สวัสดีฤดูฝนอย่างเป็นทางการครับ ฤดูฝนมาเยือน ความน่าเบื่อของคนส่วนใหญ่ก็คงจะหนีไม่พ้น ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ดูจะลำบากไปหมด แต่สำหรับผมแล้ว นั่นมันคือความตื่นเต้น และการวางแผนที่ดีครับ ……….มาวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปเที่ยวสไตล์แค้มป์ปิ้งกางเต็นท์นอนกันครับ ว่าแต่ จะกางเต็นท์นอนในฤดูฝนเนี่ยนะ ใช่แล้วครับ ฤดูฝนนี่แหล่ะ (ยังไม่เคยลองเลย) ถ้าเราศึกษาอากาศดีๆ วางแผนดีๆ ก็สามารถทำได้ และแล้วสถานที่แห่งหนึ่ง ก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย นั่นก็คือ เขาแผงม้าวังน้ำเขียว ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง เขาแผงม้ามีอะไร เขาแผงม้าที่รู้ๆจักกันโดยทั่วไป ก็คือแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าสงวนอย่าง “กระทิง” นับร้อยตัวนั่นเองครับ จากนั้นผมก็เริ่มหาข้อมูล หาสถานที่ โดยก่อนหน้านั้นเมื่อสองสามปีก่อน ผมก็เคยขึ้นไปบนเขาแผงม้ามาอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยเจอกระทิงเป็นฝูงสักครั้งเลย หรือ มีเห็นอยู่บ้าง 1 ตัว ระหว่างทางขึ้น จึงวางแผนหาข้อมูลใหม่ ที่ไหน ที่จะได้เห็นกระทิงเป็นฝูง ได้เห็นแบบใกล้ชิด ชิดใกล้ และคำตอบก็ออกมาเป็น “จุดสกัดเขาสูง” เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาแผงม้านั่นเอง ……….ว่าแล้วก็ไปสำรวจเส้นทาง และสถานที่จริงกันก่อนครับ เนื่องจากผมอยู่โคราช ถือว่าไปสำรวจไปเซอร์เวย์เส้นทางกันก่อน ไม่รีบครับ เพราะหน้าฝนไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้ว ……….มาเริ่มกันที่เส้นทางกันก่อน ถ้ามาจากโคราช ถึงตลาด 79 ถนน 304 ขับเลยขึ้นมาหน่อยก็ให้เลี้ยวขวา ใช้เส้นทางหลวงชนบท 3052 วังน้ำเขียว-เขาใหญ่ ประมาณ 12 กม. โดยทางเข้าจะอยู่ซ้ายมือ หรือทางเข้าบ้านคลองทรายครับ จุดสังเกต ก็มีศาลาเก่าๆคลาสสิคอยู่บริเวณทางเข้าตามรูปเลยครับ ขับรถเข้ามาเรื่อยๆเราก็จะเจอแล้วครับ ฝูงแรกเลย แต่ๆ ไม่ใช่ ฝูงกระทิงนะครับ พอดีเห็นควายพลางตัว ก็เลยแวะถ่ายรูปสักหน่อยครับ ใจเย็นๆ ไปเรื่อยๆ ไปกันต่อครับ สำหรับถนนเส้นทางเข้านั้น ก็จะมีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สลับกันไป สำหรับรถที่จะขึ้นไปได้ก็ตั้งแต่ รถจักรยานยนต์ ถ้าเป็นรถยนต์ ก็ตั้งแต่รถเก๋งเป็นต้นไปเลยครับ (ถ้าโหลดเตี้ย จะขึ้นลำบากถึงขึ้นขึ้นไม่ได้นะครับ) ขับไปเรื่อยๆ ค่อยๆไปครับ และอย่าใช้ความเร็ว