น้ำใกล้หมด! โคราช 27,000 ครัวเรือน เสี่ยงวิกฤตเหลือน้ำใช้ไม่ถึงเดือน ผู้ว่าฯสั่งดึงน้ำใกล้เคียง

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย เร่งรุดสำรวจแหล่งเก็บน้ำดิบ พร้อมสั่งสูบน้ำที่ค้างอยู่บริเวณใกล้เคียงเข้ามาเพิ่มให้ได้มากที่สุด

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 59 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำ ที่อ่างเก็บน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา บ้านโนนไม้แดง ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา โดยมีนายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายประกอบ พิทยาภรณ์ ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาค เขต 2 พร้อมด้วยตัวแทน ปภ.จังหวัด และผู้บริหารการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ร่วมตรวจสอบด้วย ทั้งนี้ภายหลังจากที่ลำน้ำมูลได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนมีสภาพตื้นเขิน ไม่สามารถใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก 2 เครื่อง สูบน้ำดิบเข้าไปในอ่างเก็บน้ำแทน

ทั้งนี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ให้บริการน้ำประปากับประชาชนในเขตพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.เมืองนครราชสีมา 3 ตำบล ได้แก่ ต.โคกสูง, ต.จอหอ และ ต.หัวทะเล มีประชากรที่ใช้บริการอยู่ประมาณ 27,000 ครัวเรือน ซึ่งภายหลังจากที่ลำน้ำมูลเริ่มแห้งขอด ก็ทำให้แหล่งน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมาแห่งนี้ มีปัญหาขึ้น เนื่องจากไม่สามารถสูบน้ำดิบจากเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ที่ปกติจะสูบน้ำได้ประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงได้โดยตรง

ขณะนี้จึงได้ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก 2 เครื่องแทน ซึ่งสามารถสูบน้ำได้ประมาณ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าน้ำที่เหลือจะสามารถใช้ได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ทางการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ก็ได้ใช้วิธีลดปริมาณการจ่ายน้ำในช่วงกลางคืนลง เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงกลางวันที่มีคนใช้ในปริมาณมาก ขณะเดียวกันทางจังหวัดฯ ก็เร่งประสานหน่วยงาน ปภ.จังหวัดฯ กองทัพภาคที่ 2 การประปาส่วนภูมิภาค กรมทรัพยากรน้ำภาค5 และหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยน้ำเครื่องมือขุดเปิดทางน้ำ หรือสูบน้ำ จากห้วย หนอง คลอง บึง บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งดึงน้ำจากฝายที่ไหลจากลำน้ำมูลไปแล้วย้อนกลับ ให้เข้ามาเติมน้ำในลำมูลสำหรับสูบน้ำเข้ามาเพิ่ม เพื่อให้มีน้ำดิบผลิตประปาได้จนพ้นช่วงหน้าแล้งนี้

โดยทางกองทัพภาคที่ 2 จะจัดกำลังทหารลงพื้นที่สำรวจเส้นทางน้ำจาก ห้วย หนอง คลอง บึง เพื่อวางแผนนำรถแบคโฮขุดลอกเปิดทางน้ำให้ ขณะเดียวการทงกรมทรัพยากรน้ำภาค5 ก็จะนำเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อส่งน้ำมาตามลำน้ำมูลจนถึงหน้าอ่างเก็บน้ำดิบโนนไม้แดงแห่งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มสูบน้ำได้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 59 เป็นต้นไป ซึ่งหากสามารถสูบน้ำมาเพิ่มได้ประมาณ 200,000 ลูกบาศก์เมตร ก็เพียงพอที่จะใช้ได้ถึงเดือนมิถุนายน 2559 แต่ถ้าสูบได้น้อยกว่านี้ก็ต้องมาประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง นายวิเชียรฯ กล่าว