กๆ ทั้งความเงียบ ร่มรื่น ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ดี และอีกบางส่วนกำลังหาคู่ค้าที่มีแนวคิดไปในทางเดียวกัน อาจเป็นร้าน แนว art & craft, สปา, นวดแผนโบราณ, ของที่ระลึก, หรือแม้กระทั่ง สำนักงานเล็กๆ นอกจากนี้ พื้นที่ด้านล่างก็จะเปิดให้เช่า ซึ่งหวังว่าในอนาคตจะมีร้านอาหารรวมถึงร้านเสริมสวย เข้ามาให้บริการเป็นเรื่องเป็นราวมากยิ่งขึ้น”

มีโซนร้านอาหารทั้งพื้นบ้านและทั่วไป

“ซึ่งตอนนี้ก็มีติดต่อมาหลายร้านโดยเราก็ต้องดูและคัดไปตามเงื่อนไข แต่ในอนาคตก็อาจจะมีร้านผัดหมี่โคราช หรือขนมจีนประโดก และร้านอาหารหลากหลายโดยไม่ได้ตั้งขีดจำกัดว่าจะต้องเป็นอาหารพื้นบ้านเท่านั้น และยังมีพื้นที่ให้ประชาชนชาวโคราชได้เข้ามาใช้ประโยชน์ คิดว่าหลังสงกรานต์น่าจะลงตัวขึ้น” คุณนิว กล่าวทิ้งท้าย

………………………………………………………….