Maze Runner: The Death Cure เมซ รันเนอร์: ไข้มรณะ

มาถึงบทสรุปของไตรภาคนักวิ่งหนีตายจากเขาวงกต หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆหนังรอคอยมานานเกือบ3ปี วันนี้ก็ถึงวันที่เราจะรู้แล้วว่ากลุ่มนักวิ่งนี้พวกเขาจะรอดชีวิตจากเมืองที่มีโรคร้ายนี้ได้อย่างไร

เหตุผลที่ปล่อยให้แฟนๆรอนานนั้นก็เพราะว่าระหว่างถ่ายทำได้เกิดอุบัติเหตุกับตัวพระเอกของหนัง โทมัส (ดีแลน โอ’ ไบรอัน) โดนรถชนระหว่างถ่ายทำฉากแอ็คชัน จากที่ต้องเข้าฉายเมื่อ กุมภาพันธ์ 2017 มาเข้าเดือน มกรา 2018 แทน

ทีมงานนักแสดง และผู้กำกับของหนังภาคนี้ก็ได้ทีมเดิมกลับมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Dylan O’Brien ในบท Thomas, Ki Hong Lee ในบท Minho, Kaya Scodelario ในบทหญิงสาวตัวแสบ Teresa และ Thomas Brodie-Sangster ในบท Newt พร้อมทั้งยังได้ Wes Ball ผู้กำกับจากสองภาคแรกกลับมาจบตำนานไตรภาคเขาวงกตนี้

โดยภาคนี้จะเล่าเรื่องต่อจากตอนจบภาคที่แล้วไม่นาน หลังจากที่ตอนจบภาคที่แล้วมินโฮถูกจับตัวไป ทางฝั่งโทมัสก็หาทางช่วยเหลือ จนสุดท้ายจับพลัดจับผลูต้องเข้าไปในตัวเมืองสุดท้ายที่ยังอาศัยอยู่ได้เพื่อเข้าไปช่วย และยังมีเรื่องยารักษาที่ถ้ายังหาเจ้าของเลือดที่มีภูมิต้านทานสามารถรักษาโรคไม่ได้ ทุกคนบนโลกก็จะกลายเป็นซอมบี้อีกด้วย

 