เพราะเป็นเขตชุมชน เราก็จะผ่านโรงเรียบบ้านคลองทราย ที่อยู่สองฝั่งถนน ถัดไปก็จะเป็นวัด แล้วก็จะสังเกตเห็นศาลา จะมีทางแยก ให้เลี้ยวซ้าย ไปตามภาพเลยครับขับไปเรื่อยๆ ค่อยๆไต่ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ เนื่องจากวันที่ผมไปสำรวจเส้นทาง เป็นช่วงเวลาหลังจากที่ฝนตกหนักพอดี เส้นทางก็จะเละๆ ลื่นๆหน่อย ต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษครับ แต่เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วอากาศดีมากๆครับ แล้วเราก็เดินหาเดินสำรวจกระทิงกันก่อนเลย และก็โชคดีครับ เจอเข้าให้ 1 ตัว เดินหาอาหารกินอยู่แถวๆถนนทางขึ้น ผมก็เดินอยู่บนแนวเขาไปเก็บภาพไว้สักหน่อย แต่ก็สงสัยว่า ทำไมมันออกมาเดินเล่นบนถนนแบบสบายใจเลยล่ะ คือ ที่นี่เป็นจุดสกัด จะมีแนวรั้วไฟฟ้ากันอยู่นะก็เลยสอบถามกับเจ้าหน้าที่ ที่ประจำอยู่ที่นั่นครับ ได้ความมาว่า มันจะมีอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่ชอบออกนอกแนวรั้วไฟฟ้า ก็ไล่กลับเข้าป่าบ่อย แต่ก็ออกมาบ่อยเช่นกัน เพราะกลุ่มนี้ จะชอบหาอาหารกินตรงเขาทางขึ้นครับ และก็จะอยู่บริเวณนั้นตลอดไม่ไปไหน แต่ตัวนี้ เห็นว่า ขึ้นมาเดินเล่นแถวนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว หลังฝนตกเมื่อตอนเย็นก็เลยขึ้นมาใหม่……….หลังจาก ที่สำรวจสถานที่กางเต็นท์และสิ่งอำนวยความสะดวก เกี่ยวกับการจะมาพักที่นี่ เจ้าหน้าที่บอกว่า มีที่กางเต็นท์ให้ มีไฟส่องสว่าง (พลังงานแสงอาทิตย์ หมดตอนไหนก็ตอนนั้น) มีห้องน้ำ มีน้ำไหลสะดวก มีห้องสำหรับอาบน้ำด้วย ตอนนี้ ยังไม่มีการเก็บค่าบำรุงรักษาอะไร แต่ก็ขอให้อยู่ในกฎในระเบียบ ส่วนเรื่องอาหารก็ต้องเตรียมมากันเอง ……….เมื่อได้ความอย่างนั้นแล้ว ก็เริ่มมันใจและจะมาลองนอนพักสักคืนแล้วครับ ผมยืนรอกระทิงฝูงใหญ่อยู่สักพัก ก็ไม่เห็นมีสักฝูงเลย หรือ อาจเป็นเพราะฝนตกหนัก กระทิงหลบหนีเข้าป่ากันไปหมด จึงตัดสินใจกลับก่อนดีกว่า ไว้ค่อยมาเฝ้ารอใหม่ในรอบหน้า ซึ่งระหว่างทางกลับนั้นก็เจอลูกกระทิงด้วย กำลังน่ารักเลยเชียว สงสัยจะหลงแม่ หรือหลงฝูง ก็ไม่แน่ใจ เพราะรออยู่นานก็ไม่เห็นกระทิงตัวอื่นๆเดินตามมาเลย หรืออาจกำลังจะตามไปหากลุ่มใหญ่ก็เป็นได้……….1 สัปดาห์ผ่านไป หลังจากทำการบ้านมาพอสมควร ก็เตรียมเต็นท์เตรียมอาหาร มาพร้อมกับครอบครัวและหลานๆ อีก 2 คน วันนี้สภาพอากาศถือว่าดีมากๆ ท้องฟ้าแจ่มใส มีแสงแดดอ่อนๆยามเย็น สลับไปสลับมาเป็นช่วงๆ ซึ่งก็เหมาะกับกระทิงที่จะออกมาให้เชยชมในช่วงเย็นครับ ระหว่างทางขึ้นครับ เจอกลุ่มนอกรั้ว แต่อยู่คนละฟากเขา แวะจอดรถยืนดูอยู่สักพัก ก็เดินหายเข้าป่าไปแล้ว ที่มองเห็นอยู่ไกลๆ นั่นก็คือ จุดชมวิว ส่องกระทิง ของเขาแผงม้าครับ จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายๆคน ที่จะมาดูกระทิงเขาแผงม้า และก็แห้วไปตามๆกัน เว้นเสียแต่โชคดีจริงๆ ถึงจะเห็นจากจุดนี้ครับ ขับรถขึ้นมาถึง จุดสกัดเขาสูงแล้ว ก็รีบกางเต็นท์เลยครับ เดี๋ยวค่ำๆ อาจจะได้เห็นกระทิงออกมาให้เชยชมกัน กางเต็นท์เสร็จเรียบร้อย รวมๆแล้วคืนนี้จะนอนกันทั้งหมด 5 คนครับ ลานกางเต็นท์ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เยอะเลยทีเดียวครับในอนาคต โดยเฉพาะในฤดูหน้า ถ้าใครจะมาท้าลมหนาวที่นี่บอกไว้ เลยว่าต้องเตรียมตัวดีๆครับ เพราะลมแรงมากๆ พาเจ้าตัวน้อยเดินเล่นกันสักหน่อยส่วนอีกฝั่งเขาก็จะเป็นมุมของที่พักเจ้าหน้าที่ครับ กลางคืนค่อยอุ่นใจหน่อยเดินขึ้นไปรอชมกระทิง แต่ก็ไม่มีออกมาให้เห็นเลย นักท่องเที่ยวก็ผิดหวังไปตามๆกั รอนานแล้ว ยังไม่เห็นกระทิงสักตัว ก็เลยพาเด็กๆลงมาเดินเล่นที่จุดกางเต็นท์กันก่อนครับ ช่วงนี้อากาศดีมากๆ ครับ ลมเย็นสบาย กับแสงแดดอุ่นๆยามเย็นแม้จะยังไม่เห็นกระทิงอย่างที่ตั้งใจ แต่ถ้าใครคิดที่จะมากางเต็นท์นอนพักผ่อนดื่มด่ำบรรยากาศละก็ ที่นี่ก็ไม่ผิดหวังแน่นอนครับแต่…แต่… เดี๋ยวก่อน เคยได้ยินคำนี้หรือป่าว การรอคอยที่ไม่สูญเปล่า นั่นแหล่ะครับ มีเสียงฮือฮามาจากกลุ่มนักท่องเที่ยว อีกทางด้านหนึ่ง ผมก็รีบคว้ากล้องพร้อมขาตั้งรีบตรงดิ่งไปเลยครับ เสียงฮือฮากันขนาดนี้แสดงว่าต้องมีอะไรแน่ๆ แล้วก็มีจริงๆครับ ฝูงกระทิงกว่า 100 ชีวิต ที่พากันลงมากินหญ้าตรงเนินเขาด้านล่างนี้ ที่เหมือนเป็นกับการให้ของขวัญสำหรับผู้มาเยือนที่อดทนรออย่างยาวนาน ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ บอกว่า ไม่บ่อยหนักที่มันจะลงมาตรงจุดนี้ แต่วันนี้โชคดีที่มันลงมา แต่ก็ลงมาในช่วงที่แสงกำลังจะหมดไปเช่นกันแต่สำหรับผม มันคุ้มค่ามาก แก่การรอคอย เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้เห็นฝูงกระทิงแบบชิดใกล้แบบนี้ เห็นวิถีของสัตว์ป่า ที่ไม่เหมือนกับที่ดูในสวนสัตว์ แต่ที่นี่ต่างกันโดยสิ้นเชิงมันเห็นถึงวิถีชีวิต เห็นถึงความสวยงาม และความน่าอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ดูชม แม้เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ นาทีทองแค่ประมาณ สิบกว่านาทีเท่านั้น แต่ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้วครับ สำหรับการมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ของจุดสกัดเขาสูง เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาพอแสงเริ่มหมด ก็ได้เวลากลับเต็นท์แล้วครับ จะได้กินข้าวกินน้ำกันช่วงเวลาอาหารมื้อค่ำ ที่กินง่ายๆ บนบรรยากาศวิว 360° บวกกับ แอร์ธรรมชาติเย็นๆ บนพื้นที่ชั้นบรรยากาศของแหล่งโอโซนที่มีความสมบูรณ์อันดับต้นๆของโลก คิดๆไปแล้วก็เหมือนพาเด็กๆมาเข้าค่ายลูกเสือกันเลยทีเดียวแสงธรรมชาติกำลังจะหมดไป ก็ถูกทดแทนมาด้วยแสงไฟสว่างจากหมู่บ้าน และรีสอร์ท ที่อยู่ด้านล่าง แต่คืนนี้เราก็ไม่ได้โดดเดี่ยวและเดียวดายซะทีเดียว มีกลุ่มพี่ๆ ที่มาจากโคราช มากางเต็นท์นอนเหมือนกันครับ……….และเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นครับ เวลาเกือบๆ ตีสอง ลมก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ฟ้าก็เริ่มร้องมาแต่ไกลๆ จากสายตาแล้วน่าจะเป็นฟ้าร้องอยู่ทางเขาใหญ่ แต่ก็มีเมฆเคลื่อนตัวมาเรื่อยๆเหมือนกัน ผมเปิดเต็นท์ออกไปดูสถานการณ์ ดูแล้วอาจจะมีฝนแน่ๆคืนนี้ หันไปหาพี่ๆที่กางเต็นท์นอนด้วยกันเมื่อช่วงเย็น อ้าว!!! หายไปไหนหมด งานเข้าแล้วไง เนื่องจากลมแรงมากๆ ทำให้พี่ๆ เอาเต็นท์ไปกางนอนตรงห้องน้ำกัน ให้ห้องน้ำช่วยรับแรงลมแทน และจากสถานการณ์ดูท่าทีฝนคงจะมาแน่ๆ ผมก็เลยพาเด็กๆขึ้นรถก่อน แล้วก็รีบเก็บเต็นท์เลยครับ ……….หลังจากนั้นผมก็พาเด็กๆ ไปนอนใต้เต็นท์ใหญ่ที่เขากางไว้สำหรับทำกินกรรมเมื่อตอนเช้าที่ผ่านมา สรุปคือ อีก 3 ชั่วโมงที่เหลือก่อนจะเช้า ก็พากันเปิดกระจกรถนอนอัดกันบนรถครับ มีฝนตกมาบ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับแรง แต่ที่แรงคือลม ถ้าไม่เก็บเต็นท์ สงสัยจะรับแรงลมไม่ไหวแน่ๆ และนี่ก็เป็นอีกเรื่องราวที่ทำให้ตื่นเต้น และได้ประสบการณ์ไปเต็มๆเลยครับ……….“อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับ”….หลังจากผ่านเรื่องราวตื่นเต้นมาเมื่อคืน เช้านี้อากาศก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหน่อยๆ ผมตื่นมารอดูฝูงกระทิงของเมื่อวานตั้งแต่ ตีห้ากว่าๆ แต่ก็ยังไม่เห็นออกมาครับ เจ้าหน้าที่บอกว่า ประมาณ สายๆ หรือเกือบๆแปดโมง มันจะเดินกลับมาใกล้ๆเส้นทางเดิม และก็เดินเข้าไปไปหาหลับหานอนกันครับและประมาณเจ็ดโมง ก็เริ่มเห็นฝูงกระทิงเมื่อคืนแล้วครับ แต่พวกมันก็ขึ้นไปอยู่เกือบๆกลางเขาแล้ว