‘ผู้การโคราช’ แจงข้อเท็จจริงคลิปหนุ่มโวยวายท้าทายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ และล่าสุดหนุ่มคนดังกล่าวเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

จากกรณีที่สังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอความยาวร่วม 10 นาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้แสดงตัวขอตรวจค้นชายไทยวัยกลางคนจำนวน 2 คน ที่กำลังนั่งกินเบียร์อยู่ในร้านส้มตำอีสาน ตรงข้ามร้าน “ เช็คอิน ” สถานบันเทิงชื่อดังย่านถนนช้างเผือก เยื้องทางเข้าโรงพยาบาลมหาราช เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา โดยชายร่างอ้วนท้วมสวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงขาวยาวสีน้ำเงินเข้ม มีลักษณะอาการมึนเมาได้ส่งเสียงโวยวายต่อว่าด่าทอการปฏิบัติงานถึงสาเหตุที่จะมาจับกุมด้วยข้อหาอะไร ทำไมต้องเชิญไปโรงพัก พร้อมกล่าวพาดพิง “รองโอ๋” พ.ต.ท มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมือง ด้วยข้อความค่อนข้างรุนแรงและยังแสดงพฤติการณ์ท้าทายยื่นมือทั้งสองข้างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับใส่กุญแจมือรวมทั้งกล่าวอ้างรู้จักมักคุ้นกับนายตำรวจระดับสูง เป็นเครื่องหมายคำถามในสังคมชาวโคราช “ใครผิดใครถูก” ทำไมตำรวจจะต้องมาจับกุมคนนั่งกินเบียร์ในร้านส้มตำด้วย

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ห้องทำงานกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้แสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานที่เกี่ยวข้องโดยให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นได้ดำเนินคดีบุคคลที่ปรากฏในคลิปด้วยข้อกล่าวหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งหน้า ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นคนภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ได้ส่งเสียงเดือดร้อนรำคาญท้าทายการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ได้ใหญ่โตอะไร ตนยืนยันไม่รู้จักชายคนในคลิปแต่อย่างใด บุคคลที่รู้จักกับตน ต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย หากแอบอ้างต้องปรับเป็น 2 เท่า

ล่าสุดวันนี้ ( 13 ธันวาคม) ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา บุคคลดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนายฉัตรชัย หรือเก่ง ปาละแดง อายุ 42 ปี เจ้าของร้านส้มตำช้างเผือก ที่อยู่บ้านเลขที่ 503/5 ถ.ช้างเผือก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมนายปรีชา หรือเป๋ สินปรุ อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอยู่เขต ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และที่ปรึกษากฎหมายได้เดินทางมาโดยนำดอกดาวเรืองกราบขอโทษ พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ที่ห้องทำงาน ซึ่งนายเก่งได้แอบอ้างชื่อโดยอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

แหล่งที่มา : มติชนออนไลน์