พูดถึงความรู้สึกของเราที่มีต่อหนังเรื่องนี้ดีกว่า

  • โดยส่วนตัวเรา เราชอบหนังเรื่องนี้มากนะตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เพราะว่าด้วยความใหม่ของตัวเรื่องที่เอาคนมาอยู่รวมกันในที่หนึ่ง และหาทางออกไป ซึ่งทางออกก็ยากอีก เป็นเขาวงกตอีก คือมันเซ็ตเรื่องเซ็ตตัวละครมาดีมาก ตอนดูก็สนุกตื่นเต้นไป แล้วพอจบภาคแรกเราก็ตื่นเต้นมันออกไปได้แล้วมันจะพาเราไปทางไหนอีกละ ตอนนั้นแบบตื่นเต้นและรอดูภาคสองแบบสุดๆ
  • แต่พอได้ดูภาคสองมันกลับดูออกทะเล มันพาเราไปเจอองค์กร เจอทะเลทราย เจอภัยพิบัติฟ้าผ่า เจอซอมบี้ เราแบบเห้ย นี่มันหลุดแล้ว มันออกทะเลแล้ว แล้วเขาวงกตเราละ มันดูเป็นคนละเรื่องกับภาคแรกเลย เราเลยเกลียดหนังเรื่องนี้ไปเลยทั้งๆที่ภาคแรกชอบมา
  • พอภาคสามมาก็จะไปดูให้มันจบๆไปไหนๆก็ดูมาขนาดนี้แล้ว ปรากฎระหว่างดูเห้ย เราสนุกเว่ย มันเพลิดเพลินมาก เรากลับมาลุ้นกับตัวละคร เราสนุกไปกับเรื่องราวถ้าถามเฉยๆว่ามันสนุกมัน เราว่ามันสนุกนะ แต่ถามว่ามันดีไหม มันก็ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่หรอก แต่มันสนุกคุ้มกับการเข้าไปดู
  • อาจจะเพราะว่าภาคสองมันทำได้ห่วยแตกมาก พอมาภาคสามเราเลยไม่คาดหวังอะไรเลยไปดูๆแบบให้มันจบๆไป เออ พอไปดูมันก็สนุกดี หรือเพราะเราไม่ได้คาดหวังมันเลยสนุก ฮ่าๆๆ
  • หนังมันมีฉากแอ็คชันที่ดูสนุกดี ตั้งแต่ฉากขับรถไล่รถไฟ (ซึ่งมันก็ทำให้อดนึกถึงfast5ไม่ได้จริงๆ ฮ่าๆ), ฉากหนีตายจากการโดนกลุ่มทหารไล่ล่า, ฉากขับรถบัสหนีการจับกุม และอื่นๆอีกเยอะ มันทำให้ลุ้นดี ถือว่าเอามากลบเกลื่อนบทที่อ่อนได้ดี
  • หนังมันยังทำดราม่าท้ายเรื่องได้อีก เราได้เห็น เราได้ซึ้งกับความสัมพันธ์ของเพื่อน มิตรภาพที่มีระหว่างกันของเพื่อน ถ้าใครอินจัดๆกับเรื่องนี้นะ คงน้ำตาแตกแบบอยู่ไม่อยู่แน่ๆ
  • แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะ บางทีหนังมันจะไม่สมเหตุสมผลเฉยๆเลยก็มี บางทีมันจะมีเหตุผลจริงจังเหมือนมันยึดหลักเหตุผลนี้มาทั้งชีวิตเฉยๆเลยก็มี บทจะเว่อร์เกินจริงก็เว่อร์ไปเลย มันไม่มีความพอดีเลยอ่ะ เกินๆไปซะทุกอย่าง แต่อย่างที่บอกเจอเรื่องเดินเร็ว เจอแอ็คชั่นชุดใหญ่ มันก็มองข้ามไปได้
  • ตัวร้ายในเรื่องก็เป็นตัวร้ายแบนๆ ไม่ได้มีเหตุผลที่จะร้ายเลยว่าทำไปทำไม โผล่มาก็ร้ายเลย มันไม่มีเหตุผลรองรับที่จะร้ายอ่ะ

 

สรุป

ถือว่าหนังมันสรุปจบได้ดี(ถ้าเทียบกับภาคสองอ่ะนะ) หนังสนุก ตื่นเต้น ซึ้ง แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างแต่มันเล็กน้อยมาก แต่ก็โดนฉากแอ็คชันกลบไปหมด โดนความเร็วหนังพาเรื่องเดินไปอย่างรวดเร็วจนไม่ทันจะได้หาจุดผิดเลย ถ้าให้เทียบความชอบจากภาคแรกจนจบจากมากไปน้อย 1-3-2 ใครยังไม่เคยดูก็แนะนำว่าไปหาสองภาคแรกมาดูก่อน ถ้าใครดูมาก่อนแล้วก็คงไม่น่าพลาดภาคจบนี้ ส่วนแฟนๆก็คงไม่ต้องชวนแล้วมั้ง น่าจะไปดูกันหมดแล้ว ยังไงก็แนะนำนะ หนุกๆดีแหละ

 

IMDb : 7.0

Rotten Tomatoes : 45%

 

รูปภาพจาก : https://www.facebook.com/MazeRunnerThailand/


Comments are closed.

Check Also

รีวิว Be With You (2018) | ภาพยนตร์รีเมคจากประเทศญี่ปุ่นเอากลับมาทำใหม่ในสไตล์เกาหลี เรียกน้ำตาผู้ชมได้แทบทั้งโรง

Be With You : ปาฏิหาริย์ สัญญารัก ฤดูฝน   เหมือนกั … …