มองเห็นไกลๆเจ้าหน้าที่บอกว่า พอสายๆหน่อยมันก็จะเดินย้อนกลับลงมา แล้วก็เข้าป่าด้านหลังไปเลย กลางวันมันจะนอนเป็นส่วนใหญ่ และจะออกหากินในเวลากลางคืน ซึ่งก็จะวนๆเวียนๆอยู่ประมาณนี้ และถ้าโชคดีหน่อย เราก็ได้เห็นมันตรงที่เก่า เวลาเดิมผมก็นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ รอว่าเมื่อไรมันจะเดินลงมาสักที ระหว่างรอก็เก็บภาพบรรยากาศรอบๆไปด้วยครับ ฟ้าเริ่มเปิดขึ้นมาบ้างแล้วรออยู่สักพักใหญ่ก็ไม่ลงมาสักที แต่ๆ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ไปไหนง่ายๆซะแล้วซิ มันคือพากันนอนเล่นแบบนั้นล่ะจากจุดที่นั่งดูก็อยู่ประมาณนี้ครับ ส่วนกระทิงก็อยู่เขาลูกที่สอง ที่มองเห็นไกลๆนั่นแหล่ะเช้านี้ ไม่มีแสงแดด ท้องฟ้าปิดอึมครึม คาดว่าฝนน่าจะมาแน่ๆในช่วงบ่าย โชคดี วันที่ผมมาท้องฟ้าแจ่มใส แม้กลางคืนจะมีอุปสรรค์นิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าโชคดีหลังจากรอกันอยู่นาน กระทิงก็ไม่กลับลงมาเส้นทางเดิมซะที ก็เลยตัดสินใจกลับกันดีกว่า ……….และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งทริปท้าทายในฤดูฝนปีนี้ครับ เป็นกรท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเป็นการพาครอบครัวมาพักผ่อน ตอนแรกคิดว่าเจ้าตัวน้อยจะยาก จะลำบาก แต่เปล่าเลย เขากลับชอบมันมากๆ หรืออาจจะเป็นเพราะผมพาเดินทางตั้งแต่เด็กๆ จึงปรับตัวได้กับทุกที่ไม่ยาก ……….ก็ผ่านพ้นไปครับ สำหรับประสบการณ์ดีๆ อาจจะพอเป็นไกด์ไลน์ให้ใครหลายๆคนได้บ้าง ที่คิดอยากจะมาสัมผัสชีวิต สัมผัสธรรมชาติแบบนี้ ขอแค่ เตรียมตัวดีๆหน่อย เป็นขาลุยสักหน่อย รับรองได้เลยว่า แค่นี้จิ๊บๆครับ ……….และอย่าลืมนะครับ เราเข้าไปในบ้านของสัตว์ ดังนั้นเราก็ควรเคารพกฎและข้อจำกัดของเราด้วย เพื่อที่จะไม่เป็นการรบกวนซึ่งกันและกัน และที่สำคัญ เรื่องความสะอาด เราเอาอะไรไป ก็ควรเอากลับออกมาให้หมดครับ ไม่เว้นแม้แต่ขยะ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าทีด้วย เพาะตอนนี้ ยังไม่มีการเก็บค่าบำรุงรักษา และค่าบริการอะไรเลย ดังนั้นนักท่องเที่ยวก็ต้องช่วยกันด้วยครับ เรื่องและภาพโดย namotrips.com
บุญใหญ่ ครอบครัวสุวรรณชาติ บริจาคที่ดินให้ รพ.มหาราช ที่ดินเนื้อที่ 237.4 ตารางวา พื้นที่ติดกับตลาดสุรนารี
ปีนี้เตรียมตัวโยก neon space Yappah Fest #4 เทศกาลดนตรีใหญ่กลางเมืองโคราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ Mayfair Market